2 Min

รู้ไหม ถ้าไม่อยากให้ “จู๋” สั้นลง ต้อง “ใช้” บ่อยๆ

2 Min
2321 Views
23 Aug 2021

Select Paragraph To Read

  • ทำไมยิ่งแก่ (จู๋) ยิ่งสั้น
  • จู๋สั้น แก้ได้ไม่ยาก
  • ยิ่งใช้บ่อย = ยิ่ง ‘แข็ง’ แรง

ในร่างกายมนุษย์ เมื่อเราแก่ลงไป หลายๆ อย่างก็เปลี่ยนแปลง บางอย่างอาจใหญ่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหู หรือกระทั่งต่อมลูกหมาก และก็มีบางอย่างยิ่งแก่ยิ่งเล็กลง ใช่ครับ สิ่งนั้นก็คือ “กระจู๋” ของท่านชายทั้งหลาย

ทำไมยิ่งแก่ (จู๋) ยิ่งสั้น

เรื่องปกติทั่วไป อวัยวะเพศหรือกระจู๋ของผู้ชายจะ “ยาว” ที่สุดในช่วงประมาณอายุ 20-30 ปี จากนั้นอีก 20 ปีให้หลัง มันจะค่อยๆ “สั้น” ลง หรือให้ตรงคือ “แข็งไม่เต็มที่”

กล่าวคือ การที่จู๋เรา “สั้น” ลงประมาณ 10% เพราะ “แข็งไม่เต็มที่” นี่เป็นเรื่องปกติ ซึ่งถ้าอาการหนักระดับร่วมเพศไม่ได้ เขาจะเรียกว่า Erectile Dysfunction หรือเรียกย่อๆ ว่า ED

แน่นอน นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ชายคนไหนอยากให้เกิด หากถามว่ามันเกิดเพราะอะไร เหตุพื้นฐานจริงๆ อาจเรียกได้ว่ามาจาก “ปัญหาหลอดเลือด”

ถ้าจะอธิบายง่ายๆ เราใช้ชีวิตไป คอเลสเตอรอลก็จะไปสะสมที่ผนังหลอดเลือดทั่วร่างกาย ทำให้เลือดไหลเวียนได้น้อยลง ซึ่งอะไรพวกนี้เป็นคำอธิบายพื้นฐานของโรคหัวใจหรือหลอดเลือดสมองอุดตัน (ที่เรียกสั้นๆ ว่า “สโตรค”)

แต่ก็ไม่ใช่แค่คอเลสเตอรอลจะไปพอกเส้นเลือดหัวใจหรือสมอง จนเลือดไปเลี้ยงไม่พอเท่านั้น เพราะหลอดเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงกระจู๋ตอนแข็งตัวก็มีปัญหาแบบนี้ได้ และนี่ก็คือสาเหตุหลักอย่างหนึ่งที่ทำให้เราแก่ไปแล้ว “จู๋สั้น” ลง

จู๋สั้น แก้ได้ไม่ยาก

แล้วเราจะแก้หรือหลีกเลี่ยงไม่ให้ “จู๋สั้น” ลงยังไง?

คำตอบคือ “มีเยอะ” หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นๆ เช่น

  • อย่ากินเหล้าเยอะเกินไปต่อวัน (มาตรฐานความปลอดภัยอยู่ที่ประมาณ 2 Standard Drink หรือเหล้าประมาณ 3 ฝา เบียร์ประมาณ 1 ขวดใหญ่)
  • อย่าสูบบุหรี่
  • ออกกำลังกายกระตุ้นหลอดเหลือดอย่างเหมาะสม

ซึ่งอะไรพวกนี้ ไม่ต้องไปดูถึงการรักษาคุณภาพกระจู๋หรอก แต่มันคือพื้นฐานของการรักษาคุณภาพของหลอดเลือดธรรมดาๆ คือพอเราอายุมากขึ้นยังไงก็ต้องทำอยู่แล้ว ไม่มีอะไรพิเศษ

ยิ่งใช้บ่อย = ยิ่ง ‘แข็ง’ แรง

เรื่องที่ “พิเศษ” จริงๆ สำหรับการรักษาสมรรถภาพกระจู๋ มันคือการ “ใช้บ่อยๆ”

ประเด็นนี้ ‘คอมมอนเซนส์’ เลย คืออวัยวะไหนไม่ได้ใช้ก็เสื่อม ใช้บ่อยๆ แบบไม่หนักเกินไปก็คือดี คือการที่ “จู๋แข็ง” เป็นเพราะเลือดไปเลี้ยง ซึ่งเลือดไปเลี้ยงคือดี ส่วนการใช้งานก็คือการฝึกกล้ามเนื้อตรงนั้นให้ใช้งานจริง

ตรงนี้เราต้องโละความเข้าใจผิดๆ อย่างการหลั่งอสุจิทำให้ฮอร์โมนเพศชายลดไปก่อน เพราะถึงแม้ว่าพวก “นักกีฬา” จะเชื่อกันแบบนี้เลย “งดเซ็กส์ก่อนแข่ง” แต่ในความเป็นจริง การงดเซ็กส์และการหลั่งไม่ได้ทำให้ร่างกายลดการสะสมฮอร์โมนเพศชายแต่อย่างใด แต่สิ่งที่จะทำให้ลดลงเรื่อยๆ คือ ถ้าชายวัยเจริญพันธุ์ไม่มีเซ็กส์นาน 3 เดือน ฮอร์โมนทางเพศก็จะลดลงเหลือแค่ระดับเด็กผู้ชายเลย

ดังนั้นการมีเซ็กส์บ่อยๆ คือดีต่อสุขภาพกระจู๋ ทำให้มันได้ออกกำลังกาย แต่ถ้าไม่มีคู่นอน การช่วยตัวเองก็เป็นทางออกที่ดี

แต่ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำว่า เราควรจะช่วยตัวเองด้วยท่าที่หลากหลาย อย่าใช้แต่ท่าเดิมๆ เพราะมันจะทำให้เรา “หลั่งช้าเกินไป” หรือกระทั่ง “หลั่งไม่ได้” ตอน “ลงสนามจริง”

เพราะมันจะทำให้ร่างกายชิน และไม่เกิดอารมณ์ทางเพศจากการเสียดสี

อ้างอิง