วันลอยกระทงเป็นวันที่มาพร้อมกับความเชื่อต่าง ๆ นานา แต่เห็นว่าเรื่องความรักคนพร้อมจะอินเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกับความเชื่อนี้ที่ว่า คนโสดไปลอยกระทงด้วยกันแล้วจะได้เป็นแฟนกัน
คำถามคือ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
ว่ากันตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้ว จะมีอยู่ทฤษฎีหนึ่งที่ชื่อว่า Self-fulfilling Prophecy ซึ่งแปลเป็นไทยอย่างง่าย ๆ ว่า คิดอย่างไร ก็ได้อย่างนั้น ซึ่งทฤษฎีนี้อาจจะมาตอบคำถามที่ว่าทำไมคนโสดไปลอยกระทงแล้วได้เป็นแฟนกัน แต่ก่อนเราจะไปถึงจุดนั้น ขออธิบายเรื่อง Self-fulfilling Prophecy เสียก่อนเราจะได้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้น
ในปี 1992 มีงานทดลองหนึ่งของ Robert Rosenthal และ Lenore Jacobson ซึ่งได้วิจัยเกี่ยวกับผลของครูที่มีต่อนักเรียน โดย การวิจัยนี้ทดลองโดยให้ครูผู้สอนบอกเด็กว่าเด็กกลุ่มไหนเก่ง และกลุ่มไหนไม่เก่ง โดยที่จริง ๆ แล้วเด็กทั้งหมดก็เรียนเก่งพอ ๆ กัน แต่พอเวลาผ่านไป เด็กกลุ่มที่ครูผู้สอนเชื่อว่าเป็นเด็กเก่งก็เรียนเก่งขึ้นจริง ๆ และกลุ่มเด็กคนที่ครูผู้สอนเชื่อว่าเรียนไม่เก่ง ก็พาลเอาเรียนไม่เก่งเอาดื้อ ๆ ทั้ง ๆ ที่จริงแล้ว เด็กทั้งสองกลุ่มมีความเก่งหรือฉลาดไม่แตกต่างกันเลย
ซึ่งกระบวนการเกิด Self-fulfilling Prophecy มาจาก Pygmalion Effect โดยมี ปัจจัยหลายอย่างมาเป็นองค์ประกอบ เช่น
1.
เราจะต้องเชื่อว่าเขาเป็นคนเช่นนั้นจริง ๆ และปฏิบัติต่อเขาในแบบที่เราเชื่อ เหมือนอย่างที่เราเป็นคนโสด แล้วชวนอีกฝ่ายที่โสดไปลอยกระทงด้วยกัน เพราะเราเชื่อไปแล้วว่า คนโสดไปลอยกระทงด้วยกันแล้วจะได้เป็นแฟนกัน เราก็จะปฏิบัติกับเขาในอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่ใช่เพื่อนกัน (เพราะเราหวังมากกว่านั้น)
2.
ตัวเราเองก็ต้องมีอิทธิพลต่อความคิดและพฤติกรรมต่อคนคนนั้นด้วย เพราะ Pygmalian Effect คือการใช้อิทธิพลของคนภายนอกไปเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมของอีกฝ่าย ในข้อนี้อีกนัยหนึ่งจึงอาจกล่าวได้ว่า การที่เราชวนคนโสดอีกฝ่ายไปลอยกระทง แล้วเขาตอบรับ มันก็เหมือนเรามีชัยไปแล้วมากกว่าครึ่ง เพราะหากอีกฝ่ายไม่ชอบเรา เราก็คงไม่ได้ไปลอยกระทงด้วยกันตั้งแต่ต้น
3.
ยิ่งจำนวนคนเข้ามามีอิทธิพลเยอะมากเท่าไหร่ โอกาสที่ทัศนคติและพฤติกรรมจะถูกเปลี่ยนเพราะ Pygmalian Effect จะยิ่งสูงมาก ซึ่งหมายถึงว่า ยิ่งความเชื่อ “คนโสดไปลอยกระทงด้วยกันแล้วจะได้เป็นแฟนกัน” มีคนเชื่อมากเท่าไร อัตราความสำเร็จที่หลังลอยกระทงจะได้เป็นแฟนกันก็จะยิ่งสูงมากขึ้นด้วยเช่นกัน
จากทฤษฎี Self-fulfilling Prophecy จึงอาจกล่าวได้ว่า การที่คนโสดไปลอยกระทงด้วยกันแล้วจะได้เป็นแฟนกัน มันคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะคนโสดสองคนคาดหวังอยู่แล้วว่าจะได้คบกันจึงได้ไปลอยกระทง
ส่วนคนโสดจริง ๆ ที่ไปลอยกระทงคนเดียวแล้วหวังว่าจะได้แฟนกลับมา อันนี้เขาเรียกว่าไปวัดดวงเอาหน้างานว่าจะมีคนโสดแบบคิดแบบเดียวกันหรือเปล่ามากกว่า
ว่าแต่ชาว BrandThink คนไหนที่มีแฟนหลังลอยกันกระทงบ้างนะ ?
อ้างอิง: