เศรษฐศาสตร์มหภาค หมายถึง การศึกษาระบบเศรษฐกิจในภาพรวมในระดับชาติและนานาชาติหรือเรียกได้ว่าครอบคลุมเศรษฐกิจทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึงบทบาทและความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร,รัฐบาล กับครัวเรือน และประเภทความแตกต่างของตลาดแตกต่างของตลาด เช่น ตลาดเงินและตลาดแรงงาน ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงแต่ละตัวในสมการ
Y = C + I + G + NX โดยแต่ละตัวมีความหมายดังนี้
• หัวข้อ “GDP” (Y) ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
• หัวข้อ “Consumption”
• หัวข้อ “Investment”
• หัวข้อ “Government”
• หัวข้อ “Net Exports”
หัวข้อ Gross Domestic Product (GDP)
บรรยายโดย คุณทักษอร พรถาวร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานภาคเหนือ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ
โดยในหัวข้อนี้จะมี การบรรยายแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
1) บทบาทหน้าที่แบงค์ชาติในการดำเนินนโยบายการเงิน
2) โครงสร้างและการวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค
บทบาทหน้าที่แบงค์ชาติในการดำเนินนโยบายการเงิน
• หน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย คือดูแลเสถียรภาพ 3 ด้าน ประกอบไปด้วย
1) เสถียรภาพการเงิน – เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้เต็มศักยภาพและไม่เกิดเงินเฟ้อหรือเงินฝืดรุนแรงระบบการเงินสมดุลย์
2) เสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน – เพื่อให้สถาบันการเงินมั่นคง บริหารความเสี่ยงได้ดีและมีประสิทธิภาพในการบริหาร เช่น ต้นทุนต่ำและมีธรรมาภิบาลที่ดี
3) เสถียรภาพและพบการชำระเงิน – เพื่อให้ระบบการชำระเงินมั่นคงปลอดภัยและสนับสนุนธุรกรรมการค้าการชำระเงินรวดเร็วคล่องตัวและต้นทุนต่ำ
• เป้าหมายของการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาค
1) เศรษฐกิจเจริญเติบโต
2) เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ
3) เศรษฐกิจมีความเป็นธรรมไม่เหลื่อมล้ำ
• ประเภทของนโยบายเศรษฐกิจ
1) นโยบายการเงิน โดยแบ่งออกเป็นแบบขยายตัวและแบบหดตัว
2) นโยบายการคลัง โดยแบ่งออกเป็นการใช้จ่ายภาครัฐและการเก็บภาษี
3) นโยบายโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยแบ่งออกเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
• 4 หน่วยงานหลักที่ดูแลเศรษฐกิจของไทย
1) ธนาคารแห่งประเทศไทยดูแลนโยบายการเงิน
2) กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณดูแลนโยบายการคลังและการเงินการคลังภาครัฐ
3) สำนักงานสภาพัฒน์พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดูแลแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
• ค่าของเงิน 3 มิติ
1) อัตราเงินเฟ้อ
2) อัตราแลกเปลี่ยน
3) อัตราดอกเบี้ย
• ประเด็นสำคัญในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินล่าสุด
คณะกรรมการฯมีมติ 5:2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% ต่อปี
– เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2566 ชะลอลงจาก 1) ภาคการส่งออกและภาคผลิตหดตัวกว่าคาด 2)ค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่อทิพย์ต่ำผิดปกติแม้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตามคาด 3)การเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐต่ำลงมากจากงบประมาณที่ล่าช้า
– ในปี 2567 เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 2.5 ถึง 3.0 โดยการบริโภคภาคเอกชนและภาคการท่องเที่ยวยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญขณะที่การส่งออกและการผลิตมีแนวโน้มขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่อาจถูกชุดหลังด้วยปัญหาเชิงโครงสร้าง
– เงินเฟ้อที่ต่ำมาจากปัจจัยเฉพาะไม่ได้สะท้อนอุปสงค์ที่อ่อนแอ จำนวนสินค้าที่ราคาลดลงมีเพียง 1 ใน 4 ของทั้งหมด
– ในระยะข้างหน้าเงินเฟ้อมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำใกล้เคียงร้อยละ1.0
การตัดสินใจนโยบายการเงิน
– กนง.เห็นว่าอุปสงค์ในประเทศมีแรงส่งต่อเนื่องและอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มทยอยเพิ่มขึ้นโดยส่วนใหญ่มองว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจรวมทั้งอู้ต่อการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว
– กนง. 2 ท่านเห็นว่าควรปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำลงและปัจจัยเชิงโครงสร้าง
ทิศทางนโยบายทางการเงิน
– ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจจะมีความไม่แน่นอนสูงจากปัจจัยวัธจักรเศรษฐกิจและปัจจัยเชิงโครงสร้างโดยกนง.พิจารณาดำเนินนโยบายให้เหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
โครงสร้างและการวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค
หัวข้อ Consumption
บรรยายโดย คุณรัชกร ปิยะสัจบูลย์ รองประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่
จังหวัดเชียงใหม่
• ข้อมูลของจังหวัดเชียงใหม่
– ปริมาณผลติภัณฑ์มวลรวมจังหวัดมีมูลค่า 250,000 ล้านบาท (การกระจายรายได้ของประเทศ)
-
ภาคการท่องเที่ยวและบริการ 67.8%
-
ภาคการเกษตร 22.1%
-
ภาคการค้าปลีกค้าส่ง 10.1%
• จุดแข็ง ศักยภาพ โอกาสของจังหวัดเชียงใหม่
1) วัฒนธรรม – มีวัฒนธรรมและภูมิปัญญาที่โดดเด่น ประเพณีที่มีเอกลักษณ์
2) การค้าการลงทุน – มียุทธศาสตร์เพื่อการส่งออก อุตสาหกรรมสร้างสรรค์และหัตถอุตสาหกรรม
3) ท่องเที่ยว – มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มีทรัพยากรที่หลากหลายเป็นต้นทุนต่อการสร้างรายได้
4) ทรัพยากรธรรมชาติ – สภาพภูมิประเทศเอื้อด้านการเกษตรและเศรษฐกิจ มีรูปแบบการบูรณาการการดำเนินงานในระดับพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม
5) สถาบันการศึกษา – มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทางการแพทย์ระดับนานาชาติ มีสถาบันการศึกษาชั้นนำ
6) การแพทย์ สุขภาพ – มีโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ที่ทันสมัย มีบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญ
7) ภูมิศาสตร์ – ศูนย์กลางของอาเซียนมีการคมนาคมขนส่งที่ดีเป็นพื้นฐานในการพัฒนาการค้าการลงทุนชายแดนและกลุ่มประเทศ GMS
8) สังคม – ความเป็นเมืองและวิถีชีวิตท้องถิ่นที่ผสมกลมกลืน มีเครือข่ายทางสังคมที่เข้มแข็ง
9) คมนาคม ขนส่ง – จังหวัดเชียงใหม่มีระบบขนส่งและการคมนาคมที่ดี มีสนามบินนานาชาติ เชื่อมโยงโลจิสติกส์กับประเทศจีน
• จุดอ่อน ข้อจำกัดและข้อเสียเปรียบ
1) กฎหมาย สังคม รายได้ – ค่าแรงขั้นต่ำของจังหวัดในระดับปริญญาตรีอยู่ในระดับล่างของประเทศ ขาดการให้ความร่วมมือของประชาชน ปัญหาเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ปัญหาความยากจน
2) ภูมิศาสตร์ – ปัญหาอัชญากรรม ปัญหาฝุ่นควันจากประเทศเพื่อนบ้าน การแออัดในตัวเมือง การพัฒนากระจุกตัวในเขตเมือง
3) คมนาคม – ระบบขนส่งสาธารณะยังไม่พัฒนา เช่น รถราง รถไฟฟ้า
• แผนพัฒนายุทธศาสตร์
1) การส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเน้นคุณค่าที่สามารถปรับตัวตามสถานการณ์เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น
2) การพัฒนาเกษตร เพิ่มมูลละค่าเกษตรแปรรูปมูลค่าสูงและนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคตภายใต้ BCG Model
3) การยกระดับการค้าการลงทุนบนฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์นวัตกรรมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
4) การจัดการเชิงรุกในปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 และการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแบบมีส่วนร่วม
5) การเสริมสร้างสังคมคุณภาพ เมืองน่าอยู่ที่มีความปลอดภัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
• เป้าหมายหลักในอีก 5 ปีข้างหน้าของจังหวัดเชียงใหม่
1) GPP , GDP per Capita – การขยายตัวของผลผลิตมวลรวมในประเทศและจังหวัด
2) เพิ่มการจ้างงานสร้างรายได้
3) เชียงใหม่ 4.0 New S-curve – อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมการแพทย์ อุตสาหกรรมขนส่งและการบินอุตสาหกรรมการแปรรูป อุตสาหกรรมดิจิตอล
4) ฟื้นฟูการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่
5) จัดการฝุ่นPM 2.5 รวมถึงหมอกควัน
6) ควบคุมโรคระบาด Covid-what 19 และวิถีชีวิตใหม่แบบNew Normal
7) ส่งเสริมการค้าการลงทุนและสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ
• ประเด็นเร่งด่วนในการขับเคลื่อนจังหวัดเชียงใหม่
1) การสร้างสนามบินแห่งที่ 2 ของจังหวัดเชียงใหม่
2) จัดตั้งโรงงานต้นแบบนวัตกรรมสมุนไพรสกัด
• ด้านอสังหาริมทรัพย์
1) มีกลุ่มทุนทั้งทุนท้องถิ่นและส่วนกลางเตรียมลงทุนก่อสร้างคอนโดมิเนียมใหม่ประมาณเจ็ดโครงการเป็นของทุนท้องถิ่นสี่โครงการและทุนส่วนกลางสามโครงการเพื่อรองรับดีมานด์ของตลาดจีนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่
• ด้านอสังหาริมทรัพย์
1) คนจีนตั้งเป้าให้เชียงใหม่เป็นบ้านหลังที่สองเพราะเชียงใหม่เป็นเมืองการศึกษาทั้งระดับประถม มัธยม ที่นิยมมาเรียนคือโรงเรียนนานาชาติและระดับมหาวิทยาลัย
2) หมู่บ้านที่คนจีนอาศัยอยู่ได้แก่ อำเภอหางดง อำเภอสันกำแพง และอำเภอสันทราย
• ด้านอุตสาหกรรม
1) กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากพืชประกอบด้วยกิจการเกี่ยวกับการสีข้าว อบพืชผลทางการเกษตร บ่มและอบใบยาสูบ การขัดแยกเมล็ดพืช คัดแยกขนาดและเคลือบผิวส้ม
2) อุตสาหกรรมอาหาร ประกอบด้วยการผลิตเกี่ยวกับการแปรรูปผักและผลไม้ การแช่แข็งทุกชนิด ผลิตและจำหน่ายเบเกอรี่ ผลิตน้ำแข็ง ผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้ง
หัวข้อ Investment
บรรยายโดย ดร.อสมา เหลี่ยมมุกดา นักเศรษฐศาสตร์ Economic Intelligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
• การลงทุนภาคเอกชนในระยะสั้น
– การส่งออกไตรมาส 4 ปี 2023 พลิกกลับมาขยายตัวช่วยให้ภาพรวมทั้งปีหดตัวเล็กน้อย
การส่งออกไทยในปี 2023 หดตัว -1% แม้จะพลิกกลับมาขยายตัวในไตรมาแต่ไม่สามารถชดเชยการหดตัวอย่างรุนแรงในช่วงก่อนหน้าได้ อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวในสองของปี 2023 อาจยังไม่สะท้อนการฟื้นตัวได้ชัดมากนักเนื่องจาก 1) ปัจจัยฐานต่ำ 2) การขยายตัวบางเดือนเป็นผลจากปัจจัยผลิต เช่น ทองคำ รถยนต์ที่ใช้งานพิเศษในการซ้อมรบ
– ในปี 2024 การส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นตามทิศทางการค้าโลกที่ฟื้นตัวท่ามกลางความเสี่ยงใหม่จากการชะงักของห่วงโซ่อุปทาน
• SCB EIC ประเมินว่ามูลละค่าการส่งออกไทยในปี 2024 ขยายตัว 3.7%
• ปัจจัยสนับสนุน 1) ปริมาณการค้าโลกขยายตัว 2) ภาพการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศฟื้นตัว 3) ราคาสินค้าส่งออกยังมีแนวโน้มสูง เช่น สินค้าเกษตร
• อย่างไรก็ดีการส่งออกไทยอาจเผชิญเผชิญความเสี่ยงใหม่จากห่วงโซ่อุปทานโลก
1) การโจมตีเรือขนส่งสินค้าของกบฏโฮตีในทะเลแดง ซึ่งเป็นเขตทางขนส่งสินค้าจากเอเชียไปยุโรปอาจส่งผลให้ระยะเวลาและต้นทุนขนส่งทางเรือจากไทยไปยุโรปเพิ่มมากขึ้น
2) ระดับน้ำทะเลในคลองปานามาต่ำ แต่อ่านไม่กระทบการส่งออกไทยมากนักเนื่องจากไม่ใช้เส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าไทยไปสหรัฐอเมริกา
• การลงทุนภาคเอกชนในระยะยาว
ในระยะยาวเศรษฐกิจไทยจะเติบโตช้าตามศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจที่ต่ำลงอันเป็นผลมาจากปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมมานาน
1) Total factor productivity : การลงทุนเทคโนโลยีและ R&D ต่ำ , Labor reallocation แย่ลง
2) Capital : การสะสมทุนในประเทศต่ำมานาน
3) Labor : ไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยเร็วกำลังแรงงานลดลง
หัวข้อ Government
บรรยายโดย คุณศิริกัญญา ตันสกุล สมาชิกผู้แทนราษฎรไทย บัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคก้าวไกลและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล
• งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 อยู่ที่ 3.48 ล้านล้านบาท แบ่งออกเป็น
-
รายจ่ายประจำ = รายจ่ายที่ใช้แล้วหมดไป ซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้แล้วหมดไป
-
รายจ่ายลงทุน = ซื้อสิ่งที่คงทนถาวร
-
เงินคืนต้นเงินกู้ = เงินที่ใช้คืนเจ้าหนี้ ส่วนใหญ่เจ้าหนี้ของรัฐบาลก็คือประชาชน เช่น พันธบัตรรัฐบาล
-
เงินชดใช้เงินคงคลัง = งบประมาณใช้ไม่พอก็จะใช้ในเงินคงคลังแล้วก็ต้องนำมาคืนในภายหลัง
• การใช้จ่ายของรัฐบาลนอกงบประมาณ ประกอบด้วย
-
เงินทุนหมุนเวียน
-
รัฐวิสาหกิจ
-
องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น
-
เงินนอกงบประมาณอื่นๆ
• ค่าใช้จ่ายของรัฐบาล แบ่งเป็น
-
เงินเดือนค่าจ้างบุคลากรภาครัฐ 1.69 ล้านล้านบาท
-
ค่าเสื่อมราคา 3.3 แสนล้านบาท
-
การบริโภคสินค้าและบริการ 8.7 แสนล้านบาท (ค่ากระดาษ , โต๊ะ , อื่นๆ)
-
หักรายได้จากการขายสินค้าและบริการภาครัฐ 2.5 แสนล้านบาท (ขายแสตมป์)
-
เงินโอนในรูปแบบสินค้าและบริการ 4.4 แสนล้านบาท
• หนึ่งในหน้าที่ของการใช้จ่ายภาครัฐคือการผลิตสินค้าและบริการสาธารณะ
วงเงินงบประมาณ 3,185,000 ล้านบาท จะนำไปใช้ใน
-
การบริหารทั่วไปของรัฐ
-
การสังคมสงเคราะห์
-
การศึกษา
-
การสาธารณสุข
-
การศาสนา วัฒนธรรมและนันทนาการ
-
การเคหะและชุมชน
-
สิ่งแวดล้อม
-
การเศรษฐกิจ
-
การรักษาความสงบภายใน
-
การป้องกันประเทศ
หัวข้อ Net Exports
บรรยายโดย คุณดุษณีญา อินทนุพัฒน์ สำนักยุโรป กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
• การแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการและทุนข้ามผมแดนระหว่างประเทศ
Export (การส่งออก) – Import (การนำเข้า) = Net Total Trade volume (มูลค่าการค้าสุทธิ)
หากว่าในปีนั้นประเทศมีมูลค่าการส่งออกมากกว่ามูลค่าการนำเข้าประเทศก็จะได้เปรียบดุลการค้าระหว่างประเทศและเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์มวลรวมหรือกล่าวได้ว่าเป็นรายได้ของประเทศในปีนั้น
• ข้อดีของการค้าระหว่างประเทศ
1) ประเทศสามารถจำหน่ายผลผลิตส่วนเกินจากการผลิตภายในประเทศไปสู่ผู้บริโภคนอกประเทศทำให้เกิดรายได้เข้าสู่ประเทศและส่งผลต่อมาตรฐานการของชีพที่สูงขึ้น
2) กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาของผู้ผลิตภายในประเทศ เช่น เทคโนโลยีใหม่ รวมทั้งสินค้าและบริการผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งมีผลต่อความเจริญก้าวหน้าด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
3) ประชาชนได้ใช้สินค้าและบริการที่มีคุณภาพดีในราคาถูก
• การค้าเสรี
– ประชาชนสามารถทำการซื้อหรือการขายสินค้าและบริการจากประเทศอื่นๆได้โดยเสรีและไม่มีข้อจำกัดจากรัฐบาลภายในประเทศ
– ในบางกรณีรัฐบาลในประเทศอาจใช้อำนาจเข้าแทรกแซงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจการเมือง และสังคมได้เช่นกันผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า นโยบายการค้า
• องค์การการค้าโลก (WTO)
– เป็นองค์กรระหว่างประเทศองค์กรเดียวในโลกที่ทำหน้าที่กำกับดูแลการค้าระหว่างประเทศในระดับพหุภาคี
– เป็นเวทีในการเจรจาลดอุปสรรคและข้อกีดกันทางการค้าและจัดทำกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนให้การค้าโลกมีความเสรียิ่งขึ้น
– เป็นเวทีในการระงับข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศสมาชิกรวมทั้งตรวจสอบและทบทวนนโยบายการค้าของประเทศสมาชิก
• สถานการณ์ล่าสุดขององค์การการค้าโลก
– มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการรักษาการค้าพหุภาคีและพยายามที่รักษาแรงขับเคลื่อนการเจรจาของประเทศสมาชิกสมาชิก
– เร่งปฏิรูปการดำเนินการเพื่อให้การดำเนินงานภายใต้ WTO มีความสอดคล้องกับพลวัตการค้าพหุภาคี ระหว่างประเทศในปัจจุบันรวมทั้งการปฏิรูปกลไกระงับข้อพิพาท
• ประเทศไทยกับองค์การการค้าโลก
– แสดงบทบาทในฐานะประเทศกำลังพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากกลไกขององค์การการค้าโลก
– แสดงบทบาทในการปกป้องและรักษาผลประโยชน์ทางการค้าทั้งด้านการส่งออกและด้านการ ให้ความคุ้มครองปกป้องสินค้าและบริการภายในประเทศที่มีความอ่อนไหวภายใต้กรอบ WTO
– ไทยมีบทบาทในการมีส่วนร่วมสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีและองค์การการค้าโลกซึ่งเป็นแนวทางนโยบายการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญของประเทศไทยมาโดยตลอด ผ่านการดำเนินการในนามของประเทศไทยเพื่อให้การดำเนินการหรือพักดันในประเด็นต่างๆให้มีน้ำหนักมากยิ่งขึ้นและการดำเนินงานร่วมกับประเทศสมาชิกรายอื่นดำเนินการในลักษณะกลุ่ม เช่น ASEAN กลุ่ม Cairns และกลุ่ม G20 ในการเจรจาสินค้าเกษตร กลุ่ม AD Friends ในการเจรจาตามกฎระเบียบเกี่ยวกับการทุ่มตลาด และกลุ่ม GI Friends ในการเจรจาทรัพย์สินทางปัญญาในประเด็นการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
• ประเทศไทยได้ประโยชน์อะไรจากองค์การการค้าโลก
1) ประเทศไทยเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกทำให้มีตลาดที่เปิดกว้างขึ้นโดยสามารถทำการค้ากับประเทศสมาชิกอื่นในทุกภูมิภาคทั่วโลกได้อย่างเสรีและเป็นธรรมยิ่งขึ้น
2) สร้างความโปร่งใสในระบบการค้าและเป็นการเสริมสร้าง-สมรรถนะในการแข่งขันในเวทีโลกเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ค้าและผู้ลงทุนทำให้ผู้ผลิตและผู้ส่งออกสามารถคาดการณ์และวางแผนการขายล่วงหน้าได้และทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกจากการมีผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นตลอดจนได้รับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพมากขึ้นและราคาถูกลง
3) ประเทศไทยมีสิทธิ์ขอให้มีการตัดสินข้อพิพาทโดยฝ่ายที่สาม กล่าวคือ คณะผู้พิจารณาและสามารถอุทธรณ์คำตัดสินของคณะผู้พิจารณาต่อองค์กรอุทธรณ์ในกรณีที่สมาชิกเห็นว่าอีกฝ่ายใช้มาตรการกีดกันหรือบิดเบือนการค้าและขัดกับความตกลงในกรอบองค์การการค้าโลก
อ้างอิง : https://fb.watch/qhrwl_1q2y/
งานเขียนนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา
751309 Macro Economics 2
ซึ่งสอนโดย ผศ.ดร. ณพล หงสกุลวสุ
คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
งานชิ้นนี้ เขียนโดย
น.ส.ภรณ์ทิพย์ เตชะชนะไตรภพ 651610327