เคยไหม? เวลาคิดงานไม่ออกทีไร คุณคงหวังให้ตัวเองลงมือทำอะไรสักอย่าง ที่มันช่วยบันดาลไอเดียที่คุณกำลังตามหา ให้มันผุดขึ้นมาในสมองจนต้องร้อง “ยูเรก้า!”
คนทำงานหลายๆ คนจะรู้กันดีว่า ช่วงเวลาเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้นง่ายๆ ยิ่งต้องปั้นไอเดียออกมาเป็นประจำ ทำงานไปนานๆ เข้า การคิดหาไอเดียแปลกใหม่ก็ยิ่งเป็นเรื่องยาก เราจึงเห็นคนทำงานหลายคนหันเหออกไปหาสารพัดวิธีใหม่ในการกระตุ้นให้ไอเดียบรรเจิดออกมาอยู่เสมอ
วิถีชีวิตเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก กลับกันถ้าย้อนมาดูชีวิตของเหล่า “คนเก่ง” หลายๆ คน คุณจะเห็นเลยว่า พวกเขาก็เคยอยู่ในจุดที่มีพฤติกรรม “ประหลาด” เพื่อให้ได้ไอเดียเปลี่ยนโลกมาแล้วทั้งนั้น
ซึ่งในความประหลาดนั้น เมื่อเราลองกะเทาะรายละเอียดแปลกๆ ทั้งหลายออก เราก็จะเห็นรูปแบบของพฤติกรรม 3 สิ่ง ที่มีหลักฐานสนับสนุนว่ามันช่วยทำให้ “คิดงาน” ออกจริงๆ และสามารถปรับมาใช้ในชีวิตการทำงานของเราได้
3 สิ่งที่ว่านี้คือ “จด – ดื่ม – เล่น”
- จด
การฝึกสมองก็เหมือนกับฝึกกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ถ้าคุณอยากให้สมองฟิตปั๋งพร้อมสู้งาน คุณก็ต้องหมั่นออกกำลังกายให้มันบ่อยๆ
หนึ่งในการออกกำลังให้สมองที่คุณทำได้คือ ปล่อยให้สมองคิดไปให้สุดแล้ว “จด” ไอเดียทุกอย่างในหัวลงไป ปล่อยสมองให้พรั่งพรูสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในหัวออกมา โดยไม่สนว่ามันจะฟังดูบ้า ไร้สาระ หรือดูเป็นไปไม่ได้มากแค่ไหน ในบรรดาไอเดียเรื่อยเปื่อยในหน้าสมุดจด อาจกลายเป็นจิ๊กซอว์ช่วยประกอบร่างไอเดียที่ใช่ให้เกิดขึ้นในอนาคตก็ได้
หนึ่งในคนที่จดดะ และทำให้สมุดจดของตัวเองกลายเป็นสิ่งมีค่ามหาศาลในภายหลังคือ หนึ่งในอัจฉริยะของโลก “เลโอนาร์โด ดา วินชี” ในปี 1995 มหาเศรษฐีไมโครซอฟท์ “บิล เกตส์” ได้ประมูลซื้อสมุดจดขอดา วินชีไปครอบครองในราคา 30 ล้านดอลลาร์
แต่สิ่งที่ “ประหลาด” และหลายๆ คนอาจมองมัน “พิเศษ” ของสมุดดา วินชี คือ ลักษณะการจดดะของเขา เพราะในสมุดบันทึกหลายๆ เล่ม นอกเหนือไปจากชวเลขและภาพวาดแล้ว มันยังมีลายมือเขียน “กลับหลัง” (Mirror Writing) อีกด้วย บันทึกของดา วินชีจึงอ่านยากพอสมควร
มีหลายข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมการจดแปลกๆ ของเขา ตั้งแต่เดาง่ายๆ ว่า ดาวินชีถนัดซ้าย บ้างก็ว่าเขาเป็นโรคดิสเล็กเซีย บ้างก็ว่าเขาพยายามปกปิดความคิดเป็นความลับ ความจริงเบื้องหลังการจดกลับหลังจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ ที่แน่ๆ คือ ทั้งโลกได้เรียนรู้จาก ดา วินชี ว่าการ “จดไม่เลือก” สามารถเป็นสิ่งมหัศจรรย์ให้แก่คลังไอเดียของเขาได้
การ “จด” จึงเป็นวิธีลับคมต่อมผลิตไอเดียที่ “ง่าย” สุดๆ ที่มักโดนมองข้ามไปในบางที ทุกวันนี้มีข้อมูลมากมายให้คุณขวนขวาย แต่อีกสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้ามเช่นกันก็คือการ “บันทึก” คุณไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์แพงๆ หรือไอแพดราคาเป็นหมื่นๆ เพราะมีคนเก่งอีกมากนอกเหนือจากดา วินชี ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แค่ “ปากกา กระดาษ กับตัวคุณ” แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างไอเดียเปลี่ยนโลกให้เกิดขึ้นได้ในอนาคต
- ดื่ม
ใช่ ดื่ม ที่หมายถึง ดื่มเหล้า ดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอลล์นี่แหละ
ผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในปี 2014 ของศาสตราจารย์ Jennifer Wiley แห่ง University of Illinois ระบุว่า ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานคิดสร้างสรรค์คือ 0.075%
และทำให้บริษัทดิจิตอลเอเจนซี่ CP+B Copenhagen ในประเทศเนเธอร์แลนด์ รวมทีมกับโรงงานเบียร์ Rocket Brewing ผลิตเบียร์ “The Problem Solver” ที่ฉลากข้างขวดจะแสดงกราฟปริมาณการดื่มเบียร์อันส่งผลต่อความ “ครีเอทีฟ” ของเรา โดยแยกให้ดูทั้งหญิงและชายที่ส่งผลต่างกัน

The Problem Solver | birchbox.com
มีศิลปินอัจฉริยะอีกคนหนึ่งที่ไปไกลกว่าแอลกอฮอล์ 0.075% คือ “ฟรานซิส เบคอน” ศิลปินชาวบริทิช เจ้าของผลงานวาดภาพสุดรุนแรงล้ำจินตนาการ เขามีไลฟสไตล์ที่เรียกได้ว่า “ขี้เมา” เลยทีเดียว ฟรานซิสชอบดื่มเหล้าสังสรรค์ เขายังบอกด้วยว่า เขาชอบทำงานตอน “เมาค้าง” เพราะช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ความคิดของเขาจะปะทุไปด้วยพลังงาน และสามารถคิดได้แจ่มแจ้งมาก

Figure With Meat (1954) | theculturetrip.com

Francis Bacon ในสตูดิโอของเขา | The Telegraph
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่ต้องกรึ่มๆ ก่อนทำงาน ต่อไปนี้ก็รู้แล้วว่าทำไม ส่วนใครที่เคยคิดว่า แอลกอฮอล์กับครีเอทีฟเป็นศัตรูต่อกัน ทีนี้ก็รู้แล้วว่า การโอบกอดมันเข้ามา (แบบไม่ต้องแนบแน่นจนเกิดไป) ก็อาจช่วยให้คุณปลดล็อกความคิดให้บรรเจิดขึ้นมาได้
และอย่าลืมว่า แม้แอลกอฮอล์จะสามารถกลายเป็นข้อดีต่อต่อมสร้างสรรค์ของเรา แต่มันก็สามารถกลายมาเป็นข้อเสียที่บั่นทอนชีวิตการงานหรือสุขภาพเราได้เช่นกัน หากเราดื่มมัน “มากไป” ซึ่งนั่นคงเป็นสิ่งที่หลายๆ คนรู้ดีอยู่แล้ว
- เล่น
มีการค้นพบว่า คนที่มีความคิดสร้างสรรค์สูงมักจะเสียสมาธิง่ายกว่าคนอื่น นักสร้างสรรค์หลายๆ คนจึงพยายามปั้นไอเดียด้วยกลวิธีต่างๆ ที่มากกว่าการแค่นั่งลงแล้วสั่งให้ตัวเองคิดงานให้ออก
หนึ่งในสิ่งที่นักคิดหลายๆ คนทำคือการ “เล่น”
เพราะบางที สิ่งที่จะทำให้คุณคิดงานออกมากที่สุดก็คือ การไม่คิดงาน ดังนั้น หากวันใดที่สมองตันขึ้นมา คุณก็สามารถหาช่วงเวลาให้ตัวเองได้ลงไปเล่นกับอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน จะเล่นของเล่นจริงๆ ก็ดี หรือจะเล่นด้วยการพาตัวเองไปยังสถานที่ใหม่ๆ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศก็ช่วยได้ไม่แพ้กัน

Charles Dickens by Rockwood | Wikimedia
หนึ่งในคนที่ออกไป “เล่น” ได้เหวอมากๆ คือนักเขียนมือฉมังคนหนึ่งของโลกอย่าง “ชาร์ลส์ ดิกเกนส์” เขามักจะชอบออกไปเล่นสวมบทเป็นนักสืบใน “ห้องเก็บศพของปารีส” (the Paris Morgue) ซึ่งจะโชว์ศพไร้ชื่อจำนวนมากให้คนทั่วไปเข้าไปดู การเล่นเช่นนี้ของดิกเกนส์ บ้างก็ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาได้ช่วยพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ และทำให้เขาสามารถเขียนนิยายชิ้นสำคัญของโลก อย่าง “Great Expectations” หรือ “Oiliver Twist” ได้

Morgue à Paris | WIkimedia
อีกคนหนึ่งที่ไปสุดมากๆ ในการพยายามทำสมาธิคิดงาน คือ “โจนาธาน ฟรานเซน” นักเขียนชาวอเมริกัน ผู้ประพันธ์ “The Corrections” ซึ่งชนะรางวัล National Book Award กับ Pulitzer

Jonathan Franzen บนปกนิตยสาร Time | NPR
การเล่นของฟรานเซน คือ การเล่นกับประสาทสัมผัสของตัวเอง อาจฟังดูล้ำ แต่จริงๆ ตัวอย่างง่ายๆ ของมันก็คือ การฟังเพลงหรือดมเทียนหอม แต่ส่วนที่ทำให้ฟรานเซนแปลกกว่าใคร คือการที่เขาเขียนงานโดย “ปิดตาไว้” ต่างหาก ไม่เพียงเท่านั้น เพื่อสมาธิสูงสุด เขายังใส่ที่อุดหู และที่ครอบหูเข้าไปด้วย เรียกได้ว่าตัดประสาทการรับรู้ออกไปถึงสองอย่าง ทั้งหูและตา ซึ่งท้ายที่สุด มันก็ช่วยให้เขาสามารถเขียนนิยายความยาว 500 กว่าหน้าได้สำเร็จ
ท้ายที่สุดแล้ว เพราะความถนัดและสมองของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน คุณจึงไม่จำเป็นต้องทำตามทุกวิธีก็ได้ แต่แค่ในวันใดที่คุณอับจนหนทางในการคิดงานจริงๆ ขึ้นมา ก็ลองเอาวิธี จด-ดื่ม-เล่น นี้ไปปรับใช้กันได้
เพียงแต่ไม่ต้องสุดโต่งเท่าเหล่าอัจฉริยะที่เรายกตัวอย่างมาก็ได้นะ
อ้างอิง
- Entrepreneur. 5 Psycology-Backed Hacks That Train Your Brain to Be More Innovative. https://bit.ly/3jtCvjs
- The Balance Career. 7 Unusual Ways To Unleash Your Creativity. https://bit.ly/3yzoSDq
- Business Insider. 10 Weird Tricks Successful People Have Used To Be More Creative. https://bit.ly/3jTGnKF
- Marketing Oops. อยากเป็นครีเอทีฟ? เบียร์ขวดนี้จะปลุกต่อมความเป็น ‘ครีเอทีฟ’ ในตัวคุณ…ให้เพิ่มขึ้นอย่างพลุ่งพล่าน!. https://bit.ly/36mrpVt