หมาป่าช่วยกวางไม่ให้ถูกรถชน ความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์ต่างสายพันธุ์ ที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้ล่ากับเหยื่อ
Select Paragraph To Read
- หมาป่าช่วยชีวิตกวางจริงหรือ?
- เรื่องนี้สำคัญอย่างไร ?
- หมาป่าอาจไม่รอด
กาลครั้งหนึ่ง เมื่อไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา หมาป่าได้ช่วยชีวิตกวางเอาไว้ก่อนที่มันจะถูกรถชน… และกวางก็ได้กลายมาเป็นอาหารของหมาป่าตัวนั้นอีกที…
ข้อความข้างต้นไม่ได้คัดมาจากนิทานเรื่องใดของนายอีสป และไม่ได้ให้แง่คิดคำสอนเรื่องคำลวงหลอกใดๆ แต่เป็นข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ที่บอกกับเราว่า สัตว์ในธรรมชาติต่างมีความสัมพันธ์กันอย่างสลับซับซ้อนมากกว่าเรื่องใครจะกินใค
หมาป่าช่วยชีวิตกวางจริงหรือ?
หากว่ากันตามความจริง หมาป่าไม่เคยมีความคิดอยากช่วยชีวิตกวางเลยสักนิด และไม่เคยจะลงมือทำอะไรด้วยซ้ำ แต่เป็นเรื่องของสัญชาตญาณพื้นฐานของกวางที่พยายามเดินหลบเลี่ยงให้พ้นไปจากสัตว์ที่มันมองว่าเป็นภัย
ซึ่งตามปกติแล้วเส้นทางสัญจรของสัตว์ป่าส่วนใหญ่มักจะเดินเลียบเคียงตามพื้นที่ราบหรือที่ที่มีถนนหนทางให้เดินเหินได้สะดวก เมื่อพื้นที่ริมทางถูกหมาป่ายึดครองไปหมด พวกกวางจึงต้องเลี่ยงไปเดิน ไปหาอาหาร และใช้ชีวิตอยู่บริเวณอื่นแทน
แต่นั่นก็ทำให้พวกกวางรอดพ้นจากอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตพวกมันปีละหลายร้อยตัว
และนี่ก็เป็นบทสรุปสั้นๆ ของเรื่องนี้ ซึ่งมีเพียงเท่านี้ ไม่มากมายไปกว่านั้น
หรือหากกล่าวในเชิงวิชาการหน่อย ก็จะอธิบายได้ว่า ช่วงที่มีหมาป่าเข้ามาอาศัย (หรือในฤดูที่หมาป่าไม่ถูกล่า) อุบัติเหตุการขับรถชนกวางจะลดลงราวๆ 24%
ข้อมูลนี้มาจากการติดตามอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดขึ้นระหว่างคนกับสัตว์ป่าในหลายๆ เมืองของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะกับสัตว์ที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากเช่นกวาง ซึ่งเป็นปัญหาที่คาราคาซังและมีราคาที่ต้องจ่ายสำหรับเหตุที่ตามมาอยู่ไม่น้อย
เรื่องนี้สำคัญอย่างไร ?
ประเมินกันไว้ว่าในทุกปี มีค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล ซ่อมแซมรถยนต์ จากอุบัติเหตุขับรถชนสัตว์ มากกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ไม่นับว่าหากมีการตายหรือพิการ ก็อาจจะมีราคาที่ต้องจ่ายตามมาอีกหลายเท่า
และถึงไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่า ถ้ามีหมาป่าเยอะๆ แล้ว อุบัติเหตุจะลดลงเป็นศูนย์ในทันที แต่นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาความสัมพันธ์นี้เขาอยากให้เราเปิดมุมมองเสียใหม่
ในบางเมืองของสหรัฐอเมริกา (เช่นเมืองที่สนับสนุนให้โดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี) ผู้คนมักเห็นหมาป่าเป็นภัยคุกคามชีวิตสัตว์ที่เลี้ยงไว้ในฟาร์ม และมักเรียกร้องถอดถอนหมาป่าออกจากการเป็นสัตว์คุ้มครอง ขอให้รัฐเปิดฤดูล่าสัตว์ที่ถูกกฎหมายนานๆ บ้าง
พวกเขาให้เหตุผลว่ายิ่งมีหมาป่าเยอะเท่าไหร่ ธุรกิจการทำฟาร์มก็ได้จะได้รับความเสียหายเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มองถึงคุณประโยชน์ที่หมาป่าคอยช่วยป้องกันอุบัติเหตุ และลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ในทางอ้อมให้กับเรา
ขณะเดียวกัน จำนวนสัตว์เลี้ยงที่ถูกหมาป่าฆ่าก็ไม่ได้สูงมากอย่างที่เขากล่าวอ้าง ตามข้อมูลกระทรวงเกษตรสหรัฐพบว่าในรัฐไอดาโฮ (ซึ่งสนับสนุนการล่าหมาป่าอย่างสุดขั้ว) มีวัว 130 ตัว ที่ได้รับการยืนยันว่าถูกหมาป่าฆ่า จากจำนวนวัวที่มีทั้งหมด 2.7 ล้านตัว
ในเรื่องราวของความสัมพันธ์ นอกจากหมาป่ากับกวางแล้ว ยังมีงานวิจัยแนวเดียวกันนี้อีกหลายชิ้นที่ยืนยันตรงกันว่า หากมีสัตว์ผู้ล่าเพ่นพ่านอยู่ที่ไหน อุบัติเหตุบนท้องถนนระหว่างคนกับสัตว์ป่าก็จะลดลงแทบทุกที่
และนี่คือสิ่งที่บอกว่า การมีอยู่ของหมาป่า (และสัตว์ผู้ล่า) ช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินเพราะอุบัติเหตุ
หมาป่าอาจไม่รอด
อย่างไรก็ตาม ภายใต้ช่วงเวลาที่คำสั่งของทรัมป์ยังไม่ถูกแก้ไข หลายรัฐในอเมริกาให้ลงมือฆ่าหมาป่ากันอย่างสนุกมือ เช่นที่รัฐวิสคอนซิน ประชาชนได้ออกมาล่าหมาป่ากันในช่วงเวลาที่อนุญาตตามกฎหมายกันจนเกินโควตาภายในเวลา 24 ชั่วโมง สะท้อนภาพความเหี้ยมกระหายในตัวมนุษย์เราได้อย่างน่าหวาดกลัว
ปัจจุบัน กลุ่มนักอนุรักษ์ได้พยายามเรียกร้องให้ทีมบริหารของโจ ไบเดน นำหมาป่ากลับเข้าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองอีกครั้ง พร้อมเพิ่มกฎหมายที่เข้มงวดในเรื่องการล่า เพื่อไม่ให้โศกนาฏกรรมแบบช่วงปลายศตวรรษก่อน ที่หมาป่าถูกล่าไปจนเกือบหมดประเทศ
แต่ดูเหมือนการตอบสนองของรัฐบาลปัจจุบัน ยังคงโอนเอียงไปทางประธานาธิบดีคนเก่า ทั้งยังกล่าวกับศาลประเทศอีกว่าให้คงคำสั่งเดิม (สมัยทรัมป์) เอาไว้ก่อน
นั่นหมายถึง นับจากนี้มีโอกาสที่ฤดูการล่าหมาป่าจะกลับมาคึกคัก การผ่อนปรนวิธีการล่า การใช้เครื่องมือ เพิ่มระยะเวลาในการล่า ซึ่งทำให้มีการตรวจสอบและดูแลได้ยากขึ้น
หรือในบางรัฐ เช่น วิสคอนซิน คณะกรรมการที่กำหนดโควตาการล่าสัตว์ กำลังขอให้ล่าได้ฤดูละ 300 ตัว จากเดิมที่มีลิมิตแค่ 130 ตัว
หากการอนุรักษ์หมาป่ายังไม่ฟื้นคืนกลับมา สายสัมพันธ์ทางอ้อมที่กล่าวถึงนี้คงจะขาดสะบั้นลงในไม่ช้า…
อ้างอิง
- Phys. Wolves scare deer and reduce auto collisions 24%, study says. https://bit.ly/3vmrMdu
- AP News. Biden backs end to wolf protections but hunting worries grow. https://bit.ly/3sLyJUZ