รู้ไหมว่าแม้เราทุกคนจะต้องการสารอาหารเหมือนๆ กัน แต่ร่างกายของเรามีความต้องการที่แตกต่างกัน บางคนต้องการพลังงานมาก บางคนต้องการไฟเบอร์สูง หรือบางคนอาจต้องการวิตามินบางตัวเป็นพิเศ
เรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะกับคนเท่านั้น เพราะ ‘น้องเหมียว’ ของเหล่าทาสเองก็มีความต้องการที่แตกต่างกันด้วย!
แมวเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเรา ด้วยขนฟูๆ ตาโตๆ และนิสัยออดอ้อนบ้างไม่แยแสบ้าง ยิ่งทำให้ประชากรทาสแมวเพิ่มขึ้นทั่วโลกอย่างรวดเร็ว รวมถึงในประเทศไทยด้วย โดยในปี 2018 ประเทศไทยติดอันดับที่ 8 ชาติที่มีคนเลี้ยงแมวมากที่สุดในโลก คือ 33 เปอร์เซ็นต์
ความนิยมน้องแมวที่มากขึ้นเนื่องจากความกินง่าย อยู่ง่าย และดูแลไม่มากนัก ทำให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนปัจจุบันที่หลายคนอยู่ในคอนโดที่มีพื้นที่ไม่มาก ทำให้หลายคนหันมาให้ความสนใจอยากเลี้ยงแมวกันอย่างแพร่หลาย ทั้งแมวสายพันธุ์ไทยขนสั้นอย่าง แมวโคราช ขาวมณี ศุภลักษณ์ วิเชียรมาศ แมวขนยาวอย่างเปอร์เซีย เมนคูน แร็กดอลล์
แมวแต่ละสายพันธุ์มีความแตกต่างกันตั้งแต่หน้าตา ลักษณะขน ไปจนถึงขนาดตัว จึงอาจทำให้เจ้าของหลายๆ คนสับสนว่าควรเลือกอาหารแมวอย่างไรดีถึงจะทำให้น้องแมวแข็งแรงสมบูรณ์เพราะแต่ละสายพันธุ์ก็มีความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกันไปตามลักษณะเฉพาะ
วิสกัส (Whiskas) แบรนด์อาหารแมวที่ถ้าพูดชื่อไปย่อมไม่มีใครไม่รู้จัก โดยทางวิสกัสได้พัฒนาสูตรร่วมกับสัตวแพทย์และนักโภชนาการสัตว์เลี้ยงจากวอลแธม (Waltham Petcare Science Institute) สถาบันวิจัยโภชนาการและการดูแลสัตว์เลี้ยงชั้นนำของโลก จากประเทศอังกฤษ เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของน้องเหมียวอีกด้วย
แล้วน้องแมวลักษณะแบบไหนที่อาจต้องการสารอาหารที่แตกต่างจากทั่วไปบ้าง ไปดูกัน
ตัวอย่างแรกของความแตกต่างคือ แมวเปอร์เซียขนยาว ต้องการสารอาหารที่มากกว่าน้องแมวขนสั้นเพื่อหล่อเลี้ยงเส้นขนและป้องกันปัญหาขนร่วง รวมถึงแมวขนสั้นเชื้อสายตะวันตกหลายพันธุ์ เช่น บริติชช็อตแฮร์ หรือ อเมริกันช็อตแฮร์ แม้จะขนสั้นแต่มีความหนาและต้องการการบำรุงเช่นกัน และนอกจากสารอาหารที่ครบถ้วนเพียงพอแล้ว ก็ควรมีส่วนผสมของวิตามินต่างๆ เช่น วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 และวิตามินบี 7 ไบโอติน และกรดไขมันโอเมกา 3 และ 6 ที่มีส่วนช่วยให้ขนสวยเงางามและผิวหนังแข็งแรงรวมอยู่ด้วยเพื่อบำรุงน้องเหมียว
นอกจากนี้ยังมีปัญหาขนๆ ของน้องแมวที่เลี้ยงในระบบปิด คือปัญหา ‘ก้อนขน’ ซึ่งเกิดจากการเลียตัวเพื่อทำความสะอาดวันละ 5 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย ด้วยความที่ลิ้นของแมวมีความสากมันจะสามารถจับขนที่ร่วงหลุดออกมาและกลืนลงท้องไป ซึ่งขนส่วนใหญ่จะเข้าสู่กระเพาะและขับถ่ายออกมา แต่บางครั้งก็อาจเกิดภาวะก้อนขนในกระเพาะอาหารจนทำให้ต้องอาเจียนออกมา หรือบางกรณีน้องแมวก็มีก้อนขนสะสมในระบบย่อยอาหารมากจนส่งผลต่อทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพน้องแมวได้
ปัญหาและความต้องการที่แตกต่างไม่ได้มีเฉพาะเรื่องขนเท่านั้น แต่ ‘ไลฟ์สไตล์’ ของน้องแมวและการเลี้ยงก็มีส่วนสำคัญมากเช่นกัน
ปัจจุบันเจ้าของน้องแมวส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงด้วย ‘ระบบปิด’ คือไม่ให้น้องแมวออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ป้องกันน้องแมวหาย ไปกัดกับแมวตัวอื่น หรือป้องกันปัญหาเชื้อโรคและปรสิตต่างๆ แต่การเลี้ยงด้วยระบบปิดก็มีข้อจำกัดเช่นกัน เนื่องจากน้องแมวอาจไม่ได้ออกแรงหรือวิ่งเล่นมากนัก แถมบางตัวยังชอบเดินวนกินอาหารทั้งวัน ทำให้อาจเจอกับโรคอ้วนที่นำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้ ดังนั้นควรเลือกอาหารที่สร้างความสมดุลระหว่างพลังงานที่ต้องการ มีคุณค่าทางโภชนาการและมีแคลอรีต่ำ เพื่อเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ และ ป้องกันไม่ให้น้ำหนักของน้องแมวมากเกินไป
ด้านการขับถ่ายของน้องแมว หากเป็นระบบปิดเจ้าของอาจได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ง่ายจากกระบะทรายในตัวบ้าน แตกต่างจากการให้น้องแมวไปขับถ่ายด้านนอก ในเรื่องนี้อาหารเองก็มีส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อของเสียของเหล่าเหมียวๆ เช่นกัน
แต่ปัญหาต่างๆ ที่เหล่าทาสต้องเจอใช่ว่าจะจัดการไม่ได้ อย่างที่เรากล่าวไปว่าเรื่อง ‘อาหาร’ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ ด้วยความเข้าใจปัญหา วิสกัส (Whiskas) ได้พัฒนาอาหารน้องแมว Whiskas’ s Functional Range เพื่อมาตอบโจทย์ปัญหาของน้องแมวในเรื่องต่างๆ ผ่านสูตรอาหารเช่น สูตร Indoor ที่พัฒนาเพื่อน้องแมวในระบบปิด, สูตร Skin & Coat ที่ช่วยดูแลเส้นขนให้สวย เงางาม และมีผิวหนังที่แข็งแรง หรือสูตร Hairball Control ที่ช่วยเหล่าน้องแมวขนยาวได้กำจัดก้อนขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สารอาหารที่ดี ครบถ้วน และเหมาะสมกับน้องแมวต่างสายพันธุ์ ต่างสภาพแวดล้อมอย่างครอบคลุมของวิสกัส จะช่วยเสริมสร้างร่างกายของสัตว์เลี้ยงขนฟูของเราให้แข็งแรงขึ้น ที่สำคัญยังอร่อยตอบโจทย์ความต้องการของน้องเหมียวในทุกแพ็ค
ติดตามรายละเอียดสินค้า Whiskas’ s Functional Range ได้ทาง https://www.whiskas.co.th/