ข้อมูลจากศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) ปี 2560 พบว่า
คนไทยเสียชีวิตเพราะบุหรี่ถึง 72,656 คน ด้วยโรคหัวใจ และหลอดเลือดเป็นสาเหตุหลัก ซึ่งผู้เสียชีวิตแต่ละคนเสียชีวิตเร็วขึ้น 18 ปี
แต่รู้หรือไม่ว่า? เมื่อคนเราเลิกสูบบุหรี่ ร่างกายจะเริ่มซ่อมแซมตัวเองตามธรรมชาติ เพียงไม่กี่นาทีหลังจากเลิกบุหรี่ และจะกลับมามีชีวิตชีวาเหมือนคนไม่สูบบุหรี่เมื่อเวลาผ่านไป
การเปลี่ยนแปลงของร่างกายจะเป็นอย่างไร? เมื่อคุณตัดสินใจเลิกบุหรี่
20 นาที: การสูบบุหรี่ทำให้ความดันโลหิตสูงและหัวใจเต้นเร็วขึ้น แต่ภายใน 20 นาทีหลังจากสูบบุหรี่มวนสุดท้าย อัตราการเต้นของหัวใจ และความดันโลหิตจะลดลงอยู่ในระดับปกติ
12 ชั่วโมง: ขณะที่สูบบุหรี่ คาร์บอนมอนอกไซด์จะเข้าไปแทนที่ออกซิเจนในเลือด และยับยั้งหรือขัดขวางการลำเลียงออกซิเจนของเม็ดเลือดแดง ส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนในเลือดลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุที่จะนำไปสู่โรคหัวใจ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ
หลังจากเลิกสูบบุหรี่ 12 ชั่วโมง ระดับคาร์บอนมอนอกไซด์ในร่างกายจะลดลง และออกซิเจนในเลือดจะกลับมาอยู่ในระดับปกติ
2 – 10 วัน: การรับรส และการรับกลิ่นจะเริ่มดีขึ้น เนื่องจากปลายประสาทที่ได้รับความเสียหายจากการสูบบุหรี่จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นใหม่ ซึ่งในระยะนี้เป็นระยะที่ยากที่สุดในการเลิกสูบบุหรี่
เนื่องจากสารนิโคตินจะไม่เหลือในร่างกาย ทำให้มีอาการถอนนิโคติน อาจรู้สึกหงุดหงิด กระวนกระวาย แต่หลังจากพ้นวันที่ 10 อาการเหล่านี้จะลดลงหรือหมดไป รวมถึงการไหลเวียนของเลือดบริเวณเหงือก และฟันของคุณจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
2 – 12 สัปดาห์: ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น อาจสังเกตเห็นว่า มีพลังงานมากขึ้นขณะทำกิจกรรมง่ายๆ เช่น การเดิน การออกกำลังกาย
นอกจากนี้ ซีเลีย (ขนเส้นเล็กๆ ที่อยู่บนผิวของเซลล์เยื่อบุหลอดลมภายในปอด) ซึ่งมีหน้าที่ขจัดเมือก และสิ่งสกปรกต่างๆ ออกไปจากปอด จะเริ่มซ่อมแซมตัวเองจากความเสียหายที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ส่งผลให้การทำงานของปอดดีขึ้น อาการหายใจถี่ หรืออาการไอก็จะเริ่มลดลง
6 – 9 เดือน: จะสามารถรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น โดยไม่รู้สึกว่าต้องการบุหรี่ อีกทั้งปอดจะได้รับการฟื้นฟูอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากซีเลียซ่อมแซมตัวเองจนหายดีแล้ว สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น ทำให้อาการหายใจลำบาก และอาการไอของคนที่สูบบุหรี่ลดลง
1 ปี: ความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจจะลดลงครึ่งหนึ่ง ปอดสุขภาพดีขึ้นอย่างมาก ทั้งในแง่ของหน้าที่ในการทำงาน และความสามารถในการรับปริมาณของอากาศเข้าสู่ปอดหรือระบายออกจากปอด
5 ปี: บุหรี่มีสารพิษหลายชนิดที่ทำให้หลอดเลือดตีบ หรืออุดตัน แถมยังเพิ่มโอกาสในการเกิดลิ่มเลือด โดยหลังจากเลิกสูบบุหรี่ไป 5 ปี ร่างกายจะได้รับการรักษาตัวเองมากพอที่หลอดเลือดแดง และเส้นเลือดจะกลับมาขยายได้อีกครั้ง ซึ่งหมายความว่า เลือดมีโอกาสจับตัวเป็นก้อนน้อยลง ความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองจะลดลง แต่ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณ และระยะเวลาที่สูบบุหรี่ด้วย
10 ปี: ความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด และเสียชีวิตจากโรคนี้จะลดลงครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับคนสูบบุหรี่ เนื่องจากเซลล์มะเร็งที่ก่อตัวก่อนหน้านี้จะถูกแทนที่ด้วยเซลล์ที่แข็งแรง
นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งอีกหลายชนิด เช่น ช่องปาก, ลำคอ, กระเพาะปัสสาวะ และตับอ่อน
15 ปี: เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ และโรคหลอดเลือดสมองลดลงเหมือนคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่
อย่างไรก็ดี หากคนไหนที่เลิกสูบบุหรี่ปัญหาต่างๆ เช่น กลิ่นตัว กลิ่นปากจากบุหรี่ก็จะหายไป และยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย
ดังนั้น การเลิกบุหรี่อาจต้องใช้กำลังใจที่เข้มแข็ง แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นคุ้มค่ากับความพยายามแน่นอน คุณจะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนถึงสุขภาพที่ดีขึ้นในทุกวัน
อ้างอิง:
- medicalnewstoday. What happens after you quit smoking?. https://bit.ly/3usfP53
- healthline. What Happens When You Quit Smoking?. https://bit.ly/39PDGE6
- bumrungrad. ร่างกายของคุณจะเป็นอย่างไรหลังจากเลิกสูบบุหรี่. https://bit.ly/3uwsQuK
- hfocus. หลงสูบ 100 มวน เสพติดทั้งชีวิต. https://bit.ly/3uuo5le