3 Min

เคยไหม? อยู่ดีๆ ก็ร้องไห้หนัก แล้วควรทำอย่างไรให้น้ำตาหยุดไหล

3 Min
25248 Views
19 Nov 2021

Select Paragraph To Read

  • น้ำตาหล่อลื่น
  • น้ำตาระคายเคือง
  • น้ำตาจากอารมณ์
  • รูปแบบทางจิต
  • รูปแบบทางกายภาพ

เคยไหม?​ อยู่ดีๆ น้ำตามันก็ไหล หรือร้องไห้ออกมา

ต้องบอกก่อนว่า ‘การร้องไห้’ เป็นสัญชาตญาณตามธรรมชาติของมนุษย์ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ บางครั้งเราก็หลีกเลี่ยงหรือห้ามมันไม่ได้ เพราะเมื่อใดที่เรารู้สึกถึงสภาวะความขัดแย้งทางด้านอารมณ์ ด้านพฤติกรรมที่มากเกินไป ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือดีใจ กระทั่งเสียใจจนอยากระบายออกมา

แล้วคุณเคยร้องไห้ออกมาเพราะเรื่องอะไรกันบ้าง? ก่อนอื่นเราอยากให้ทุกคนทำความเข้าใจว่า ‘น้ำตา’ ที่ไหลนั้นจะถูกแบ่งออก 3 ประเภทด้วยกัน คือ

น้ำตาหล่อลื่น

เป็นน้ำตาที่ถูกผลิตออกมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว เพื่อช่วยให้ตามีน้ำหล่อลื่น เป็นการให้ความชุ่มชื้นกับดวงตาของเรา และลดอาการตาแห้ง จึงมีความสำคัญต่อการมองเห็นที่ดีอีกด้วย

น้ำตาระคายเคือง

เป็นน้ำตาที่อาจเกิดขึ้นจากอนุภาคแปลกปลอม เช่น ฝุ่นละออง ควันสารเคมีที่ระคายเคืองอย่างแก๊สน้ำตา สเปรย์พริกไทย หรือการหั่นหัวหอม กระทั่งโดนแสงแดดจ้า นอกจากนั้นยังเกิดจากการหาว หรือจ้องหน้าจอคอมเป็นเวลานานๆ ทำให้น้ำตาดังกล่าวมีหน้าที่ปกป้องสายตา ชะล้างสิ่งสกปรกต่างๆ ที่เป็นอันตราย

น้ำตาจากอารมณ์

หมายถึงน้ำตาที่มีความสัมพันธ์กับอารมณ์ เกิดขึ้นเมื่อเราถูกกระตุ้นจากอารมณ์ ดีใจมาก เสียใจมาก หรือความรู้สึกโกรธ หัวเราะ กระทั่งความเครียด ซึ่งสมองและฮอร์โมนจะกระตุ้นให้เกิดน้ำตาไหลออกมา เพื่อช่วยปรับสมดุลทางอารมณ์ ช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้นได้

แต่ทั้งนี้ไม่ควรมีอะไรที่มากเกินไป เช่นเดียวกับ ‘การร้องไห้’ เราจึงอยากแนะนำวิธีหยุดน้ำตาไม่ให้ไหลในทันที มีด้วยกัน 2 รูปแบบ ดังนี้

รูปแบบทางจิต

1. เดินหนีออกมาซะ

การเดินหนีออกจากสถานการณ์ตรงนั้นที่ทำให้เรารู้สึกโกรธ หงุดหงิด หรือโดนคนรักบอกเลิกจนร้องห่มร้องไห้ อาจเป็นวิธีที่จะช่วยให้ใจเย็นลง หรือสามารถกลับมาควบคุมการร้องไห้ของตัวเองได้ดีมากขึ้น

2. ให้กำลังใจตัวเอง

บ่อยครั้งที่การสื่อสารที่ผิดพลาดหรือล้มเหลวอาจนำไปสู่ความโกรธ ความไม่พอใจ ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกอยากร้องไห้ออกมา ดังนั้นเราจึงควรลองสงบสติอารมณ์ก่อน แล้วค่อยๆ พูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ ใจเย็น เช่น พูดให้กำลังใจตัวเองว่า “ไม่เป็นไรนะ” ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้น้ำตาหยุดไหล

3. ใช้สิ่งต่างๆ มาดึงดูดใจไม่ให้ฟุ้งซ่าน

อาจมีอุปกรณ์บางอย่างเข้ามาเป็นตัวช่วยให้เราหาอะไรใหม่ๆ มาโฟกัสแทน ให้มันเข้ามาวุ่นวาย เพื่อดึงสติของเรากลับมา เช่น การหากิจกรรมอื่นๆ หาปากกามาขีดเขียน วาดรูป หรือหันไปทำงาน ฟังเพลง หรือการเปิดบทสนทนากับคนอื่นที่ไว้ใจ ก็นับว่าเป็นประโยชน์เช่นเดียวกัน

4. คิดแต่เรื่องดีๆ หรือเรื่องตลก

ลองพยายามแทนที่ความคิดด้านลบ ด้วยความคิดเชิงบวก หรือคิดเกี่ยวกับเรื่องตลกๆ ก็จะช่วยคลายความตึงเครียด ให้สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ง่าย และอาจจะช่วยให้หยุดร้องไห้ง่ายยิ่งขึ้น

รูปแบบทางกายภาพ

1. พยายามหายใจเข้าลึกๆ

ลองหายใจเข้าลึกๆ จะช่วยทำให้เรามีสมาธิ และจดจ่อกับการหายใจช้าๆ ได้มากขึ้น ทำให้เราสงบ และช่วยให้เราควบคุมอารมณ์ รวมถึงการร้องไห้ได้ด้วย

2. กะพริบตาถี่ๆ

ให้ลองกลอกตาไปมา และกะพริบตาถี่ๆ ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำตาไหลออกมาได้

3. ผ่อนคลายใบหน้า

เพราะการร้องไห้มีแนวโน้มทำให้ใบหน้าแสดงความตึงเครียดออกมา ซึ่งการเพ่งความสนใจไปที่ใบหน้าของเรา และผ่อนคลายกล้ามเนื้อค่อยๆ ยิ้ม ก็จะช่วยลดความอยากร้องไห้ลงได้

4. กำจัดก้อนความรู้สึกตรงคอ

เนื่องจากการร้องไห้ส่งผลต่อระบบประสาท แล้วเคยไหม? พอร้องไห้จะรู้สึกแน่นๆ ตรงลำคอราวกับว่ามีก้อนเนื้อก่อตัวขึ้นภายในคอ เพราะมันเป็นกล้ามเนื้อที่ลำคอ หรือเรียกว่าช่องเสียงของเรา วิธีที่จะช่วยให้เราหยุดร้องไห้ก็คือ การจิบน้ำ การเคี้ยวแล้วกลืน และการหาว ก็ช่วยทำให้ก้อนเนื้อตรงนั้นหายไปได้

5. ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (สารแห่งความสุข) ก็จะช่วยทำให้เราหลุดออกจากสิ่งที่ทำให้เราอารมณ์อยู่ได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การร้องไห้เพื่อระบายออกมา อาจเป็นสิ่งดีที่ช่วยปลดปล่อยความรู้สึก แต่บางครั้งสำหรับคนบางคน ก็ไม่อยากให้ตัวเองร้องไห้ต่อหน้าคนแปลกหน้า หรือท่ามกลางสถานที่สาธารณะ เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่สบายใจจึงอยากหยุดร้องไห้ในทันที ดังนั้นลองหยิบวิธีข้างต้นไปลองใช้กันดู หรือถ้าคุณมีวิธีอื่นก็สามารถแชร์กันด้านล่างนี้เลย

อ้างอิง: