ในปี 2023 แนวคิดเรื่อง ‘ครอบครัว’ แบบดั้งเดิมในหลายๆ มิติถูกท้าทายกันจนปรุแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัวที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องของชายและหญิง ครอบครัวที่ไม่จำเป็นต้องมาจากชาติพันธุ์เดียวกัน หรือกระทั่งครอบครัวนั้นอาจไม่จำเป็นต้องมีลูก แต่อย่างไรก็ดี มิติหนึ่งที่น่าสนใจที่ถูกท้าทายเช่นกันก็คือไอเดียว่า ‘ครอบครัวต้องอยู่ร่วมกันในครัวเรือนเดียวกัน’
โดยทั่วไปเราไม่ค่อยถามกันว่า ทำไมคนแต่งงานต้องอยู่บ้านเดียวกัน? เพราะทุกคนก็จะคิดว่ามันคือเรื่องปกติที่ต้องเป็นแบบนั้น และในหลายๆ สังคม ภายหลังจากแต่งงาน ผู้หญิงก็จะถูกคาดหวังให้เลิกทำงานมาเป็น ‘แม่บ้าน’ เต็มตัว พร้อมทำงานบ้านและเลี้ยงลูกอะไรกันไป
แน่นอน หลายคนก็รู้ว่า ‘วัฒนธรรม’ แบบนี้คือที่มาว่าทำไมหลายประเทศยินดีจะจ่าย ‘ค่าแรง’ ผู้หญิงถูกกว่าผู้ชาย เพราะดั้งเดิมมีความคาดหวังกันว่าถึงอย่างไรผู้หญิงก็ต้องออกจากงานหลังแต่งงานแล้ว
อย่างไรก็ดี ในยุคปัจจุบัน ด้วยค่าครองชีพที่สูงขึ้นๆ รวมทั้งการบริโภคสิ่งจำเป็นที่มากขึ้นๆ การที่ผู้หญิงจะออกจากงานมาเป็นแม่บ้าน ทำได้ยากขึ้น เพราะเงินเดือนของฝั่งผู้ชายไม่มากพอจะหล่อเลี้ยงคนทั้งครอบครัวได้ โดยเฉพาะถ้ามีลูก ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ แม้แต่ในสังคมที่ผู้หญิงมักจะเลิกทำงานไปเมื่อแต่งงานแล้วแบบสมัยก่อน เมื่อมาถึงปัจจุบัน ผู้หญิงก็ไม่ได้เลิกทำงาน และนี่เลยทำให้เกิด ‘ปัญหา’ หลายอย่างตามมา เช่น ความลำบากของการเดินทาง และตารางการใช้ชีวิตแต่ละวันที่ไม่ตรงกันของผู้ชายและผู้หญิง
ในญี่ปุ่น สิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อการแก้ปัญหานี้คือสิ่งที่แปลตรงๆ ว่า ‘แต่งงานกันเฉพาะวันหยุด’ ซึ่งจริงๆ แล้วหมายถึงคู่แต่งงานที่อาศัยอยู่กันคนละพื้นที่ แต่จะมาอยู่ด้วยกันเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นหลัก ซึ่งเหตุผลหลักๆ ที่คนทำแบบนี้ก็เพราะต่างทำงานกันคนละพื้นที่ และอาจมีช่วงเวลาทำงานที่ต่างกัน ทำให้การมีปฏิสัมพันธ์กันใน ‘วันธรรมดา’ ทำได้ยากอยู่แล้ว เช่น การที่สามีทำงานกลับบ้านดึก ภรรยาเริ่มงานตั้งแต่เช้ามืด ก็ทำให้เวลานอนไม่ตรงกัน และถึงจะอยู่บ้านเดียวกันก็แทบไม่ได้คุยกัน และการแยกกันอยู่อาจจะดีกว่า
สำหรับคนที่สนับสนุนแนวทางแบบนี้ก็จะบอกว่า มันเหมือนเป็นการทิ้งระยะห่างทำให้ความสัมพันธ์สดใหม่เสมอ แต่อีกด้านมันก็หมายถึงต้นทุนที่มากขึ้น เพราะแต่ละคนก็น่าจะต้องจ่ายค่าเช่า ค่าน้ำ และค่าไฟของตัวเอง และที่มากกว่านั้นก็คือการเจอหน้ากันน้อยก็มีความเสี่ยงจะเกิด ‘ปัญหาการสื่อสาร’ มากขึ้น และหลายคนก็น่าจะรู้ว่านี่คือเรื่องใหญ่ในชีวิตสมรสที่อาจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ได้อีกสารพัด
ไม่แน่ใจว่าคนมีความสัมพันธ์แบบนี้กันจำนวนมากแค่ไหน แต่ทาง BBC ของอังกฤษได้รายงานสกู๊ปคู่รักญี่ปุ่นคู่หนึ่งที่มีความสัมพันธ์แบบนี้ และเป็นข่าวดังพอสมควรช่วงวันวาเลนไทน์ปี 2023 ซึ่งก็น่าสนใจอีกว่า ผู้หญิงญี่ปุ่นเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ รับรู้และเข้าใจว่าความสัมพันธ์แบบนี้คืออะไร แต่ก็น่าสนใจอีกเช่นกันว่าผู้ชายไม่ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ เคยได้ยินว่าคู่แต่งงานมีความสัมพันธ์กันแบบนี้ได้
ซึ่งก็น่าสนใจอยู่ เพราะความสัมพันธ์แบบนี้มันท้าทายบทบาททางเพศของผู้หญิงญี่ปุ่นมาก เพราะดั้งเดิมก็อย่างที่บอก ผู้หญิงญี่ปุ่นแต่งงานไป ก็มักจะถูกคาดหวังว่าต้องเลิกทำงานประจำ และมาทำหน้าที่ซักผ้า ล้างจาน ทำงานบ้านให้สามีไป แต่ความสัมพันธ์แบบใหม่นี้ ผู้หญิงไม่ต้องทำอะไรแบบนี้ และยังได้ทำงานประจำต่อไป ซึ่งในแง่หนึ่งมันก็สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับผู้หญิงมากขึ้น แต่ผู้ชายก็อาจไม่แฮปปี้เท่าไร โดยเฉพาะผู้ชายยุคเก่าที่เคยชินว่าผู้หญิงต้องเป็นคนซักผ้า ล้างจาน และทำงานบ้านอื่นๆ ให้
อ้างอิง
- Nextshark. ‘Weekend marriages,’ where couples live separately, gain popularity in Japan. https://tinyurl.com/4ee779ta