สรุป #เรียกเงินคืนโครงการรัฐ คืออะไร?

#เรียกเงินคืนโครงการรัฐ เป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจจนขึ้นเป็นเทรนด์อันดับหนึ่งในโลกทวิตเตอร์ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีหลายคนยังสงสัยว่าแฮชแท็กดังกล่าวนี้คืออะไร และมันเกิดอะไรขึ้น?

1. กระแสสังคมเกิดขึ้นเมื่อมีรายงานว่าผู้ประกอบการหลายรายที่เข้าร่วมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ เช่น โครงการคนละครึ่ง ม.33 เรารักกัน หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้รับหมายเรียกจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เพื่อเรียกเงินในโครงการคืน เนื่องจากทางร้านไม่ได้ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการบางประการ โดยในหมายเรียกระบุว่าให้เวลา 30 วันในการส่งมอบเงินคืน

2. กลุ่มผู้ที่ได้รับหมายเรียกชี้แจงเอกสารที่ตนเองได้รับ พบว่าส่วนใหญ่เป็นร้านค้าออนไลน์และกลุ่มร้านที่รับแลกเงินสด โดยยอดสูงสุดที่ได้รับหมายเรียกคือ 17 ล้านบาท และให้เวลาผู้ประกอบการได้ทำการอุทธรณ์เป็นเวลา 15 วัน ซึ่งในจำนวนที่เรียกคืนนั้นมีรายงานว่าเป็นเงินส่วนที่รวมกับต้นทุนของร้านเข้าไปด้วย ไม่ใช่ส่วนที่รัฐเป็นผู้อุดหนุนเพียงอย่างเดียว ทำให้ผู้ที่ได้รับหมายเรียก รวมถึงคนในสังคมหลายส่วนมองว่าเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่ได้รับผลกระทบในช่วงโควิดที่ผ่านมา

3. อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น ย้อนกลับไปเมื่อเดือน มิ.ย. มีรายงานจากผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ระบุว่ามีร้านค้ารวมกว่า 2,751 ราย ถูกเรียกเงินคืน ทั้งเงินต้นทุนและเงินฝั่งที่รัฐอุดหนุน เนื่องจากมีการย้าย GPS ของร้านค้าในแอปพลิเคชันที่ผิดไปจากเงื่อนไขของโครงการ

4. สิ่งสำคัญถัดมาคือในหมายเรียกไม่ได้มีการชี้แจงว่า ‘ผิดเงื่อนไข’ เนื่องจากอะไรบ้าง ทำให้หลายคนยังมีข้อกังขาว่าอาจเป็นปัญหาที่ระบบการทำงานของแอปพลิเคชันหรือไม่ แต่โดยส่วนใหญ่ผู้ประกอบการที่โดนจะเป็นร้านค้าออนไลน์และร้านรับแลกเงินสด ทำให้บางคนมองว่าร้านบางประเภททำผิดกฎเกณฑ์ของรัฐจริง แต่เป็นไปเพื่อความจำเป็นในเวลานั้น เช่น ร้านแลกเงินสด เนื่องจากประชาชนมีภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่สามารถสแกนจ่ายได้ด้วยโครงการของรัฐในเวลานั้น ทำให้เกิดร้านเช่นนี้ขึ้น เป็นนัยว่าตัวระบบที่สร้างขึ้นมาไม่ได้ตอบโจทย์ความช่วยเหลือประชาชนที่กำลังลำบากในเวลานั้นได้ ทำให้มีร้านเช่นนี้เกิดขึ้นมา

5. จากกรณีที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ มิ.ย. นายชื่นชอบ คงอุดม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่กระทรวงการคลัง โพสต์ชี้แจงกรณีเรียกคืนเงินจากโครงการรัฐ ระบุว่าทุกอย่างมีระเบียบและกฎหมายรองรับ ไม่ใช่ทำตามอำเภอใจ อย่ามองข้าราชการหรือหน่วยงานรัฐเป็นศัตรู ก่อนจะเข้าโครงการทุกคนได้รู้ข้อกำหนดและกฎเกณฑ์ก่อนแล้วว่าสิ่งใดที่สามารถทำได้บ้าง และต้องยอมรับกติกา

แต่จากกระแสสังคมที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีการแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย โดยที่บางส่วนมองว่าการเรียกเงินคืนจากรัฐ ซึ่งเรียกคืนทั้งเงินต้นทุนของร้านนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมนัก และมองว่าปัญหาอาจเป็นที่ระบบการจัดการของรัฐไม่ตอบโจทย์ปัญหาอย่างครอบคลุม ในขณะที่อีกหลายคนก็มองว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากผู้ประกอบการไม่ทำตามเงื่อนไข
แล้วคุณล่ะคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้

อ้างอิง:

• Komchadluek. ดราม่า “เราชนะ” เรียกเงินคืนทั้งทุนและกำไรหลักหมื่นถึงหลักล้านบาทช่วยรีทีค่ะ. https://bit.ly/2YBEgm2
• มติชน. #เรียกเงินคืนโครงการรัฐ พุ่งติดเทรนด์ทวิต หลังร้านค้าเจอหมายเรียกคืนเงิน ยอดสูงสุด 17 ล้าน. https://bit.ly/3lwf0qA