รู้ไหม ตอนนี้พม่ามีกลุ่ม “ทหารแตงโม” ที่แปรพักตร์มาช่วยประชาชนรบกับเผด็จการ

ณ ปลายปี 2021 โลกคงจะตระหนักดีแล้วว่า “สันติวิธี” ไม่น่าจะเป็นคำตอบของ “ประชาธิปไตย” ในพม่าเท่าไร เพราะรัฐบาลเผด็จการทหารก็ยังยึดกุมอำนาจเอาไว้หนักแน่น และปราบปรามประชาชนผู้ต่อต้านอย่างโหดเหี้ยม

พูดง่ายๆ มันคือ “สงครามกลางเมือง” ย่อมๆ แล้ว และคนทางชนะของประชาชนมันมีเพียง “การปฏิวัติอย่างรุนแรง” เท่านั้น

ซึ่งสถานการณ์นี้ก็เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของพม่าจริงๆ เพราะพม่าเป็นประเทศที่ไม่มีอำนาจในการควบคุมรัฐรอบๆ เท่าไร มันเลยทำให้เกิด “ปัญหาชนกลุ่มน้อย” ที่จริงๆ มีไม่น้อย และมีหลายกลุ่ม โดยแทบทุกกลุ่มมีกองกำลังติดอาวุธของตัวเอง และกองกำลังเหล่านี้ก็หันปากกระบอกปืนหารัฐบาลทหารพม่าเกือบหมดแล้ว เพราะฝ่ายที่ทำสัญญาหยุดยิงกับชนกลุ่มน้อยพวกนี้คือรัฐบาลประชาธิปไตยก่อนหน้านี้ และการกลับมาคุมประเทศของทหารมันก็เหมือนเป็นการฉีกสัญญาหยุดยิงกลายๆ (ไปดูลิสต์ กลุ่มกองกำลังติดอาวุธของพม่ามากมายได้ที่: https://bit.ly/2YxkYP9)

ตรงนี้หลายคนคงนึกถึงฉากแบบ Hunger Games ที่กองกำลังเล็กน้อยจับมือและรวมตัวกันต่อสู้กับ “รัฐบาลกลาง” ผู้กดขี่ ในความเป็นจริง กำลังทหารของกองทัพพม่านั้นเยอะกว่ากองกำลังพวกนี้มาก เรียกได้ว่าถ้ากองทัพยึดที่มั่นตัวเองเอาไว้ กองกำลังพวกนี้มันทำอะไรไม่ได้หรอก

ดังนั้น “ความหวังเดียว” ของ “การปฏิวัติพม่า” มันคือ “คนใน” หรือพวกทหารในกองทัพเอง

ซึ่งก็มีจริงๆ และพวกนี้มีกลุ่มเป็นของตัวเอง มีเว็บไซต์ มี Facebook มี Twitter และใช้ชื่อว่า People’s Army หรือแปลตรงๆ ว่า “ทหารของประชาชน”

แต่พวกนี้มีชื่อเล่นว่า “ทหารแตงโม” หรือ Watermelon Soldier

ซึ่งแน่นอน ชาวไทยน่าจะคุ้นกับคำนี้เพราะมันเป็นคำที่เรียกทหารที่ “ข้างนอกเขียว ข้างในแดง” ซึ่งเป็นคำสมัยที่ใช้เรียกทหารที่เข้าข้างผู้ชุมนุมเสื้อแดง ในสมัยชุมนุมที่ราชประสงค์ ก่อนจะมีการสลายการชุมนุมในปี 2010

แล้วพม่าใช้คำเดียวกัน เขาเอาไปจากชาวไทยเหมือนที่เขาหยิบยืมการ “ชูสามนิ้ว” หรือเปล่า?

คำตอบคือไม่น่าใช่ เพราะสำหรับพม่า “สีแดง” หรือสีประจำพรรค NLD ที่นำโดย อองซาน ซูจี ซึ่งชาวพม่ามองว่าเป็น “สีแห่งประชาธิปไตย” หรือพูดอีกแบบ “ทหารแตงโม” คือทหารที่สนับสนุน “รัฐบาลเงา” ของพรรค NLD ภายหลังเหตุรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 นั่นเอง

ขบวนการนี้เริ่มจากที่ผู้พัน Nyi Thuta หันหลังให้กองทัพและจับปืนสู้ร่วมกับประชาชนในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2021 ซึ่งผู้พันก็เป็นทหารพม่าคนแรกที่ออกตัวเลยว่าจะรบเข้าข้างประชาชน และหลังจากนั้น มันก็มีทหารที่หันมาร่วมรบกับประชาชนมากขึ้น

แล้วกลุ่ม People’s Soldier ทำอะไร? อันนี้หลายคนอาจสนใจ เพราะจริงๆ มันไม่ใช่ “กองทัพของประชาชน” ซะทีเดียว

เพราะกลุ่มนี้จริงๆ มันเป็น “กลุ่มสนับสนุน” ที่จะทำให้ทหารที่หันหลังให้กองทัพ หันมาสู้รบกับประชาชนนั้น “มีที่ไป” ซึ่งในองค์กรเขาแบ่งเป็น 6 แผนก

• แผนกที่ 1 คือแผนกโยกย้ายและลี้ภัย แผนกนี้มาหน้าที่เป็นหลักประกันว่าทหารที่หันหลังให้กองทัพพร้อมครอบครัวจะมีที่ไป
• แผนกที่ 2 คือแผนกสนับสนุนสิ่งของจำเป็น ก็ตามชื่อ คือเป็นฝ่ายจัดหาของจำเป็นให้ทหารที่มารบข้างประชาชนพร้อมกับครอบครัวของพวกเขา
• แผนกที่ 3 คือแผนกสื่อและการโน้มน้าว ก็คือฝ่ายสื่อสารขององค์กรนั่นเอง ที่มีหน้าที่ทั้งกระจายข่าวเกี่ยวกับองค์กรสู่โลกภายนอก และหาทางให้ทหารหันมาสู้เพื่อประชาชนมากขึ้น
• แผนกที่ 4 คือแผนกประสานงานต่างประเทศ ก็คือฝ่ายที่ทำหน้าที่ประสานงานกับทางฝั่งต่างประเทศ ทั้งสื่อต่างประเทศ นักกิจกรรมต่างประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ
• แผนกที่ 5 แผนกพัฒนาทักษะอาชีพ เนื่องจากทหารที่มารบกับประชาชนนั้นอาจไม่สามารถเป็นทหารได้อีก และต้องลี้ภัยแน่ๆ ถ้าประชาชนแพ้ ฝ่ายนี้ก็เลยเป็นฝ่ายที่จะพัฒนาทักษะการทำมาหากินเอาไว้กันเหนียว ซึ่งหลักๆ ก็คือการสอนภาษาอังกฤษให้กับพวกทหาร
• แผนกที่ 6 แผนกการเงิน ซึ่งก็ตรงไปตรงมา มีหน้าที่ระดมทุนหาค่าใช้จ่ายมาให้องค์กร

ซึ่งที่อยากเล่าก็คือ ในทางพม่านี่ เขาก็ไม่ได้เรียกร้องให้ทหารหันมาสู้กับประชาชนลอยๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น ตัวทหารก็ต้องรับผิดชอบไปเอง (ซึ่ง “รับผิดชอบ” ที่ว่าอาจหมายถึงความตายของตัวเองและครอบครัว) แต่เขามีการจัดองค์กรจริงจัง เพื่อสนับสนุนให้ทหารแปรพักตร์จากกองทัพมาเข้าร่วม “การปฏิวัติของประชาชน” แบบจริงจัง เรียกได้ว่า มีทางออก มีทางหนีที่ไล่ให้หมด เพราะทุกคนรู้ว่านี่เป็นการเสี่ยงชีวิตจริงๆ และทุกคนที่อยู่ท่ามกลาง “สงครามกลางเมือง” หรือ “การปฏิวัติ” ก็ล้วนตระหนักดีว่านี่ไม่ใช่การเล่นขายของ ความผิดพลาดทั้งหมดนำไปสู่ความตายได้ทั้งนั้น

แต่การจะเรียกร้องประชาธิปไตยจากรัฐบาลทหารสุดโหด มันก็ต้องเดิมพันกันระดับนี้แหละครับ

ทั้งนี้ ถ้าตามข่าวสารของการต่อสู้ในพม่าก็อาจเห็นเงาของการดำรงอยู่ของกลุ่มนี้เนืองๆ เช่น เหตุระเบิดในคลังแสงของทหารในปลายเดือนกันยายน 2021 ที่ผ่านมา ที่ไม่ได้มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ แต่มันเป็นฝีมือของมนุษย์แน่ๆ ไม่ใช่อุบัติเหตุ และหลายๆ ฝ่ายก็คิดว่ามันเป็นฝีมือของ “ทหารแตงโม” นี่แหละ เพราะพื้นที่ตรงนั้น คนนอกกองทัพมันเข้าไปไม่ได้ มันต้องทหารข้างในแอบวางระเบิดเอง

ก็เรียกได้ว่าสู้กันยาวๆ และที่เล่ามาแบบนี้ก็อยากให้เห็นว่าประชาชนพม่าก็มีทหารบางส่วนอยู่ข้างพวกเขา ซึ่งทำให้ความหวังในการปฏิบัติเพื่อประชาธิปไตยมันไม่ริบหรี่จนเกินไป

อ้างอิง:

• People’s Soldier. https://www.peoplesoldiers.org/,https://twitter.com/peoplesoldiers
• Twitter. https://bit.ly/3mLOrNx