ส่องนาฬิกาหรู ‘เปป กวาร์ดิโอลา’ กับ Richard Mille ราคาหลักล้านรุ่นลิมิเต็ดที่น้ำหนักโคตรเบา
หากให้เอ่ยชื่อผู้จัดการทีมฟุตบอลสุดเจ๋งในยุคสมัยปัจจุบันขึ้นมาสักคน เชื่อว่าชื่อของ ‘โจเซป กวาร์ดิโอลา ซาลา’ หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ ‘เปป กวาร์ดิโอลา’ (Pep Guardiola) ย่อมปรากฏผุดขึ้นมาเป็นลำดับแรกๆ
ด้วยหลักฐานผลงานแชมป์ไม่ว่าจะคุมทีมในลีกไหน กุนซืออย่างเปปก็แทบจะไม่เคยทำให้แฟนบอลผิดหวัง และเป็นที่ทราบกันดีว่าผู้จัดการทีมรายนี้เอาจริงเอาจังกับการวางแผน การซ้อมเทคนิค เป็นอย่างหนัก จนแทบจะเรียกได้ว่ามีลมหายใจอยู่เพื่อฟุตบอลเลยทีเดียว
แต่ในอีกด้านหนึ่ง ‘เปป กวาร์ดิโอลา’ ที่เป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมฟุตบอลที่มีค่าจ้างสูงลำดับต้นๆ ของโลก คือหนึ่งในคนที่หลงใหลในมนตร์เสน่ห์ของแฟชั่นและมักสวมใส่นาฬิกาหรูดีๆ ไว้ที่ข้อมือเสมอ
เมื่อไม่นานมานี้ ในการแข่งขันฟุลบอลยูฟ่าแชมเปียนลีกนัดแรกระหว่างแมนเซสเตอร์ซิตี้กับเรอัลมาดริด นอกจากผลสกอร์แล้ว อีกเรื่องที่ถูกพูดถึงมากเป็นลำดับรองลงมา คือ นาฬิกาหรูที่เปปใส่
‘Richard Mille RM 61-01’ ซึ่งปรากฏอยู่หลายฉากหลายตอนระหว่างการถ่ายทอดสด กลายเป็น talk of the town ที่ไม่ได้ตามมาด้วยประโยคคำถามว่า “ยืมใครมา?” แต่มันกลายเป็นเสียงฮือฮาเพราะนาฬิการุ่นดังกล่าวถูกผลิตออกมาเพียง 50 เรือนเท่านั้น
สำหรับ Richard Mille RM 61-01 มีราคาสูงถึง 1 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 45 ล้านบาท
ความพิเศษของนาฬิกาเรือนนี้ ถือเป็นนาฬิกากลไกที่เบาที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีน้ำหนักเพียง 18.83 กรัมรวมสาย ที่เบากว่ากระดาษที่ใช้เซ็นสัญญาเป็นผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้เสียอีก
เดิมทีนาฬิการุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อให้ ราฟาเอล นาดัล (Rafael Nadal) แชมป์เทนนิสแกรนด์สแลม 22 สมัยสวมใส่ขณะเล่น ดังนั้นทุกองค์ประกอบจึงได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมอย่างพิถีพิถันเพื่อลดน้ำหนัก
ด้านหลังของนาฬิกาแบบชิ้นเดียวทำจากคาร์บอน ทำให้ทนทานต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วน ในขณะที่แผ่นฐานไทเทเนียมติดอยู่กับตัวเรือนด้วยสายเคเบิลเหล็กสี่เส้น แต่ละเส้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 0.35 มม.
นอกจาก Richard Mille RM 61-01 เปปยังเป็นเจ้าของนาฬิกา Richard Mille อีกหลายรุ่น เช่น Richard Mille RM 010 ‘Manchester City’ ที่ถูกผลิตขึ้นเพียง 30 เรือน หรือ RM 022 Tourbillon Aerodyne ที่ทำขึ้นมาเพียง 5 เรือน ราคาตกที่ราวๆ 21 ล้านบาท
สำหรับ นาฬิกา Richard Mille เป็นอีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกาของสวิตเซอร์แลนด์ ที่เริ่มตั้งไข่กันในปี 1999 โดยมี ริชาร์ด มิลล์ เป็นผู้ให้กำเนิดแบรนด์
เอกลักษณ์เด่นของนาฬิกา Richard Mille จะประกอบด้วยองค์ประกอบ 4 อย่าง (1) ผลิตนาฬิกาตามสมรรถนะของรถฟอร์มูลาวัน – จึงทำให้เขาต้องการผลิตนาฬิกาที่แม่นยำ แข็งแกร่งและทนทานสูงสุดเปรียบดั่งรถฟอร์มูลาวัน
(2) วัสดุสุดล้ำคู่กับราคาหลายหลัก – Richard Mille ใช้วัสดุเพียง 3 อย่าง ได้แก่ White gold, Rose gold และ Titanium ซึ่งวัสดุที่เข้ามาประกอบนั้นต้องมีความโค้งเอียงไปตามลักษณะของตัวเรือนรูปทรงถังเบียร์โค้ง ที่พิเศษคือวัสดุบางส่วนเป็นชนิดเดียวกันกับรถฟอร์มูลาวัน อีกทั้งยังมีชิ้นส่วนที่ใช้ผลิตเรือยอชต์และเครื่องบิน เป็นต้น
(3) ใช้เวลานานกว่าเพื่อให้ดีที่สุด – เนื่องจากวัสดุที่ใช้มีความเฉพาะตัวและไม่ได้ผลิตมาเพื่อใช้ในนาฬิกา จึงต้องใช้ทั้งเวลาและทุนในการสรรค์สร้างเทคโนโลยีเฉพาะเพื่อประกอบชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน ทั้งความประณีตในการประกอบที่กินเวลากว่า 40 วัน ซึ่งถ้าหากต่อผิดจะต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด
(4) การตลาดแบบไร้คู่แข่ง – Richard Mille รู้ว่าการทำโฆษณาที่ดี จะทำให้การค้าขายไปได้สวย จึงทำให้ Richard Mille มีบรรดาเซเลบฯ มากมายมาเป็น Brand Ambassador รวมถึงการเสนอตัวเป็นสปอนเซอร์ให้กับวงการกีฬา ทีมมอเตอร์สปอร์ต ทำให้มีแฟนตัวยงตั้งแต่เหล่านักกีฬาไปจนถึงนักแสดงชื่อดังอย่าง Jackie Chan, Jay-Z และอื่นๆ
ครั้งหนึ่งริชาร์ดเคยพูดไว้ว่า “ผมอยากให้คนที่เห็นนาฬิกาของผมแล้วแบบ ว้าว เมื่อไหร่ที่ยิ่งมองพวกเขาจะยิ่งดำดิ่งลงไปในนั้น แล้วยิ่งผมอยากให้พวกเขาว้าวมากเท่าไหร่ ผมยิ่งต้องลับมีดให้คมยิ่งขึ้นเพื่อสร้างลูกเล่นและความประหลาดใจ”
จากคำพูดของ ริชาร์ด มิลล์ เมื่อมองต่อไปยังภาพของ เปป กวาร์ดิโอลา ในฐานะผู้จัดการทีมฟุตบอล ทั้งสองก็ดูจะมีบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน
นั่นคือ เป็นบุคคลที่ทำให้คนที่ได้รู้จัก รู้สึก ‘ว้าว’ ด้วยกันทั้งคู
อ้างอิง
- Pep Guardiola’s $1.26m watch makes headlines after Champions League match https://shorturl.asia/o8dDB
- Watch collection of the football manager Pep Guardiola https://shorturl.asia/xeYZd
- ส่องประวัติ Richard Mille ทำไมถึงแพง? https://shorturl.asia/FgG6q