2 Min

Vegemite และ Marmite สเปรดรสชาติสุดแปลกที่ถ้าไม่รักมาก ก็เกลียดเข้าไส้ไปเลย!

2 Min
5224 Views
24 Nov 2022

ในบรรดาสเปรดทาขนมปังทั้งหมดบนโลกใบนี้ คงจะมี Vegemite (เวจจีไมต์) และ Marmite (มาร์ไมต์) นี่แหละที่เป็นที่ถกเถียงถึงมากที่สุดในโลก เพราะมันเป็นรสชาติที่คนส่วนหนึ่งบอกว่าอร่อยมาก อเนกประสงค์มาก จะใช้ทา ให้ทำ หยิบจับไปปรุงรสอะไรก็อร่อยไปหมด ส่วนคนอีกกลุ่มหนึ่งนั้นแทบไม่เคยได้กลืน เรียกว่าเข้าปากปุ๊บก็ขย้อนออกทันที เพราะกลิ่นรสของ Vegemite และ Marmite นั้นเฉพาะตัวมากๆ (มากแบบมีไม้ยมก 10 ตัวเห็นจะได้)

สาเหตุที่กลิ่นรสของสเปรดสองอย่างนี้มันเฉพาะตัวสุดๆ ก็เพราะว่ามันทำมาจากสารสกัดจากยีสต์ (Yeast extract) ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการหมักเบียร์ มีจุดกำเนิดอยู่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 หรือช่วง 100 ปีก่อน เพราะมีนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งปิ๊งไอเดียเอายีสต์ที่เหลือจากเบียร์มาเคี่ยวให้ข้นแล้วพบว่ามันกินได้ ให้รสชาติที่ดี (?) และมีวิตามิน B สูงมาก จึงตั้งโรงงานผลิตยีสต์เคี่ยวชนิดนี้ออกขาย และเรียกมันว่า Marmite ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างมากจนถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปขายต่อยังออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ไม่กี่ปีหลังจากนั้น

แต่ไม่นาน Marmite ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ก็ต้องสะดุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ฝั่งธุรกิจจึงออกมาแก้เกมด้วยการผลิตยีสต์สกัดที่รสชาติใกล้เคียงกันออกมา แถมยังปรับสูตรให้อร่อยขึ้น (?!) จนเกิดเป็นแบรนด์ Marmite ภายหลัง หากนับกันตามอายุของแบรนด์แล้ว Mamite จึงเป็นพี่ใหญ่แห่งวงการและครองตลาดฝั่งอังกฤษ ส่วน Vegemite เป็นน้องเล็กที่ปรับสูตรใหม่ และตีตลาดฝั่ง Down Under ได้ตลอดมาจนถึงปัจจุบันนั่นเอง

Marmite และ Vegemite หน้าตารูปลักษณ์คล้ายกันแบบแฝดคนละฝา คืออยู่ในกระปุกฝาเหลือง ฉลากเหลือง และตัวสเปรดเองก็เป็นสีน้ำตาลข้นๆ เหนียวๆ ถ้าเพิ่งเจอกันครั้งแรกโปรดอย่าเข้าใจผิดว่าเป็นเนยถั่วรสช็อกโกแลตจนเผลอปาดลงบนขนมปังแบบช้อนพูนๆ เพราะส่วนผสมราว 10 เปอร์เซ็นต์ ของมันคือเกลือ จึงอาจเกิดอาการเค็มถูกใจไตถูกตัดเอาได้

นอกจากเรื่องความเค็มแล้ว กลิ่นที่เกิดจากการหมักและถูกทำให้เข้มข้นขึ้นนั้นก็ถือว่ามีอานุภาพทำลายล้างพอสมควร วิธีกินแบบที่ชาว Marmite Lover และ Vegemite Lover ได้แนะนำไว้ก็คือการทาสเปรดเป็นชั้นบางๆ (มากๆ) ลงบนแผ่นขนมปังปิ้งทาเนยหรือแครกเกอร์ เมื่อ Marmite หรือ Vegemite ซึมลงไปแล้วมันก็จะเกิดรสเค็มอ่อนๆ และกลิ่นหอมเฉพาะตัวขึ้น นี่แหละคือเสน่ห์ที่ทำให้ยีสต์สกัดทั้งสองแบรนด์นี้ยังคงเป็นที่รักของชาวอังกฤษ นิวซีแลนด์ และออสเตรเลียมานานนับร้อยปี

นอกจากใช้เป็นสเปรดทาขนมปังแล้ว Marmite และ Vegemite ยังสามารถใช้เป็นเครื่องปรุงอาหาร ซอส ซุป เพื่อเพิ่มรสอูมามิและเพิ่มวิตามิน B ได้ด้วย ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เหล่าทหารจากดินแดน Down Under ต่างก็พก Vegemite ติดตัวไปรบต่างแดนกันแทบทุกคน

แม้คนไทยหลายคนจะทำหน้าเบ้เมื่อได้ลองชิม แต่ความรักที่คนกลุ่มหนึ่งมีต่อ Marmite และ Vegemite ก็คงไม่ต่างจากความรักที่คนไทยมีต่อกะปิ ปลาร้า และน้ำปลานั่นแหละ กินครั้งแรกๆ ก็จะงงๆ หน่อย แต่พอกินบ่อยๆ เอ๊า อร่อยขึ้นมาซะอย่างนั้น!

อ้างอิง