รู้ไหม ‘Tupperware’ คือชื่อของ ‘แบรนด์’ ไม่ได้หมายถึงกล่องพลาสติกใส่อาหาร
ปัจจุบันเรามักจะใช้คำว่า ‘ทัปเปอร์แวร์’ แทนคำว่า ‘กล่องพลาสติกใส่อาหาร’ และใช้จนติดปากโดยไม่ทันคิดว่าทำไมเราจึงเรียกมันอย่างนี้ แต่รู้ไหมในความเป็นจริง ‘Tupperware’ เป็นชื่อแบรนด์ที่มีอายุกว่าค่อนศตวรรษ เป็นแบรนด์ใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ภาชนะพลาสติกในหมู่ผู้บริโภค การที่เราเรียก ‘กล่องพลาสติกใส่อาหาร’ ว่า ‘ทัปเปอร์แวร์’ กันจนติดปากนั้นก็น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ดี
และต้องย้ำว่า นี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่เกิดในเมืองไทยเท่านั้น (แบบที่ครั้งหนึ่งเราเรียกผงซักฟอกทุกยี่ห้อว่า ‘แฟ้บ’ หรือเรียกผ้าอนามัยว่า ‘โกเต๊ก’) แต่มันเกิดขึ้นทั่วทั้งโลก ‘ทัปเปอร์แวร์’ เป็นคำสากลของแม่บ้านในการเรียกกล่องพลาสติกใส่อาหารมานานแล้ว
‘Tupperware’ เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งโดย เอิร์ล ทัปเปอร์ (Earl Tupper) หนุ่มชาวไร่ที่เป็นทั้งนักประดิษฐ์และนักขาย เขาชอบประดิษฐ์สิ่งของตั้งแต่เด็ก และก็ชอบเอาสินค้าเกษตรของที่บ้านไป ‘ขายตรง’ ตามบ้าน
แต่ในช่วงวัย 20 กลางๆ ชีวิตของทัปเปอร์ก็หักเห เพราะอเมริกาเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำอย่าง ‘The Great Depression’ ทัปเปอร์ เลยต้องไปทำงานโรงงานพลาสติก ที่ซึ่งทำให้เขาเกิดไอเดียอยากทำภาชนะพลาสติกมาขาย โดยจะสร้างกล่องพลาสติกที่ปิดได้แน่นหนาระดับที่ของเหลวไม่รั่วไหลออกมา ซึ่งยุคนั้นยังไม่มีขายกัน
ทัปเปอร์ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และซื้อเครื่องจักรจนผลิตสินค้าของ Tupperware ชิ้นแรกออกมาขายในปี 1938 (ตอนนั้นเขามีอายุ 31 ปี) และใช้เทคนิคการ ‘ขายตรง’ เพื่อขยายอาณาจักรธุรกิจของเขาในช่วง 1940 ซึ่งเป็นปีที่เศรษฐกิจอเมริกันเริ่มฟื้นพอดี พูดง่ายๆ Tupperware ใช้เทคนิคให้เหล่าแม่บ้านเป็น ‘เซลล์’ ในการขายตรงแบบพวกแบรนด์เครื่องสำอางรุ่นก่อนๆ นี่เอง
อย่างไรก็ดี คนที่ ‘ปฏิวัติการขาย’ ก็คือ บราวนี ไวส์ (Brownie Wise) แม่บ้านจากจอร์เจีย ที่เรียนจบแค่ระดับประถม แต่เป็นผู้สร้างนวัตกรรมการขาย Tupperware ในทศวรรษ 1950
ไวส์ไม่ได้ทำแค่ไปเคาะประตูบ้านแล้วบอกว่ามีสินค้ามาขาย แต่เธอริเริ่ม ‘ทัปเปอร์แวร์ปาร์ตี้’ ซึ่งคือปาร์ตี้ของแม่บ้านที่มีกิจกรรมต่างๆ เพื่อสาธิตสินค้าและขายสินค้า มีกิจกรรมไฮไลต์อย่างหนึ่ง คือการโยนทัปเปอร์แวร์ให้รับ โดยในนั้นใส่น้ำผลไม้จนเต็ม โดยเป็นการสาธิตให้เห็นว่าทัปเปอร์แวร์นี้ปิดแน่นแค่ไหนนั่นเอง
ปรากฏว่า ‘ปาร์ตี้ทัปเปอร์แวร์’ ได้ปฏิวัติความคิดแม่บ้านในยุคนั้น จากที่ก่อนหน้าผู้บริโภคไม่ไว้ใจวัสดุแบบใหม่อย่างพลาสติก และไม่มีใครกล้าใช้ เพราะกลัวสารปนเปื้อนต่างๆ นานา แต่ปาร์ตี้ของไวส์ทำให้ผู้คนเข้าใจว่าพลาสติกไม่ได้มีอันตรายอย่างที่เชื่อกัน สุดท้ายเธอก็ทำยอดขายพุ่งกระฉูดจนสุดท้ายทางบริษัทแต่งตั้งให้เธอเป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ Tupperware แล้วหลังจากนั้นมันก็คือ ‘ประวัติศาสตร์’
แบรนด์ Tupperware แพร่กระจายไปพร้อมกับวัฒนธรรมอเมริกันในยุคสงครามเย็น มันกลายมาเป็นหนึ่งในมาตรฐานแบบอเมริกันชนจนทุกวันนี้ โดยในปี 2008 ทัปเปอร์แวร์ได้รับการยกย่องว่าเป็นแบรนด์ที่ผู้หญิงไว้ใจที่สุดในประเทศอย่างจีนและอินเดียด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันสถานการณ์ของ Tupperware ในอเมริกาก็ไม่สู้ดีเท่าไร หนี้สินเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ ของสินทรัพย์บริษัท และทางผู้บริหารก็เริ่มบอกว่าอาจไปต่อไม่ไหว สาเหตุหลักก็คือ ตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 2010 ทั่วโลกเริ่มใส่ใจในการสู้โลกร้อนระดับเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิต และสิ่งที่หลายคนจะสังเกตก็คือ คนเริ่มหลีกเลี่ยงการใช้ ‘พลาสติก’ ในทุกรูปแบบ หลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกในทุกระดับ ทำให้แบรนด์พลาสติกอย่าง Tupperware ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ
ประกอบกับผู้หญิงปัจจุบันนี้ไม่ได้มีชีวิตเหมือนเดิมอีกต่อไป ผู้หญิงยุคใหม่ไม่จำเป็นต้องเป็นแม่บ้านเมื่อแต่งงานแล้ว ในแง่หนึ่งคือมันทำให้ประชากรกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ คือถ้าคุณไม่ใช่ ‘แม่บ้าน’ คุณก็ไม่รู้สึกว่าคุณจะต้องใช้สินค้าแบรนด์ Tupperware ไปทำไม
และถ้าสองเหตุผลข้างต้นนั้นยังหนักไม่พอ สถานการณ์ปัจจุบันของแบรนด์ยังถูกซ้ำเติมในช่วงโควิดนี่แหละ การ ‘ขายตรง’ ที่เป็นไม้เด็ดที่เป็นมาตลอดของแบรนด์เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ไปเกือบ 3 ปีทั่วโลก และหลังจากนั้นเศรษฐกิจโลกก็ไม่ได้ดีขึ้น พวกยอดขายก็ยังไม่กลับมา
พูดง่ายๆ ปัจจุบันแบรนด์ Tupperware เจอ ‘มรสุม’ ในทุกมิติ จนหลายฝ่ายกังขาว่าแบรนด์จะไปต่อได้หรือไม่ เพราะสุดท้าย เราก็ต้องยอมรับว่า Tupperware เป็นแบรนด์ที่โตมากับกลุ่มลูกค้าที่เป็น ‘ผู้หญิงตามจารีต’ ซึ่งทุกวันนี้ก็เป็นกลุ่มคนที่ลดลงเรื่อยๆ แล้วในโลก
สุดท้าย เผื่อสงสัยกันว่า แล้ว ‘เอิร์ล ทัปเปอร์’ ผู้ก่อตั้งแบรนด์หายไปไหน เอาจริงๆ ปู่แกขายบริษัทพร้อมแบรนด์ Tupperware ที่แกสร้างมา 20 ปีไปตั้งแต่ปี 1958 ในตอนนั้นก็หอบเงินก้อนโตจากอเมริกาไป ‘เกษียณ’ อยู่ที่คอสตาริกา ใช้ชีวิตสงบยาวนาน 25 ปี และเสียชีวิตในสุดที่ในปี 1983
ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าแกจะรู้สึกยังไงที่ไม่ได้คุมบริษัทถึงยุคที่ Tupperware เป็นแบรนด์ระดับโลก แต่ถ้าแกทำแบบนั้น แกคงไม่ได้ไปเกษียณอย่างสงบที่คอสตาริกาแน่ๆ
อ้างอิง
- El Pais. The end of Tupperware: Why the empire hasn’t survived the 21st century. https://english.elpais.com/economy-and-business/2023-10-08/the-end-of-tupperware-why-the-empire-hasnt-survived-the-21st-century.html