เจาะกลยุทธ์ TrueMoney สร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่ เปิดตัว LISA BLACKPINK แบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด มอบความ ‘เป็นไปได้ ได้ทุกคน’ ด้วยแอปการเงินเดียว ง่าย ครบ จบทุกความต้องการ

5 Min
944 Views
14 Jun 2023

ในยุคสังคมไร้เงินสด กระเป๋าเงินดิจิทัล (digital wallet) เป็นตัวกลางสำคัญในการใช้แทนเงินสด เมื่อต้องจ่ายเงินที่ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต รถไฟฟ้า ร้านอาหาร เป็นต้น แต่เพียงการใช้จ่ายธรรมดา ก็ไม่สามารถตอบโจทย์คนทุกกลุ่มได้ เพราะปัญหาที่ใหญ่กว่าหากดูจากดัชนีเศรษฐกิจของไทยก็คือการหาเงินมาใช้จ่าย

ถึงแม้ประเทศไทยจะมีคนที่มีบัญชีธนาคารมากกว่า 80% ของประชากรประเทศ แต่เกือบ 88% มีเงินติดบัญชีไม่ถึงห้าหมื่น นอกจากนี้ ดัชนีหนี้ครัวเรือนกลับสูง และร้อยละผู้ที่เปิดบัญชีการลงทุนกลับมีแค่ 4% สิ่งเหล่านี้ได้บ่งชี้ว่ามีข้อจำกัดบางอย่างที่ทำให้คนไทยจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงหรือใช้เครื่องมือทางการเงินอย่างเต็มที่เพื่อสร้างฐานะการเงินและคุณภาพชีวิตที่ดีได้

(คุณมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด)

ล่าสุด TrueMoney ในฐานะผู้ให้บริการด้านการเงินที่ไม่เคยหยุดพัฒนาการบริการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ จึงประกาศทิศทางธุรกิจและแบรนด์เพื่อยกระดับการให้บริการด้านการเงินให้ครอบคลุมทุกความต้องการ และเข้าถึงคนทุกกลุ่มมากที่สุด โดยเป้าหมายใหญ่คือการช่วยให้คนไทยทุกคนสามารถทลายข้อจำกัดทางการเงินและการใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อสร้างชีวิตที่ดีขึ้นในแบบฉบับของตัวเอง พร้อมมอบความหวังว่าแม้ว่าแต่ละคนจะมีจุดเริ่มต้นที่ต่างกัน แต่ทุกสิ่งนั้นเป็นไปได้

โดยสิ่งที่น่าสนใจในการประกาศครั้งนี้ก็คือ การดึง LISA BLACKPINK มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพื่อสื่อสารแนวคิด ‘เป็นไปได้ ได้ทุกคน’ รวมถึงสร้างการรับรู้แบรนด์ว่า TrueMoney คือแอปที่ไม่ใช่แค่สำหรับจ่ายอีกต่อไป แต่เป็นผู้ช่วยทางการเงินที่จะทำให้ทุกบริการทางการเงินทั้ง ใช้จ่าย ออม ลงทุน นั้นเหนือกว่าคำว่าง่าย แต่รู้ใจ และมอบคุณค่าในทุกๆ การใช้สำหรับทุกคน

แน่นอนว่า หลายคนต้องเริ่มสงสัยแล้วว่านอกจากเหล่าลิลลี่และบลิ้งค์ ซึ่งเป็นกลุ่มแฟนคลับลิซ่า TrueMoney จะสามารถดึงดูดลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ได้มากแค่ไหน

เป้าหมายใหญ่ที่เริ่มจาก Pain Point เพื่อทลายทุกข้อจำกัด

แม้ว่าปัจจุบันลูกค้า TrueMoney จะมีอยู่แล้วกว่า 27 ล้านคน แต่การเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ให้ถึง 33 ล้านคน ในปี 2568 นั้น เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะฉะนั้น อันดับแรกจึงจำเป็นต้องรู้ปัญหาของว่าที่ลูกค้าใหม่ก่อนว่า พวกเขากำลังเผชิญกับข้อจำกัดใดอยู่บ้าง ถึงไม่สามารถเข้าถึงบริการที่ต้องการได้ เช่น

  1. ปัญหาความยากจนและโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน
  2. ปัญหารายได้น้อย เงินเก็บก็ไม่มาก แถมฝากเงินออมแต่ละที ดอกเบี้ยเท่าหยิบมือ
  3. อยากลงทุน แต่เงินน้อย ไม่มีทั้งเวลาและความรู้
  4. ขาดสภาพคล่องทางการเงิน

ซึ่ง pain point เหล่านี้ก็สะท้อนมาจากกลุ่มลูกค้า segment หลักที่ TrueMoney ได้มองไว้ ได้แก่ กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มเด็กจบใหม่เพิ่งเริ่มทำงาน (first jobber) กลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย หรือ SME จนนำไปสู่การประกาศทิศทางธุรกิจและแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี ซึ่งก็คือการมอบ Effortless Money Management Service that Adds Value in Every Action หรือการให้บริการด้านการเงินที่ช่วยให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย และได้รับคุณค่าทุกการใช้งาน

แอปพลิเคชันการเงิน คือประตูที่เปิดสู่โอกาสให้ทุกความต้องการเป็นไปได้

TrueMoney ได้สร้างสรรค์และต่อยอดบริการทางการเงินต่างๆ ภายใต้ 3 กลยุทธ์ คือ ง่าย (Ease) ให้คุณค่าทุกการใช้ (Value) และตอบสนองความต้องการของคนทุกกลุ่ม (Access) ดังนี้

1. บริการด้านการใช้จ่าย เพื่อเติมเต็มความต้องการทุกไลฟ์สไตล์ ง่ายนิดเดียว: เริ่มต้นด้วยการเปิดบัญชีแสนง่าย ทำได้ทางออนไลน์ไม่ต้องเสียเวลาไปธนาคาร แม้จะเป็นกลุ่มลูกค้ากลุ่มเด็กวัยรุ่นและพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปก็สามารถเปิดได้ เข้าถึงบริการโอนและรับเงินได้ ด้วยหลากหลายฟีเจอร์สนุกๆ และตอบโจทย์ เช่น ส่งลิงก์เรียกเก็บเงิน หรือบริการเตือนให้คืนเงินซึ่งตั้งให้ TrueMoney ทวงให้ด้วยการแจ้งเตือนไปยังบัญชีผู้ยืมอัตโนมัติเมื่อถึงกำหนด

สำหรับการใช้จ่าย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในประเทศก็สามารถสแกนจ่ายได้กว่า 7 ล้านจุด หรือแม้จะบินไปต่างประเทศอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ก็สามารถจ่ายได้เลยแค่ถือแอป TrueMoney ไปด้วย ไม่ต้องแลกเงิน ไม่มีค่าธรรมเนียม แถมได้เรตดีอีกต่างหาก

นอกจากนี้ ยังมีบริการที่ทำให้การใช้จ่ายเป็นเรื่องสะดวกอย่าง Pay Next วงเงินพร้อมใช้ที่ช่วยให้คุณใช้ก่อนจ่ายทีหลังได้เมื่อซื้อสินค้าทั้งที่หน้าร้านและเดลิเวอรี่จากร้านค้าชั้นนำเช่น เซเว่นอีเลฟเว่น โลตัส และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้บริการแล้วกว่า 1.2 – 1.3 ล้านคน อีกทั้งยังสามารถรับสิทธิ์ในการได้รับเงินคืน เมื่อผูกบัญชีเพื่อการใช้จ่าย ตอบโจทย์ได้ทั้งสังคมไร้เงินสด และไร้เงินติดตัวด้วย

(คุณณัฐวดี แซ่เอี้ย ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมทางธุรกิจ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด)

2. บริการด้านการเงินให้งอกเงยอย่างยั่งยืนด้วยการฝาก การลงทุน และการสร้างหลักประกัน: ตั้งแต่ยุคดอกเบี้ยขาขึ้นหลายคนก็หันมาสนใจ และศึกษาการลงทุนกันมากขึ้น รวมถึงพิถีพิถันในการเลือกว่าฝากเงินเจ้าไหนหรือลงทุนอะไรจะให้ดอกเบี้ยคุ้มค่ากว่ากัน

ด้าน TrueMoney ก็ไม่พลาดเปิดให้บริการด้านเงินฝากที่รับประกันว่าอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทุกการออม แถมยังมีฟังก์ชันตั้งค่าตัดเงินจากบัญชีไปฝากเป็นเงินออมได้ทุกเดือน พร้อมรับดอกเบี้ยสูงสุดถึง 4 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงบริการการลงทุนที่สามารถเริ่มได้แม้เงินน้อย เช่น กองทุนรวมที่เลือกลงทุนได้ตั้งแต่ 1 บาท หรือซื้อแผนประกันด้วยเงินหลักร้อยต้นๆ

ยิ่งเริ่มเร็วก็งอกเงยได้เร็ว โดยปัจจุบันอัตราการลงทุนกับ TrueMoney มีถึง 2.5 ล้านคน หรือเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ ของลูกค้าทั้งหมด และคาดว่าอาจมีแนวโน้มการเริ่มต้นลงทุนเพิ่มขึ้น หลังจากเปิดตัวแอมบาสเดอร์คนล่าสุด

3. สนับสนุนและตอบรับความต้องการของผู้ประกอบการในทุกระดับ: TrueMoney มีบริการสำหรับกลุ่มธุรกิจ SME และผู้ประกอบการรายย่อยให้อุ่นใจทุกการขาย ด้วยบริการระบบสมาชิก CRM สำเร็จรูป และฟีเจอร์โปรโมตร้านค้า ตลอดจนช่วยร้านค้าทำโปรโมชั่นต่างๆ นอกจากนี้ TrueMoney ยังเตรียมเปิดตัวบริการเครื่อง ‘มันนี่ บ็อกซ์ กล่องเรียกทรัพย์’ ที่จะแจ้งเตือนด้วยเสียงแบบเรียลไทม์เมื่อลูกค้าชำระเงินสำเร็จ ช่วยให้ผู้ประกอบการมั่นใจยิ่งขึ้นว่าเงินเข้าชัวร์ในทุกการรับชำระเงินผ่านทรูมันนี่

พัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะใหม่ เพิ่มความอุ่นใจยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีที่ยิ่งพัฒนาได้ก้าวกระโดดขึ้นทุกวัน มิจฉาชีพก็พัฒนากลลวงและวิธีใหม่ๆเพื่อแทรกแซงระบบทุกทาง ‘ความปลอดภัย’ ในการทำธุรกรรมการเงินจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผู้คนต่างกังวล

TrueMoney จึงทำการยกระดับเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ TrueMoney Secure ที่มีฟีเจอร์ยืนยันตัวตนและเข้ารหัสหลากหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือ การสแกนใบหน้าเพื่ออนุมัติรายการตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไปหรือเมื่อระบบพบการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ นอกจากนี้ยังมี ระบบตรวจจับและแจ้งเตือนพฤติกรรมต้องสงสัยแบบเรียลไทม์ รวมถึงสายด่วนแจ้งภัยการเงินตลอด 24 ชั่วโมง

แล้วทำไมต้องเป็น ลิซ่า ที่มาบอกว่า “เป็นไปได้ ได้ทุกคน” ?

นั่นเพราะ TrueMoney มองว่า ลิซ่าเป็นตัวแทนของ ความเป็นไปได้ และตัวแทนของคนรุ่นใหม่ จากเด็กที่มาจากจังหวัดเล็กๆ แต่ก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาความสามารถเพื่อไขว่คว้าฝันจนได้เดบิวต์เป็นศิลปิน K-POP สู่การเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่โด่งดังในระดับโลก และไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหน ท่วงท่าใด เธอยังคงเต็มที่ และสร้างความสั่นสะเทือนไปทั้งวงการ

(คุณอนัณทินี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด)

ดังนั้น ความเป็นซูเปอร์สตาร์นี่เองที่มาจุดพลุให้กับการสื่อสาร พลิกโฉมการรับรู้ด้านบริการของ TrueMoney ว่าเป็นซูเปอร์แอปทางการเงินได้ไม่ยาก

ลูกค้าเดิมก็มั่นใจที่จะใช้บริการของ TrueMoney ต่อไป และยังชวนให้กลุ่มลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชมลิซ่า และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นพลังในการพัฒนาและผลักดันประเทศในอนาคตมาสัมผัสความเป็นไปได้นี้ไปพร้อมๆ กัน

ด้วยความพยายามทั้งหมดนี้ การสร้างการรับรู้ว่า TrueMoney คือซูเปอร์แอปการเงินที่ให้บริการครบทั้งใช้จ่าย ออม ลงทุน และมอบโอกาสสู่ความเป็นไปได้แก่คนไทยทุกคน ดูเหมือนจะไม่ยากเกินความสามารถ เพราะคอยสำรวจความต้องการของลูกค้า และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ขึ้นมาโดยตลอด

สุดท้ายนี้ เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 10 ปี ในปีนี้ ทรูมันนี่ ยังเตรียมจัดเต็มแคมเปญสมนาคุณสุดพิเศษครั้งใหญ่ รวมไปถึงสิทธิพิเศษอีกมากมายสำหรับผู้ใช้ทรูมันนี่ตลอดทั้งปี พร้อมกิจกรรมสุดเซอร์ไพรส์ให้เหล่าแฟนด้อมของลิซ่าได้ร่วมสนุกเร็วๆ นี้

สามารถรับชมภาพยนตร์โฆษณา ‘ทรูมันนี่ เป็นไปได้ ได้ทุกคน’ ได้ทั่วประเทศทางสื่อต่างๆ ที่พร้อมสร้างความประทับใจได้แล้ววันนี้ ที่ https://www.truemoney.com/lisa-campaign/ พร้อมร่วมแชร์และใส่ #LISAwithTrueMoney #เป็นไปได้ได้ทุกคน #ทรูมันนี่ และติดตามกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ Facebook Fanpage TrueMoney