เจาะกลยุทธ์ TrueMoney สร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่ เปิดตัว LISA BLACKPINK แบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด มอบความ ‘เป็นไปได้ ได้ทุกคน’ ด้วยแอปการเงินเดียว ง่าย ครบ จบทุกความต้องการ
ในยุคสังคมไร้เงินสด กระเป๋าเงินดิจิทัล (digital wallet) เป็นตัวกลางสำคัญในการใช้แทนเงินสด เมื่อต้องจ่ายเงินที่ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต รถไฟฟ้า ร้านอาหาร เป็นต้น แต่เพียงการใช้จ่ายธรรมดา ก็ไม่สามารถตอบโจทย์คนทุกกลุ่มได้ เพราะปัญหาที่ใหญ่กว่าหากดูจากดัชนีเศรษฐกิจของไทยก็คือการหาเงินมาใช้จ่าย
ถึงแม้ประเทศไทยจะมีคนที่มีบัญชีธนาคารมากกว่า 80% ของประชากรประเทศ แต่เกือบ 88% มีเงินติดบัญชีไม่ถึงห้าหมื่น นอกจากนี้ ดัชนีหนี้ครัวเรือนกลับสูง และร้อยละผู้ที่เปิดบัญชีการลงทุนกลับมีแค่ 4% สิ่งเหล่านี้ได้บ่งชี้ว่ามีข้อจำกัดบางอย่างที่ทำให้คนไทยจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงหรือใช้เครื่องมือทางการเงินอย่างเต็มที่เพื่อสร้างฐานะการเงินและคุณภาพชีวิตที่ดีได้

(คุณมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด)
ล่าสุด TrueMoney ในฐานะผู้ให้บริการด้านการเงินที่ไม่เคยหยุดพัฒนาการบริการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ จึงประกาศทิศทางธุรกิจและแบรนด์เพื่อยกระดับการให้บริการด้านการเงินให้ครอบคลุมทุกความต้องการ และเข้าถึงคนทุกกลุ่มมากที่สุด โดยเป้าหมายใหญ่คือการช่วยให้คนไทยทุกคนสามารถทลายข้อจำกัดทางการเงินและการใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อสร้างชีวิตที่ดีขึ้นในแบบฉบับของตัวเอง พร้อมมอบความหวังว่าแม้ว่าแต่ละคนจะมีจุดเริ่มต้นที่ต่างกัน แต่ทุกสิ่งนั้นเป็นไปได้
โดยสิ่งที่น่าสนใจในการประกาศครั้งนี้ก็คือ การดึง LISA BLACKPINK มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพื่อสื่อสารแนวคิด ‘เป็นไปได้ ได้ทุกคน’ รวมถึงสร้างการรับรู้แบรนด์ว่า TrueMoney คือแอปที่ไม่ใช่แค่สำหรับจ่ายอีกต่อไป แต่เป็นผู้ช่วยทางการเงินที่จะทำให้ทุกบริการทางการเงินทั้ง ใช้จ่าย ออม ลงทุน นั้นเหนือกว่าคำว่าง่าย แต่รู้ใจ และมอบคุณค่าในทุกๆ การใช้สำหรับทุกคน
แน่นอนว่า หลายคนต้องเริ่มสงสัยแล้วว่านอกจากเหล่าลิลลี่และบลิ้งค์ ซึ่งเป็นกลุ่มแฟนคลับลิซ่า TrueMoney จะสามารถดึงดูดลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ได้มากแค่ไหน
เป้าหมายใหญ่ที่เริ่มจาก Pain Point เพื่อทลายทุกข้อจำกัด
แม้ว่าปัจจุบันลูกค้า TrueMoney จะมีอยู่แล้วกว่า 27 ล้านคน แต่การเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ให้ถึง 33 ล้านคน ในปี 2568 นั้น เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะฉะนั้น อันดับแรกจึงจำเป็นต้องรู้ปัญหาของว่าที่ลูกค้าใหม่ก่อนว่า พวกเขากำลังเผชิญกับข้อจำกัดใดอยู่บ้าง ถึงไม่สามารถเข้าถึงบริการที่ต้องการได้ เช่น
- ปัญหาความยากจนและโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน
- ปัญหารายได้น้อย เงินเก็บก็ไม่มาก แถมฝากเงินออมแต่ละที ดอกเบี้ยเท่าหยิบมือ
- อยากลงทุน แต่เงินน้อย ไม่มีทั้งเวลาและความรู้
- ขาดสภาพคล่องทางการเงิน
ซึ่ง pain point เหล่านี้ก็สะท้อนมาจากกลุ่มลูกค้า segment หลักที่ TrueMoney ได้มองไว้ ได้แก่ กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มเด็กจบใหม่เพิ่งเริ่มทำงาน (first jobber) กลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย หรือ SME จนนำไปสู่การประกาศทิศทางธุรกิจและแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี ซึ่งก็คือการมอบ Effortless Money Management Service that Adds Value in Every Action หรือการให้บริการด้านการเงินที่ช่วยให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย และได้รับคุณค่าทุกการใช้งาน
แอปพลิเคชันการเงิน คือประตูที่เปิดสู่โอกาสให้ทุกความต้องการเป็นไปได้
TrueMoney ได้สร้างสรรค์และต่อยอดบริการทางการเงินต่างๆ ภายใต้ 3 กลยุทธ์ คือ ง่าย (Ease) ให้คุณค่าทุกการใช้ (Value) และตอบสนองความต้องการของคนทุกกลุ่ม (Access) ดังนี้
1. บริการด้านการใช้จ่าย เพื่อเติมเต็มความต้องการทุกไลฟ์สไตล์ ง่ายนิดเดียว: เริ่มต้นด้วยการเปิดบัญชีแสนง่าย ทำได้ทางออนไลน์ไม่ต้องเสียเวลาไปธนาคาร แม้จะเป็นกลุ่มลูกค้ากลุ่มเด็กวัยรุ่นและพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปก็สามารถเปิดได้ เข้าถึงบริการโอนและรับเงินได้ ด้วยหลากหลายฟีเจอร์สนุกๆ และตอบโจทย์ เช่น ส่งลิงก์เรียกเก็บเงิน หรือบริการเตือนให้คืนเงินซึ่งตั้งให้ TrueMoney ทวงให้ด้วยการแจ้งเตือนไปยังบัญชีผู้ยืมอัตโนมัติเมื่อถึงกำหนด
สำหรับการใช้จ่าย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในประเทศก็สามารถสแกนจ่ายได้กว่า 7 ล้านจุด หรือแม้จะบินไปต่างประเทศอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ก็สามารถจ่ายได้เลยแค่ถือแอป TrueMoney ไปด้วย ไม่ต้องแลกเงิน ไม่มีค่าธรรมเนียม แถมได้เรตดีอีกต่างหาก
นอกจากนี้ ยังมีบริการที่ทำให้การใช้จ่ายเป็นเรื่องสะดวกอย่าง Pay Next วงเงินพร้อมใช้ที่ช่วยให้คุณใช้ก่อนจ่ายทีหลังได้เมื่อซื้อสินค้าทั้งที่หน้าร้านและเดลิเวอรี่จากร้านค้าชั้นนำเช่น เซเว่นอีเลฟเว่น โลตัส และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้บริการแล้วกว่า 1.2 – 1.3 ล้านคน อีกทั้งยังสามารถรับสิทธิ์ในการได้รับเงินคืน เมื่อผูกบัญชีเพื่อการใช้จ่าย ตอบโจทย์ได้ทั้งสังคมไร้เงินสด และไร้เงินติดตัวด้วย

(คุณณัฐวดี แซ่เอี้ย ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมทางธุรกิจ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด)
2. บริการด้านการเงินให้งอกเงยอย่างยั่งยืนด้วยการฝาก การลงทุน และการสร้างหลักประกัน: ตั้งแต่ยุคดอกเบี้ยขาขึ้นหลายคนก็หันมาสนใจ และศึกษาการลงทุนกันมากขึ้น รวมถึงพิถีพิถันในการเลือกว่าฝากเงินเจ้าไหนหรือลงทุนอะไรจะให้ดอกเบี้ยคุ้มค่ากว่ากัน
ด้าน TrueMoney ก็ไม่พลาดเปิดให้บริการด้านเงินฝากที่รับประกันว่าอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทุกการออม แถมยังมีฟังก์ชันตั้งค่าตัดเงินจากบัญชีไปฝากเป็นเงินออมได้ทุกเดือน พร้อมรับดอกเบี้ยสูงสุดถึง 4 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงบริการการลงทุนที่สามารถเริ่มได้แม้เงินน้อย เช่น กองทุนรวมที่เลือกลงทุนได้ตั้งแต่ 1 บาท หรือซื้อแผนประกันด้วยเงินหลักร้อยต้นๆ
ยิ่งเริ่มเร็วก็งอกเงยได้เร็ว โดยปัจจุบันอัตราการลงทุนกับ TrueMoney มีถึง 2.5 ล้านคน หรือเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ ของลูกค้าทั้งหมด และคาดว่าอาจมีแนวโน้มการเริ่มต้นลงทุนเพิ่มขึ้น หลังจากเปิดตัวแอมบาสเดอร์คนล่าสุด
3. สนับสนุนและตอบรับความต้องการของผู้ประกอบการในทุกระดับ: TrueMoney มีบริการสำหรับกลุ่มธุรกิจ SME และผู้ประกอบการรายย่อยให้อุ่นใจทุกการขาย ด้วยบริการระบบสมาชิก CRM สำเร็จรูป และฟีเจอร์โปรโมตร้านค้า ตลอดจนช่วยร้านค้าทำโปรโมชั่นต่างๆ นอกจากนี้ TrueMoney ยังเตรียมเปิดตัวบริการเครื่อง ‘มันนี่ บ็อกซ์ กล่องเรียกทรัพย์’ ที่จะแจ้งเตือนด้วยเสียงแบบเรียลไทม์เมื่อลูกค้าชำระเงินสำเร็จ ช่วยให้ผู้ประกอบการมั่นใจยิ่งขึ้นว่าเงินเข้าชัวร์ในทุกการรับชำระเงินผ่านทรูมันนี่
พัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะใหม่ เพิ่มความอุ่นใจยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีที่ยิ่งพัฒนาได้ก้าวกระโดดขึ้นทุกวัน มิจฉาชีพก็พัฒนากลลวงและวิธีใหม่ๆเพื่อแทรกแซงระบบทุกทาง ‘ความปลอดภัย’ ในการทำธุรกรรมการเงินจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผู้คนต่างกังวล
TrueMoney จึงทำการยกระดับเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ TrueMoney Secure ที่มีฟีเจอร์ยืนยันตัวตนและเข้ารหัสหลากหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือ การสแกนใบหน้าเพื่ออนุมัติรายการตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไปหรือเมื่อระบบพบการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ นอกจากนี้ยังมี ระบบตรวจจับและแจ้งเตือนพฤติกรรมต้องสงสัยแบบเรียลไทม์ รวมถึงสายด่วนแจ้งภัยการเงินตลอด 24 ชั่วโมง
แล้วทำไมต้องเป็น ลิซ่า ที่มาบอกว่า “เป็นไปได้ ได้ทุกคน” ?
นั่นเพราะ TrueMoney มองว่า ลิซ่าเป็นตัวแทนของ ความเป็นไปได้ และตัวแทนของคนรุ่นใหม่ จากเด็กที่มาจากจังหวัดเล็กๆ แต่ก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาความสามารถเพื่อไขว่คว้าฝันจนได้เดบิวต์เป็นศิลปิน K-POP สู่การเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่โด่งดังในระดับโลก และไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหน ท่วงท่าใด เธอยังคงเต็มที่ และสร้างความสั่นสะเทือนไปทั้งวงการ

(คุณอนัณทินี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด)
ดังนั้น ความเป็นซูเปอร์สตาร์นี่เองที่มาจุดพลุให้กับการสื่อสาร พลิกโฉมการรับรู้ด้านบริการของ TrueMoney ว่าเป็นซูเปอร์แอปทางการเงินได้ไม่ยาก
ลูกค้าเดิมก็มั่นใจที่จะใช้บริการของ TrueMoney ต่อไป และยังชวนให้กลุ่มลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชมลิซ่า และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นพลังในการพัฒนาและผลักดันประเทศในอนาคตมาสัมผัสความเป็นไปได้นี้ไปพร้อมๆ กัน
ด้วยความพยายามทั้งหมดนี้ การสร้างการรับรู้ว่า TrueMoney คือซูเปอร์แอปการเงินที่ให้บริการครบทั้งใช้จ่าย ออม ลงทุน และมอบโอกาสสู่ความเป็นไปได้แก่คนไทยทุกคน ดูเหมือนจะไม่ยากเกินความสามารถ เพราะคอยสำรวจความต้องการของลูกค้า และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ขึ้นมาโดยตลอด
สุดท้ายนี้ เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 10 ปี ในปีนี้ ทรูมันนี่ ยังเตรียมจัดเต็มแคมเปญสมนาคุณสุดพิเศษครั้งใหญ่ รวมไปถึงสิทธิพิเศษอีกมากมายสำหรับผู้ใช้ทรูมันนี่ตลอดทั้งปี พร้อมกิจกรรมสุดเซอร์ไพรส์ให้เหล่าแฟนด้อมของลิซ่าได้ร่วมสนุกเร็วๆ นี้
สามารถรับชมภาพยนตร์โฆษณา ‘ทรูมันนี่ เป็นไปได้ ได้ทุกคน’ ได้ทั่วประเทศทางสื่อต่างๆ ที่พร้อมสร้างความประทับใจได้แล้ววันนี้ ที่ https://www.truemoney.com/lisa-campaign/ พร้อมร่วมแชร์และใส่ #LISAwithTrueMoney #เป็นไปได้ได้ทุกคน #ทรูมันนี่ และติดตามกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ Facebook Fanpage TrueMoney