เมื่อเราเหนื่อยล้าจงเดินเข้าป่า แต่ที่อังกฤษเมื่อคุณป่วย หมอจะให้คุณไปอยู่กับธรรมชาติ

2 Min
564 Views
16 Jan 2023

เมื่อเราเหนื่อยล้าจงเดินเข้าป่า…” ข้อความที่มีเสียงนี้ หากไม่คิดจริงจังอะไรกับมันมาก ก็คงให้ความรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังเตรียมตัวไปพักผ่อน ท่องเที่ยวเยี่ยมชมธรรมชาติตามอุทยานต่างๆ ในช่วงวันหยุด

แต่ในความหมายที่มากกว่านั้น ประโยคเดียวกันนี้ กำลังกลายเป็นหนึ่งในข้อความที่ถูกกำกับในใบสั่งยาอย่างจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ

ดังในปีนี้ แพทย์ของเมืองดาร์บีเชอร์ อังกฤษ ได้รับอนุญาตให้นำเอาหลักธรรมชาติบำบัดมาใช้ดูแลรักษาผู้ป่วยขึ้นอีกแห่ง ซึ่งผู้ป่วย (บางโรค) จะได้รับคำแนะนำให้ไปอยู่กับธรรมชาติในพื้นที่อุทยานแห่งชาติของเมือง ไปเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เดินป่าขึ้นเขา หรือทำกิจกรรมเบสิกง่ายๆ อย่างนั่งนิ่งๆ แล้วปล่อยผัสสะรับฟังธรรมชาติบรรเลงมหรสพ

ใบจ่ายยาทางธรรมชาตินี้ เป็นโครงการที่ถูกริเริ่มและผลักดันขึ้นโดย Royal Society for the Protection of Birds (RSPB) องค์กรการกุศลด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติของสหราชอาณาจักร ซึ่งนอกจากคอยเฝ้าปกป้องสิ่งแวดล้อมแล้ว ก็ยังผลักดันรณรงค์ให้ผู้คนได้รู้จักและสัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้นด้วย

โดยก่อนหน้านี้ RSPB ได้ผลักดันการรักษาแบบเดียวกันที่หมู่เกาะเชตแลนด์ สกอตแลนด์ และได้ผลสำเร็จเป็นอย่างดี มีผู้ป่วย 74 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าเขาได้รับประโยชน์จากการอยู่กับธรรมชาติยามเจ็บป่วย และ 87 เปอร์เซ็นต์ ยังคงใช้ธรรมชาติรักษาสุขภาพอย่างต่อเนื่องจนถึงเดี๋ยวนี้ และนั่นก็ทำให้เขาเหล่านั้นมีคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีเรื่อยมา

สำหรับใบจ่ายยาทางธรรมชาติ ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ มากมาย ตั้งแต่เรื่องที่เริ่มทำได้ง่ายๆ อย่างการออกไปปิกนิกกินอาหารกลางวันนอกบ้าน การนั่งมองท้องฟ้าก้อนเมฆ สังเกตไลเคนบนต้นไม้ริมทาง ฟังเสียงนกร้อง หรือแม้แต่การเดินเท้าเปล่าในสนามหญ้า ไปจนถึงการเดินป่าในเส้นทางป่าจริงๆ

หรือตัวอย่างที่เกาะเชตแลนด์ ก็มีคำแนะนำว่าให้ผู้ป่วยไปนั่งคุยกับลูกม้า สัตว์ประจำถิ่นของเกาะ ลิสต์ได้ทั้งหมด 32 รายการให้ไปทำ ตามอาการป่วยที่แบ่งระหว่างทางกายและใจ

สำหรับกรณีของเมืองดาร์บีเชอร์ หน่วยงานอนุรักษ์และทางการแพทย์ลงความเห็นร่วมกันว่า ควรให้ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติของเมือง เพราะเป็นพื้นที่ธรรมชาติขนาดใหญ่ มีภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งเนินเขาสูง ทุ่งหญ้าที่ราบ เพื่อให้เราได้สัมผัสธรรมชาติหลายๆ แบบ

ปัจจุบัน มีข้อมูลวิชาการและการแพทย์ที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างการสัมผัสกับธรรมชาติและประโยชน์ต่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มีรายงานที่อ้างถึงอัตราการเกิดโรคจากอาการอักเสบที่ลดลง โรคเบาหวานประเภท 2 และโรคอ้วน รวมถึงการลดความวิตกกังวล ความเหนื่อยล้า และภาวะซึมเศร้า ช่วยให้การทำงานของภูมิคุ้มกันดีขึ้น

นอกจากนี้ ธรรมชาติยังส่งผลดีต่อระดับความพึงพอใจในชีวิต ความมีชีวิตชีวา และความสุขอีกด้วย หรือในอีกด้านหนึ่ง มันไม่จำเป็นหรอกที่จะรอให้เจ็บป่วยหรือคอยให้หมอออกใบสั่งมาเสียก่อน แล้วค่อยพาร่างไปหาธรรมชาติแต่มันเป็นเรื่องที่พึงกระทำอย่างสม่ำเสมอ

อ้างอิง