ลู่วิ่งสายพาน ประวัติอันไม่นำพาความรื่นรมย์

2 Min
1737 Views
12 Oct 2020

อะไรเอ่ยที่เหมือนจะผ่านไปนานแสนนานแต่จริง ๆ แล้วยังไปไม่ถึงไหนสักที อย่าได้ตอบว่าชีวิตเชียวล่ะเพราะมันเศร้าเกินไป อันที่จริงแล้วเรากำลังพูดถึงลู่วิ่งกันอยู่ต่างหากล่ะ แรก ๆ ใครที่เคยวิ่งอยู่บนลู่วิ่งสายพานการันตีได้เลยว่าก็รู้แบบนี้ทั้งนั้น ไอ้ความทรมานแบบไม่มีที่สิ้นสุดนี่คืออะไรนะ นี่เรากำลังทรมานอยู่ตัวเองอยู่หรืออย่างไรนะ

ถ้ามีใครคิดแบบนี้ขึ้นมาละก็ อยากจะบอกเหลือเกินว่ามาถูกทางแล้วล่ะ เพราะประวัติความเป็นมาของลู่วิ่งสายพานนั้นช่างไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเหลือเกิน

ลู่วิ่งสายพานในปัจจุบัน | kaidee.com

ย้อนกลับไปเมื่อศตวรรษที่ 19 ระบบคุกของอังกฤษเลวร้ายมาก และมักลงโทษด้วยการประหารชีวิตและเนรเทศ ส่วนนักโทษมักถูกขังเดี่ยวเป็นเวลานานในห้องสกปรก จึงมีการเคลื่อนไหวทางสังคม นำโดยกลุ่มศาสนาและองค์กรการกุศล พร้อมคนดังต่าง ๆ เช่น ชาร์ลส์ ดิกเคนส์ เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพคุกอันน่าหดหู่และช่วยนักโทษกลับเนื้อกลับตัว

Charles Dickens | wikipedia.org

การเคลื่อนไหวครั้งนั้นประสบความสำเร็จ ระบบคุกจึงถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด ทั้งยังใช้วิธีการเยียวยารูปแบบใหม่เพื่อให้นักโทษสามารถกลับตัวกลับใจได้อย่างแท้จริง และลู่วิ่งสายพานก็ได้เข้ามามีบทบาทในช่วงระยะเวลานี้นี่เอง

ลู่วิ่งสายพานรุ่นแรก ปี 1818 | hfe.com

ลู่วิ่งสายพานรุ่นแรกถูกประดิษฐ์เมื่อปีค.ศ. 1818 โดยวิศวกรชาวอังกฤษนาม William Cubitt โดยกลไกของลู่วิ่งรุ่นแรกยังไม่ได้มีการใช้ไฟฟ้า แต่เป็นการใช้นักโทษก้าวขึ้นไปบนกงล้อขนาดใหญ่ที่คล้าย ๆ กับบันไดแบบวงกลม มีจำนวน 24 ขั้น โดยนักโทษต้องก้าวขึ้นไปเรื่อย ๆ ไม่เช่นนั้นก็จะตกลงมา ถ้าจะพูดว่าคล้ายกับอะไรในปัจจุบัน น่าจะคล้ายกับเครื่องออกกำลังกายแบบย่ำเท้าสลับกันไปมาเสียมากกว่า ซึ่งการที่นักโทษเดินบนกงล้ออันนี้จะทำให้เกิดพลังงานต่าง ๆ ได้ และถูกนำไปใช้ประโยชน์ เช่น การสูบน้ำออก, บดเมล็ดพืช และเป็นพลังงานให้กับโรงโม่ เป็นต้น

William Cubitt | wikipedia.org

ด้วยประโยชน์แบบนี้ จึงมีหลายคนมองว่าอุปกรณ์นี้ช่างเป็นวิธีที่ดีจริง ๆ ทั้งได้พัฒนานักโทษและได้ประโยชน์แก่ผู้อื่น เพราะในขณะนั้นอังกฤษกำลังฟื้นฟูความเสียหายจากสงครามนโปเลียนอยู่ด้วย การได้แรงนักโทษแบบนี้จึงเป็นเหมือนอีกแรงที่ได้ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ

แต่คงไม่ใช่ผลดีสำหรับนักโทษเท่าไรนัก มีการคำนวณกันว่า ถ้าแต่ละวันนักโทษใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงบนกงล้อนี้ จะเทียบเท่ากับการปีนเขาที่มีความสูง 5,000 – 14,000 ฟุต ซึ่งเทียบได้กับการขึ้นเขาเอเวอร์เรสต์แบบครึ่งทาง และแน่นอนว่า ด้วยสารอาหารของนักโทษที่ได้รับแต่ละวัน รวมกันกับการเดินในระยะทางที่ว่ามาติดต่อกัน 5 วันต่ออาทิตย์ มันคงเป็นเหมือนฝันร้ายของเหล่านักโทษเลยทีเดียว

นักโทษบนกงล้อ | supari.in

แต่ความคิดนี้ของเซอร์วิลเลียมกลับถูกแพร่ขยายไปอย่างรวดเร็วทั่วจักรวรรดิอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ภายในเวลาไม่เกิน 20 ปี ก็มีคุกในอังกฤษมากกว่า 50 แห่งที่ใช้ลู่วิ่งมรณะนี้ และในทางเดียวกันนั้น เหล่านักโทษก็มีปัญหาทางกายและทางจิตมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามการใช้งานของเครื่องนี้ ซึ่งกงล้อนี้ถูกใช้จนปลายศตวรรษที่ 19 สาเหตุที่ยกเลิก เป็นเพราะ เครื่องนี้มันโหดร้ายเกินไป

แล้วลู่วิ่งสายพานถูกกลับมาใช้ได้อีกอย่างไรล่ะ? ในปี 1952 ลู่วิ่งสายพานได้กลับมามีบทบาทอีกครั้ง เพราะเรื่องการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่จะช่วยให้สุขภาพของเราดีขึ้น โดยเครื่องยุคแรกที่ออกมาชื่อ PaceMaster 600 และหลังจากนั้นลู่วิ่งนี้ก็ถูกแพร่กระจายออกไปเรื่อย ๆ และยิ่งบูมมากขึ้นเมื่อกระแสการวิ่งได้ถูกปลุกขึ้นในช่วงปี 1970

PaceMaster 600 | pinterest.com

จากวันที่นักโทษโอดครวญกับการวิ่งขึ้นบนกงล้อ จนมาถึงวันที่เราสมัครใจจ่ายเงินเพื่อจะได้วิ่งบนลู่ ให้เราพึงระลึกไว้ว่าความทรมานที่เราเจออย่างน้อยก็ความทรมานที่เราได้เลือกเอง

อ้างอิง