4 Min

อวสานสามหมี โลกแห่งความจริงตอนนี้ ไม่ดีเหมือนในการ์ตูน

4 Min
3507 Views
21 Jul 2021

เมื่อพูดถึงคาแรกเตอร์การ์ตูนที่กำลังฮิตติดตลาดตอนนี้ คงเป็นไปไม่ได้หากจะไม่นับรวมเอาตัวละคร “สามหมี” จาก “We Bare Bears” หรือ “สามหมีจอมป่วน” เอาไว้ด้วย

หรือต่อให้ไม่เคยดูอนิเมชั่นมาก่อน ก็คงเคยเห็นสินค้าที่นำคาแรกเตอร์ทั้งสามมาผลิตเป็นของเล่น ตุ๊กตา ของพรีเมียม อวดโฉมความน่ารัก น่ากอด กันบ้างล่ะ

ว่ากล่าวกันถึงเนื้อเรื่องสั้น ๆ “สามหมีจอมป่วน” เป็นอนิเมชั่นออกฉายทางช่อง Cartoon Network ดำเนินเรื่องราวผ่านกิจวัตรประจำวันของเจ้าหมีสามสายพันธุ์ กริซลี, แพนด้า และไอซ์แบร์ ที่ดันจับพลัดจับผลูมาเป็นพี่น้องร่วมชายคา (ถ้ำ) เดียวกัน และพยายามทำตัวให้เป็นที่ยอมรับในสังคมมนุษย์ แต่ด้วยความเป็นหมีเลยไม่มีใครใส่ใจสักเท่าไหร่ จนสามหมีต้องก่อวีรกรรมเรียกร้องความสนใจแบบแปลก ๆ สร้างเหตุวายป่วงกันก่อนจบอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง

ดูกันเผิน ๆ ก็ให้อารมณ์ขำขันเบาสบายสมอง แต่ผู้แต่งได้แฝงแง่คิดประเด็นเรื่องชนกลุ่มน้อยในสังคม การไม่ยอมรับความเเตกต่างทางวัฒนธรรม รูปลักษณ์ เอาไว้พอสมควร

แต่ในที่นี้เราอยากเปลี่ยนแนวมาพูดถึงมิติทางสิ่งแวดล้อมกันสักหน่อย

ในยุคที่การสูญพันธุ์และความล่มสลายทางระบบนิเวศเป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อยไปกว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ชะตากรรมของหมีทั้งสามในโลกความเป็นจริงต่างก็ต้องการความใส่ใจจากมนุษย์เราไม่น้อยไปกว่าตัวการ์ตูนที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา

เริ่มต้นที่ “กริซลี” พี่ใหญ่ของเรื่อง ถอดแบบมาจาก “หมีกริซลี” ตามชื่อนั่นล่ะ

ในช่วงศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 หมีกริซลีเคยเกือบสูญพันธุ์เพราะการล่า ด้วยเหตุว่าคนกลัวถูกหมีทำร้ายเลยชิงฆ่าเสียก่อน ภายหลังพอมีกฎหมายอนุรักษ์และสงวนสัตว์ป่า การล่าก็ลดลง แต่ก็ยังเปิดให้มีการล่าอย่างถูกกฎหมายอยู่ดี

จริง ๆ แล้วในภาพรวมหมีกริซลียังมีจำนวนในธรรมชาติอยู่มาก ในบางรัฐของสหรัฐมีกันเป็นหมื่นตัว แต่ในบางรัฐก็มีน้อยจนน่าใจหาย ตรงนี้เพราะแต่ละรัฐใช้กฎหมายอนุรักษ์แตกต่างกัน ความเข้มงวดต่อกิจกรรมที่อนุญาตจึงต่างกันไปด้วย ดังนั้น ที่ไหนยุติการล่าได้เร็ว หมีก็รอดและฟื้นฟูจำนวนได้ไว หากที่ไหนเมินเฉยชะตากรรมก็ไม่แคล้วต้องสาบสูญไปในที่สุด

ซึ่งเมื่อตอน โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามาเป็นประธานาธิบดี พี่แกไม่ค่อยสนใจไยดีพวกหมีนัก (สงสัยไม่เคยดูการ์ตูน) เลยสั่งยกเลิกสถานะของหมีกริซลีออกจากการเป็นสัตว์สงวน แต่ก็ถูกคัดค้านอย่างหนัก หลายรัฐพยายามคงสถานการณ์สงวนไว้ หรือบางรัฐก็ไปดักทางขอคำสั่งศาลให้ยุติการล่าออกไปก่อน เช่น เมื่อปีที่ผ่านมาเพิ่งมีคำสั่งห้ามล่าหมีกริซลีในอุทยานแห่งชาติเยลโลสโตนขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี

ถึงแม้จะรอดพ้นจากการล่า แต่ปัญหาของหมีกริซลีก็ไม่จบแค่นั้น เมื่อไม่นานมานี้ ในแคนาดาพบว่าหมีกริซลีต้องประสบภาวะอดยาก อันเป็นผลจากประมงเชิงพาณิชย์แย่งปลาแซลมอนไปอย่างไม่เกรงใจหมี กอปรกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้จำนวนแซลมอนอาหารหลักของหมีกริซลีในธรรมชาติลดลงจนเริ่มไม่พอสะสมอาหารก่อนฤดูจำศีล

ทางด้าน “แพนด้า” หรือ “แพนแพน “เมื่อเร็ว ๆ นี้มีข่าวดีว่า “แพนด้ายักษ์” รอดพ้น “สถานะใกล้สูญพันธุ์” และถูกปรับมาเป็น “เกือบใกล้สูญพันธุ์” แทน

ปัญหาของพวกพ้อง “แพนแพน” มาจากถิ่นที่อยู่อาศัยในประเทศจีนลดน้อยลง และพื้นที่ป่าก็กระจัดกระจายกันเป็นหย่อม ๆ ตัดขาดไม่เชื่อมต่อกัน แพนด้าจึงผสมพันธุ์กันเองจนเกิดสายพันธุ์ด้อยแสนขี้โรคในรุ่นลูกหลาน บวกกับแพนด้าเป็นสัตว์ที่ให้กำเนิดลูกน้อย ในหนึ่งปีตัวเมียจะมีอารมณ์อยากมีผัวแค่ 1-2 วัน จำนวนการเกิดมันเลยน้อยไม่ทันการ

ตอนนี้ทางการจีนพยายามทุกวิธีในการฟื้นฟูจำนวนแพนด้าขึ้นใหม่ ไม่ว่าจะการส่งแพนด้าเป็นทูตสันถวไมตรีแลกรายได้นำมาพัฒนาโครงการอนุรักษ์ หรือชวนให้ประเทศต่าง ๆ ช่วยผสมพันธุ์ จนจำนวนแพนด้าเพิ่มขึ้นรอดพ้นสถานะเดิม แต่สิ่งที่ยังน่าเป็นห่วงคือเรื่องถิ่นที่อยู่อาศัยของแพนด้านี่ล่ะ

ถึงตอนนี้จะมีแพนด้าน้อยเกิดใหม่จำนวนมาก แต่มันคงไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงถ้าสัตว์ป่าต้องมีชีวิตอยู่แต่ในสถานอนุบาลสัตว์ตั้งแต่เกิดจนตาย ดังนั้น การฟื้นฟูถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่ปัญหาเรื่องโลกร้อนทำให้พื้นที่และการเจริญเติบโตของป่าไผ่อาจไม่เป็นตามเป้าและไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมของสัตว์ที่รักการกินเป็นชีวิตจิตใจ

ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์กันว่า หากฟื้นฟูที่อยู่อาศัยไม่สำเร็จ อีกไม่นานแพนด้าคงมีสถานะเสี่ยงสูญพันธุ์เหมือนเช่นอดีต

สุดท้าย, น้องเล็กของจักรวาล We Bare Bears “ไอซ์แบร์” หรือ “หมีแข็ง” หรือ “หมีขาว” ที่ในโลกความเป็นจริงมีชะตากรรมชวนเศร้าไม่น้อยกว่าพี่หมีทั้งสอง – ปัจจุบันไอซ์แบร์มีสถานะเช่นเดียวกับแพนด้า คือ “เกือบใกล้สูญพันธุ์” อันเป็นเหตุมาจากการลดลงของที่อยู่อาศัย เพราะโลกร้อน ที่อ้างอิงได้จากข่าวการละลายของแผ่นน้ำแข็งในดินแดนขั้วโลก

เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวหมีขาวบุกเมืองในรัสเซียและไซบีเรีย จากหมีป่าต้องกลายเป็นหมี Homeless ออกคุ้ยหาอาหารตามแหล่งทิ้งขยะของชุมชน เพราะถิ่นที่อยู่ไม่สามารถหาอาหารได้ หรือในอีกสาเหตุเพราะการละลายของน้ำแข็งทำให้หมีที่ออกหาอาหารกลับบ้านไม่ได้ จึงต้องร่อนเร่ไปตามสัญชาตญาณจนมาจ๊ะเอ๋กับคน

จำนวนหมีที่บุกเมืองหากเทียบสัดส่วนจากเพื่อนหมีแข็งที่เหลืออยู่อาจดูไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ใช่ว่าอีกหลายตัวที่ไม่ได้เก็บกระเป๋าเข้าเมืองจะมีอาหารการกินเพียบพร้อม จากการชันสูตรซากหมีที่ตายในปัจจุบันจะพบซากพืชในกระเพาะอาหารมากขึ้น ขัดกับพฤติกรรมการกินของหมีขาวโดยทั่วไปที่ล่าแมวน้ำและปลา พอต้องมาหาพืชผักประทังชีวิต สารอาหารที่ร่างกายต้องการจึงไม่พอเพียง และแน่นอน… จุดจบคือการสิ้นชีพก่อนอายุขัยที่ควรเป็น

ตามที่กล่าวมา หากว่ากันในภาพรวม ชะตากรรมของหมีทั้ง 3 ชนิด คงไม่อาจแย่ไปเสียทั้งหมด อย่างน้อยจำนวนประชากรที่ยังเหลืออยู่ก็ไม่ได้จวนเจียนจะสูญพันธุ์ในเร็ว ๆ นี้

ยังไม่ถึงขั้นมืดมนจนมองเห็นแสงแดดเป็นสีดำ ออกจะเป็นเทา ๆ เสียมากกว่า

ถึงกระนั้นหากปล่อยปละกันไม่สนใจใยดี ดูยังไง ๆ อนาคตก็คงไม่สวยแน่ ๆ

เพราะเราต่างอยู่บนโลกใบเดียวกัน ทุกอย่างที่มนุษย์คิดและทำย่อมส่งผลต่อถึงพวกหมี ๆ เช่นกัน หากเราเป็นตัวการทำให้โลกมันร้อน สัตว์ป่าอย่างพวกหมีก็ร้อนเหมือนกับเรา

คงจะดีไม่น้อยหาเราแบ่งปันความเอ็นดูหมีในการ์ตูนมาสู่หมีในโลกความเป็นจริงบ้าง

ก่อนสุดท้ายจะเหลือเพียงภาพวาดในจินตนาการที่หาความจริงไม่เจอ