รู้ไหม “สิทธิ์ในการมีปืน” ของคนอเมริกัน จริงๆ แล้วคือ “สิทธิ์ในการโค่นล้มรัฐบาลทรราช”
Select Paragraph To Read
- การควบคุมอาวุธปืนที่เหมือนไม่ควบคุม
- คนดีที่มีปืนกับคนชั่วที่มีปืน
“แถวนี้แม่งเถื่อน ไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้”
แน่นอน นี่เป็นประโยคในหนังที่เราเคยพูดเอาตลกๆ แต่ทุกวันนี้ไปๆ มาๆ ชีวิตจริงเราดูจะเหมือนหนังขึ้นเรื่อยๆ เพราะสำหรับคนไทยจำนวนมากรู้สึกได้ชัดเจนแล้วว่า อำนาจรัฐนั้นถูกใช้โดยมิชอบ
ไม่ว่าจะเป็นการใช้อาวุธเพื่อสลายการชุมนุมแบบร้ายแรงเกินกว่าเหตุ ไปจนถึงเหตุที่ตำรวจ “ฆ่าผู้ต้องหา” คาโรงพักได้ โดยไม่น่าจะต้องรับผิดร้ายแรงอะไร ซึ่งเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความนิ่งเฉยของทั้งศาลและองค์กรอิสระสารพัดในไทยที่คนไทยลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามีอยู่
พูดอีกแบบ ถ้าเราไม่สามารถจะสู้อะไรกับ “รัฐบาลทรราช” ได้เลย กลไกที่ควรจะทำให้รัฐทำงานอย่างที่ควรจะเป็นมันไม่ทำงานทั้งหมด จะยังไงต่อ?
คำถามในเชิงการปฏิบัติจริงๆ อาจยาก แต่ประเด็นในเชิงทฤษฎีก็คือ บ้านเราอยู่ในภาวะที่เป็นสาเหตุให้คนอเมริกามีสิทธิ์ในการพกพาปืนกันเสรี
และวันนี้เราจะมาว่ากันเรื่องสิทธิที่ว่านี้
บทแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 2 หรือ The Second Amendment
อเมริกาคือสังคมคลั่งปืน ไปถามใครในโลกก็คงจะรู้สึกแบบนี้ และนี่คือสังคมที่ในภาวะปกติมีเหตุกราดยิงแทบทุกวัน แต่ก็ยังไม่มีการ “แบนอาวุธปืน”
นี่เป็นสิ่งที่สังคมอื่นๆ เข้าใจได้ยากมากว่าตรรกะมันคืออะไร?
แต่จริงๆ แล้ว “สิทธิในการมีปืน” มันเป็นข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญตั้งแต่อเมริกาก่อตั้งประเทศเลย
คือย้อนไปตอนตั้งประเทศ อเมริกาทำการ “ปฏิวัติ” และประกาศเอกราชจาก “รัฐบาลทรราช” ของอังกฤษ เหตุนี้ทำให้คนอเมริกันมีความภาคภูมิในการเป็น “เสรีชนนักปฏิวัติ” ของตัวเองมากพอๆ กับมีความระแวงว่าสักวันหนึ่งอาจมีรัฐบาลทรราชเกิดขึ้นอีก และประชาชนก็ต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลาเพื่อต่อสู้
และนี่เลยเป็นที่มาว่าทำไม อเมริกาถึงใส่ข้อกำหนดว่า “กองกำลังติดอาวุธที่มีการจัดตั้งเป็นอย่างดี คือสิ่งจำเป็นต่อเสรีภาพของรัฐ สิทธิในการครอบครองและมีอาวุธในมือของพลเมืองจะต้องไม่ถูกละเมิด” ลงไปในรัฐธรรมนูญ
โดยประโยคสั้นๆ งงๆ นี้เรียกว่าบทแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นหนึ่งบทแก้ไขรัฐธรรมนูญ 10 ข้อแรก ที่เป็นบทบัญญัติที่ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพตรงๆ ซึ่งข้อกำหนดพวกนี้ถือว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ เพราะประเทศนี้ซึ่งไม่เคยมีการ “ฉีกรัฐธรรมนูญ” เลยแม้แต่ครั้งเดียวนับแต่ตั้งประเทศมา 200 กว่าปี
ซึ่งข้อกำหนดนี้เอาจริงๆ ในประวัติศาสตร์อเมริกาเองก็มีหลักฐานหลายครั้งว่ามันสามารถป้องกัน “ทรราช” ได้จริงในหลายระดับ โดยไม่จำกัดเชื้อชาติด้วย เพราะอย่างน้อยๆ กลุ่มคนดำติดอาวุธก็เคยเป็น “ไม้กันหมา” ไม่ให้พวกคนขาวเหยียดผิวทำร้ายและกดขี่คนดำมาแล้ว
หรือพูดง่ายๆ คนอเมริกันเชื่อว่าถ้าคุณมีปืนในมือ คนจะไม่กล้าละเมิดสิทธิคุณ มันอาจฟังดูเถื่อน ฟังดูเป็นคาวบอย แต่นี่คือค่านิยมแบบอเมริกัน และคนอเมริกันแท้ๆ ก็เชื่อว่าคุณต้องมีปืนไว้สู้กับโจรยันรัฐบาลทรราช ซึ่งในแง่หนึ่งแล้วคนอเมริกันก็เชื่อว่าประเทศเขาไม่เคยถูกปกครองด้วยทรราชเลย เพราะประชาชนมีสิทธิที่จะถือปืน
การควบคุมอาวุธปืนที่เหมือนไม่ควบคุม
ในแง่นี้เราจะเห็นได้ว่าสิทธิ์ในการครอบครองปืนนั้นเป็นสิทธิ์พื้นฐานมาตั้งแต่ตั้งประเทศอเมริกา ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ต่างจากยุโรปมากๆ
เพราะในยุโรป ไม่ต้องพูดถึงปืน เนื่องจากในศตวรรษที่ 19 ยุคก่อนมี “ประชาธิปไตย” และกฎหมายปฏิบัติกับคนแต่ละชนชั้นไม่เท่ากัน ถ้าคุณเป็น “สามัญชน” คุณไม่มีสิทธิ์พกอาวุธใดๆ ทั้งนั้น แต่ถ้าคุณเป็น “อภิชน” คุณมีสิทธิพิเศษในการพกดาบ และคนจำนวนมากก็จะพก และนี่เป็นขนบกฎหมายที่เก่าแก่มาตั้งแต่ยุคกลางแล้ว เพราะตั้งแต่ยุคโน้นแล้ว ถ้าคุณเป็นชาวนาแล้วมีดาบ คุณจะถูกจับแน่ๆ แต่ถ้าคุณเป็นอัศวินจากชนชั้นขุนนาง ทุกคนคาดหวังให้คนพกดาบตลอดเวลา
ในแง่นี้ส่งผลให้สังคมอเมริกันมีวิธีคิดต่างจากยุโรป อเมริกันจะมองว่าการมีอาวุธในครอบครองเป็นสิทธิ์พื้นฐานของประชาชนมาตั้งแต่การตั้งประเทศ แต่ยุโรปมองการพกพาอาวุธว่าเป็น “อภิสิทธิ์” ของพวกอภิชนมายาวนาน และอภิสิทธิ์แบบนี้ก็ล่มสลายไปพร้อมกับการเกิดประชาธิปไตยที่มองว่าทุกคนเท่ากันหมด
หรือพูดอีกแบบ “ประชาธิปไตยแบบอเมริกา” คือ “ประชาธิปไตยติดอาวุธ” ทำให้คนอเมริกันคิดว่า “ปืน” นี่แหละคือเครื่องมือในการ “ตรวจสอบการทำงานของรัฐ” มาจนถึงทุกวันนี้ ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่จะเชื่อในกระบวนการตรวจสอบรัฐที่ “เถื่อน” น้อยกว่านั้น เช่นการตั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือองค์กรปราบคอร์รัปชันอะไรก็ว่าไป ไม่มีใครเชื่อว่าทุกคนควรจะมีปืนเพื่อจะได้โค่นล้มรัฐบาลที่กลายมาเป็นทรราช
ความเชื่อที่ฝังลึกนี้ทำให้เป็นเรื่องยากมากที่จะห้ามคนมือปืนในอเมริกา และในทางปฏิบัติ การ “ควบคุม” การมีอาวุธปืนเพิ่งเกิดในปี 1934 ในช่วงที่เศรษฐกิจอเมริกาตกต่ำ อาชญากรรมเกิดขึ้นทั่วเมือง เลยมีการออกกฎหมายชื่อว่า National Firearm Act เพื่อ “ควบคุมอาวุธปืน” เป็นครั้งแรก
ซึ่งนั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นการ “แบน” แต่มันกำหนดแค่ว่าอาวุธปืนที่มีลักษณะ “ร้ายแรง” นั้น คนจะครอบครองต้องมีใบอนุญาต ซึ่งยุคแรกๆ อาวุธร้ายแรงที่ว่านี้จะหมายถึงพวกปืนลูกซอง ปืนกลอะไรพวกนี้ ก่อนที่จะขยายมาเป็นปืนไรเฟิลแบบออโตเมติคในเวลาต่อมา
สิ่งที่ต้องสังเกตคือ รัฐบาลกลางอเมริกานั้นไม่สามารถจะ “แบน” การมีอาวุธปืนในครอบครองได้เลย เต็มที่คือบังคับให้มีระบบ “ใบอนุญาต” เท่านั้น และระบบ “ใบอนุญาต” ของรัฐบาลกลางนี้ก็ไม่ครอบคลุมถึงพวกปืนสั้น มันเลยให้เป็นเรื่องของแต่ละรัฐไปว่าจะเอายังไง
แม้แต่รัฐที่กฎหมายเข้มงวดอย่างแคลิฟอร์เนีย การขอใบอนุญาตพกปืนสั้นก็ไม่ได้ยาก ซึ่งถ้าให้เทียบก็ไม่ได้ต่างจากการไป “สอบใบขับขี่” เลย คือถ้าเตรียมตัวไปหน่อย จ่ายเงินค่าตรวจสอบว่าคุณไม่ใช่คนอันตราย แล้วสอบการใช้ปืนและจริยธรรมพื้นฐานผ่าน คุณก็ได้ใบอนุญาต ดังนั้นคนอเมริกันจึงมีปืนกันมากมาย แม้แต่รัฐที่ไม่ได้ “คลั่งปืน” แบบแคลิฟอร์เนีย
แต่ก็นั่นแหละ นี่คือ “มาก” แล้วในมาตรฐานอเมริกา เพราะในรัฐจำนวนครึ่งหนึ่งของอเมริกา คุณสามารถเดินไปซื้อปื้นได้เลยที่ซูเปอร์มาร์เก็ต แล้วก็พกได้เลย ไม่ต้องมีการตรวจสอบใดๆ และจริงๆ รัฐที่ไม่มีกฎหมายว่าจะพกปืนต้องมีใบอนุญาตมีถึง 20 รัฐจาก 50 รัฐของอเมริกาด้วยซ้ำ
คนดีที่มีปืนกับคนชั่วที่มีปืน
ความแพร่หลายของปืนในอเมริกามาจากเงื่อนไขที่ว่ามาเหล่านี้ ซึ่งก็อย่างที่บอก มันแพร่หลายได้เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดชัดเจนว่าคนอเมริกันมี “สิทธิ์ที่จะมีอาวุธ” เพื่อที่จะป้องกันรัฐบาลทรราชรวมไปถึงการปกป้องสิทธิพื้นฐานตัวเอง
แต่ถามว่ามัน “จริง” เหรอในมาตรฐานปัจจุบัน?
คำตอบคือก็ขึ้นอยู่กับว่าเราถามใคร เพราะบทแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 2 นั้นน่าจะเป็นบทในรัฐธรรมนูญที่สร้างข้อถกเถียงในสังคมอเมริกันที่สุด คือมันถูกนำมาตีความใหม่ ถกเถียงกันตลอด
เรียกได้ว่าตีความกระทั่งเครื่องหมายวรรคตอน และผู้พิพากษาศาลสูงสุดของอเมริกาก็ไม่ได้มีความหมายตรงกัน
ในขณะที่คนอเมริกันในรัฐใหญ่ๆ กฎหมายควบคุมอาวุธปืนเข้มข้นอย่างนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา นั้นจะมองว่าการที่เกิด “เหตุกราดยิง” ทั้งหลาย เกิดจากกฎหมายควบคุมอาวุธปืนไม่เข้มงวด และทำให้พวกคนสติไม่ดีและอาชญากรเข้าถึงปืนได้ง่าย แต่รัฐอื่นๆ ไม่ได้คิดกันแบบนั้น เพราะเขาเชื่อว่าถ้าสังคมมีมือปืนป้วนเปี้ยนอยู่ คนอื่นๆ ก็ต้องมีปืนด้วย เพราะนั่นคือวิธีเดียวที่จะหยุดมือปืนที่ไม่รู้จะโผล่มาที่ไหนเมื่อไรได้ โดยทฤษฎีนี้เรียกว่า “คนดีที่มีปืน” (good guy with a gun) และมันก็เป็นจริงๆ ในรัฐอย่างเท็กซัส ที่พวกมือปืนมักจะโดนรุมยิงตายคาที่ เพราะทุกคนมีปืน และพกปืนเสมอแม้แต่ตอนเข้าโบสถ์
และนี่ก็เป็นประเด็นที่ร้อนแรงมาก เพราะสิ่งที่เวิร์กในเท็กซัสไม่เวิร์กในรัฐอื่นนัก เพราะรัฐที่รักสันติหน่อย เขาก็จะบอกว่าการคุมอาวุธปืนเป็นสิ่งที่ดีกว่าการปล่อยให้ทุกคนมีปืน แต่ประเด็นคือถ้าจะคุยกันแบบนี้ มันหมายถึงการเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญ หรือตีความใหม่ในระดับที่บอกว่า “สิทธิในการพกปืน” ที่เชื่อกันมา 200 กว่าปีนับตั้งแต่ตั้งประเทศว่าไม่มีอยู่จริง
และก็ไม่แปลกว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ และมันก็ถูกยกมาถกเถียงในสภาบ่อยครั้ง ซึ่งมันซีเรียสมากๆ เพราะคนอเมริกันจะมองว่า การ “ละเมิดสิทธิ” ภายใต้รัฐธรรมนูญ จะทำให้รัฐธรรมนูญไม่ศักดิ์สิทธิ์ และนำไปสู่การละเมิดสิทธิอื่นๆ เลยทำให้แม้แต่คนที่ไม่ได้ “ปลื้ม” กับปืนในอเมริกาก็ยังลังเลจะพูดว่าคนอเมริกาไม่ควรจะมีสิทธิในการครอบครองอาวุธปืนแบบเสรี เพราะนั่นคือการปฏิเสธสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
ซึ่งข้อถกเถียงนี้ก็ไม่สามารถจะ “มองอย่างเป็นกลาง” ได้ง่ายเลย เพราะฝ่ายที่ต้านอาวุธปืนก็จะบอกว่า ข้อกำหนดแบบนี้ในรัฐธรรมนูญนี้ไม่สมเหตุสมผลอีกแล้วในยุคของอาวุธยุทโธปกรณ์ปัจจุบันของกองทัพที่ “ล้ำ” มากๆ พูดง่ายๆ คือถึงคุณมีปืน คุณก็ไม่มีปัญญาสู้กับ “รัฐบาลทรราช” ได้หรอก
แต่อีกด้าน ฝ่ายที่สนับสนุนอาวุธปืนก็จะยกตัวอย่าง กลุ่มติดอาวุธทั่วโลกที่สามารถต่อสู้กับ “รัฐบาลทรราช” แล้วชนะ และตัวอย่างที่สดใหม่ของเรื่องนี้คือกลุ่มตอลิบาน ที่มีทั้งอาวุธและเทคโนโลยีด้อยกว่ากองทัพอัฟกานิสถานแน่ๆ แต่ก็ยังรบชนะ “รัฐบาลทรราช”
ดังนั้น นี่คือเรื่องที่ไม่มีวันจะคุยกันจบหรือได้ข้อสรุปใดๆ และก็คงจะเป็นปัญหาที่ค้างคาอันสร้างเอกลักษณ์ให้กับสังคมและการเมืองอเมริกาอีกยาวนาน
อ้างอิง
- Vox. Why the anti-tyranny case for the 2nd Amendment shouldn’t be dismissed so quickly. https://bit.ly/3tacrfQ
- The Conversation. Why the Second Amendment protects a ‘well-regulated militia’ but not a private citizen militia. https://bit.ly/3DLNYm7
- NPR. Author: 2nd Amendment’s Only Sentence Generates Recurrent Debate. https://n.pr/3n0ijY8
- Los Angeles Times. Review: ‘The Second Amendment’ is a smart history of guns and the U.S. https://lat.ms/3jGD5Kh
- Austin American-Statesman. Fact-check: Second Amendment didn’t originally limit gun ownership. https://bit.ly/3DJ6lIf
- Statista. Which States Allow the Permitless Carry of Guns? https://bit.ly/3mYcKcu