เตรียมพบกับ ‘The Heart of Bangkok’ เมืองกลางใจ ที่คิดมาเพื่อทุกคน จาก One Bangkok
ทุกคนคงเคยได้ยินความคิดที่อยากให้มีการสร้าง ‘เมืองสำหรับทุกคน’ กันมานานแล้ว ซึ่งส่วนมากยังเป็นเพียงคอนเซ็ปต์ที่ถูกวางไว้ ถึงแม้จะเป็นเพียงความคิด ก็ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและตั้งตารอคอยมากเลยทีเดียว เพราะคำว่า ‘เมืองสำหรับทุกคน’ พูดในแง่หนึ่ง คือ เป็นสิ่งที่พวกเราไม่รู้ว่าจะออกมาเป็นหน้าตาแบบไหน จะออกแบบยังไงให้ถูกใจและเหมาะกับทุกๆ คน
แต่วันนี้ดูเหมือนการสร้างเมืองสำหรับทุกคนจะไม่ใช่แค่คอนเซ็ปต์อีกต่อไป เพราะเมืองนี้เกิดขึ้นแล้วที่ วัน แบงค็อก กับ ‘The Heart of Bangkok’ มาพร้อมคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจมากๆ คือ เป็น ‘เมืองกลางใจ’ ที่สร้างมาเพื่อทุกคน สำหรับทุกเพศ ทุกวัย และจะเป็นเมืองที่ทุกคนตกหลุมรัก เมืองนี้จะเป็นยังไง มาดูกัน
ความน่าสนใจอย่างแรกของ ‘The Heart of Bangkok’ คือหัวใจหลักของเมือง ที่ถูกเลือกมาให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ แต่ยังคงไว้ซึ่งความสมดุลกับธรรมชาติ ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ที่เข้ากับเทรนด์ในปัจจุบัน ทั้งการสร้างเมืองที่ตอบทุกความต้องการของผู้อยู่อาศัย และตอบโจทย์ในเรื่องของสิ่งแวดล้อม อย่างในโครงการนี้ เราก็จะได้พบกับถนนบูเลอวาร์ดขนาด 33 เมตร ที่สองข้างทางทำเป็นพื้นที่เปิดโล่ง และพื้นที่สีเขียว
และที่นับว่าเป็นทีเด็ดและจะกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ก็ต้องยกให้ต้นโกลเด้นทรี ต้นไม้ที่จะออกดอกบานสะพรั่งสีเหลืองทองในช่วงฤดูร้อน ที่ถูกปลูกอยู่สองข้างทางตลอดความยาว 250 เมตร ชวนให้ไปถ่ายภาพสวยๆ เช็กอินใจกลางเมืองกัน ซึ่งในเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นทั้งการสร้างพื้นที่สีเขียวและจะกลายเป็นจุดท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้ทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยวด้วย นับว่า วัน แบงค็อก ทำการบ้านเรื่องนี้มาดีเลยทีเดียว
วัน แบงค็อก ตั้งใจสร้างเมืองออกมาให้เป็นเมืองของทุกคนที่จะอยู่ได้อย่างสบายกายสบายใจจริงๆ ทั้งรายละเอียดต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจ เริ่มตั้งแต่การวางแผนมาสเตอร์แพลนของโครงการ ที่วางจุดยืนให้ วัน แบงค็อก Smart City โครงการอัจฉริยะสีเขียว โดยมีการนำเอา Smart Technologies มาใช้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยทุกคน
เมืองนี้สร้างขึ้นมาโดยประกอบด้วยปัจจัย 3 อย่างที่เปรียบเสมือนหัวใจของเมือง ได้แก่ Prime Location Hub สร้างบนจุดยุทธศาสตร์บนทำเลที่ดีที่สุด โดยออกแบบพื้นที่กว่า 108 ไร่ ให้เป็นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งถึง 50 ไร่ เพื่อเชื่อมต่อสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ รวมเป็นพื้นที่กว่า 700 ไร่ เปรียบเสมือนปอดผืนใหญ่ใจกลางกรุง ที่ไม่ว่าไลฟ์สไตล์ไหนก็ใช้ประโยชน์และสามารถมาทำกิจกรรมที่หลากหลายได้ ทั้งยังมี Walkable Neighborhood ทางเดินที่ร่มรื่นเย็นสบายและสามารถเข้าถึงทุกโซนของโครงการได้ภายใน 15 นาที ตามแนวคิด 15-Minute Walking City เรียกได้ว่าสะดวกสบายสุดๆ
นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจอีกจุดที่สำคัญของกรุงเทพฯ เพราะเดินทางสะดวก มีระบบขนส่งสาธารณะหลากหลาย ทำให้สามารถไปยังจุดต่างๆ ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
ปัจจัยสำคัญประการถัดมา คือ Fully Integrated Experiences with Community Spirit คือ เป็นคอมมิวนิตีที่ครอบคลุมและครบเครื่อง สิ่งนี้เรียกได้ว่าตอบโจทย์ชาวเมืองมากๆ เพราะเป็นคอมมิวนิตีที่สามารถสนับสนุนไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบและสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายให้ทุกคนได้ และจุดที่น่าสนใจอีกจุดต้องขอยกให้ Art Loop ยาวกว่า 2 กิโลเมตร ที่จะรังสรรค์พื้นที่แห่งการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ให้ศิลปะผสมผสานอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน โดยมีการจัดแสดงผลงานระดับประเทศและระดับโลก และโปรแกรมทางศิลปะและวัฒนธรรมมาร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ชื่นชอบศิลปะ หรือเพียงแค่อยากได้รับแรงบันดาลใจก็สามารถมาที่นี่ได้
และประสบการณ์ที่จะทำให้ที่นี่เป็น The Heart of Bangkok ก็คือ One Bangkok Retail ที่ในอนาคตจะกลายเป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใจกลางเมือง ด้วยการรวบรวมเอารีเทลคอนเซ็ปต์ที่แตกต่าง 3 แบบ 3 สไตล์มารวมกันไว้ในที่เดียว เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียว ก็มีครบทุกอย่างที่ใจต้องการกันเลย
เริ่มจาก Parade ในคอนเซ็ปต์ ‘A World of Choice Without Limits’ ที่จะเป็นตัวแทนของสีสัน นำเสนอผ่านพื้นที่จำนวน 9 ชั้น ครบลูปไลฟ์สไตล์ทั้ง Shop – Play – Work – Eat มีตั้งแต่ร้านค้าแบรนด์ดังในไทย ร้านอาหาร คาเฟ่ ซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นส่วนที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ทุกคนในครอบครัวสามารถมาใช้บริการได้
ถัดมาคือ THE STOREYS กับคอนเซ็ปต์ ‘Tell Your Own Story at THE STOREYS’ ในโซนนี้จะเป็นโซนเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ ที่มาในส่วนของร้านค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงร้านอาหาร บาร์แอนด์บิสโทร และแหล่งแฮงเอาต์ยามค่ำคืน ที่แต่ละร้านล้วนมีเรื่องราวโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีทั้งกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่นร่วมสมัยและผสานความฮิปเข้าไว้ด้วยกัน
และปิดท้ายกันที่ POST 1928 ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘Go Beyond Luxury’ มาพร้อมกับความเรียบหรู ลักซ์ชัวรีขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการรวบรวมร้านค้าแฟล็กชิปสโตร์แบรนด์ดังระดับโลกมากมาย ทั้งซูเปอร์แบรนด์แฟชั่น นาฬิกา เครื่องประดับ หรือจะเป็นแบรนด์สตรีทแวร์พรีเมียม ก็มีรวมไว้ให้ในที่เดียว เรียกได้ว่าทั้งสองฝั่งถนนจะมีร้านต่างๆ มาให้เลือกแบบจุกๆ เลย
อีกหนึ่งพื้นที่ ที่ทาง วัน แบงค็อก ให้ความสำคัญมากคือส่วนของออฟฟิศ โดยพื้นที่นี้จะกลายเป็นศูนย์รวมของคนที่มีวิสัยทัศน์ในการทำงาน เพราะทางโครงการได้มีการสร้างทั้งส่วนของออฟฟิศและพื้นที่สร้างสรรค์ในการทำงานร่วมกันเพื่อต่อยอดทางธุรกิจ ให้บริษัทและองค์กรชั้นนำทั้งไทยและเทศเข้ามาใช้บริการกันได้
อย่างที่บอกเลยว่าที่นี่มีครบทุกอย่างจริงๆ และที่พิเศษกว่านั้นและจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ วัน แบงค็อก เป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว LEED for Neighborhood Development (LEED-ND) ระดับ Platinum รวมถึง WiredScore และ SmartScore ระดับ Platinum ซึ่งมาตรฐานนี้ ก็สามารถเป็นสิ่งการันตีได้ว่า วัน แบงค็อก มีโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ มีเทคโนโลยีที่จะมาช่วยในเรื่องของความยั่งยืน ความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ตอกย้ำความเป็นเลิศแห่งการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะขั้นสูง เพราะการจะผ่านมาตรฐานในแต่ละข้อ ได้ถูกคิดและออกแบบมาตั้งแต่แรก จึงมีโครงการไม่มากนักที่จะได้รับการรับรองขนาดนี้
ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันเหมาะสำหรับการเข้าพักทั้งระยะสั้นและระยะยาว เป็นโรงแรมที่เป็นหน้าตาของเมืองด้วยการให้บริการที่ประทับใจ ในเอกลักษณ์แบบไทยๆ และวิวสวนที่สวยที่สุดในใจกลางของกรุงเทพฯ
นอกจากจะตอบโจทย์ชาวเมืองแล้ว วัน แบงค็อก ยังจะกลายเป็นที่พักเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากทั่วโลก เพราะมีตัวเลือกการพักผ่อนที่เยอะมากๆ มีโรงแรมตั้งแต่ระดับธุรกิจถึงลักซ์ชัวรี และมีบริการรองรับแขกที่มาเข้าพักหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารทั้งไทยและต่างชาติ สถานที่จัดงานที่จัดงานได้ทุกระดับ จะเล็กหรือใหญ่ก็ได้หมด
และปัจจัยสำคัญอีกอย่างคือ City Living Redefined หรือการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับสูง ในการมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย หรือที่เราคุ้นหูกันกับคำว่า Smart City เมืองอัจฉริยะที่จะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในเรื่องความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ในเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ของทุกคน
ซึ่งในตอนนี้ One Bangkok ยังเดินหน้ามุ่งสู่การรับรองด้วยมาตรฐาน WELL มาตรฐานที่จะมาการันตีว่าเป็นอาคารสมัยใหม่ที่เกิดขึ้นมาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง ไปจนถึงระบบระบายอากาศและแสงสว่างที่จะช่วยส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของทุกคน
ต้องบอกเลยว่า ‘เมืองกลางใจ’ สำหรับทุกคนจะไม่ใช่เพียงแค่ความฝันอีกต่อไป เพราะ วัน แบงค็อก ใกล้ที่จะกลายเป็นความจริง เพราะได้เริ่มดำเนินการและจะเปิดให้ทุกคนเข้าไปใช้บริการแบบเต็มรูปแบบกันได้ในช่วงปลายปี 2567 นี้
สรุปแล้ว วัน แบงค็อก คือมิติใหม่ของเมืองเลยทีเดียว ทั้งนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่คิดมาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ทั้งพื้นที่สีเขียว พื้นที่การเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ และในขณะเดียวกัน วัน แบงค็อก ยังจะกลายเป็นจุดเชื่อมต่อศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ เพราะจะเป็นศูนย์รวมของคนที่มีวิสัยทัศน์ ที่พักรองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจทั่วโลก และศูนย์กลางการชอปปิงและไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นเมืองกลางใจที่มีพื้นที่ที่จัดสรรอย่างลงตัวสำหรับทุกคน
นับเป็นอีกจุดหมายที่น่าสนใจมาก และน่าตั้งตารอรับการเปิดตัวครั้งใหญ่ปลายปีนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้น