3 Min

The Future is Now: Honda SENSING เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะที่เชื่อมสู่โลกอนาคต ที่พร้อมให้คุณสัมผัสได้แล้ว

3 Min
1023 Views
03 Nov 2020

พอพูดถึงรถยนต์ หรือยานพาหนะในการขับขี่ หลายคนน่าจะมีตัวเลือกที่ต้องการต่างกันออกไป บางท่านอาจจะสนใจเรื่องสมรรถนะที่ดี ขับสนุก บางท่านอาจจะสนใจเรื่องดีไซน์ หรูหรา โฉบเฉี่ยว

หรือบางคนอาจจะเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสาร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความปลอดภัยคือสิ่งที่ผู้ใช้รถยนต์ใช้ถนนทุกคนต้องการ 

จะดีกว่าไหม ถ้าเราใช้ชีวิตกันได้ในสังคมที่ปราศจากอุบัติเหตุ สังคมที่เราสามารถอุ่นใจได้ ไม่ว่าจะเดินทางไปไหน หรือใช้ยานพาหนะในรูปแบบใดก็ตาม

ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกอย่างฮอนด้าให้ความสนใจ

ฮอนด้า มีการพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัย เพื่อที่จะต่อยอดไปสู่การพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติ (Automated Drive) ซึ่งจะสร้างอิสระและการใช้ชีวิตได้อย่างไร้ขีดจำกัด มุ่งสู่การเป็นสังคมปลอดอุบัติเหตุ (Collision Free Society)

วันนี้ BrandThink จะพาทุกคนมารู้จัก ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) หนึ่งในเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยอัจฉริยะ ที่เป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญในการสร้างสรรค์สังคมปลอดอุบัติเหตุที่พวกเราวาดฝันไว้ 

Honda SENSING (ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง) เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะจากฮอนด้าที่ฉับไวราวกับระบบประสาทสัมผัส

ต้องขออธิบายก่อนว่า ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง เป็นเหมือนเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบอัจฉริยะ ซึ่งได้รับการพัฒนาและเริ่มใช้ครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงปี ..2557 ซึ่งในปีนั้นมีการติดตั้งระบบนี้ในรุ่น ฮอนด้า เลเจนด์ (Honda Legend

ถัดมาในปี .. 2559 ประเทศไทยเองก็เริ่มมีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ โดยติดตั้งในรุ่น แอคคอร์ด ไฮบริด (Honda Accord Hybrid) ซึ่งนับเป็นการยกระดับเทคโนโลยีความปลอดภัยของตลาดรถยนต์ให้ก้าวล้ำขึ้นไปอีกขั้น

ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง จะผสานการทำงานของเรดาร์กับกล้องด้านหน้าในการตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนน แล้วแจ้งเตือนไปยังผู้ขับขี่ พร้อมทั้งช่วยควบคุมรถในสถานการณ์ขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยทั้งตัวผู้ขับขี่ เพื่อนร่วมทาง และคนเดินถนนอย่างแท้จริง

หากลองนึกภาพตาม ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง เป็นเหมือนเซนส์ของมนุษย์ ที่จะคอยส่งสัญญาณแจ้งเตือน เพื่อให้สามารถรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิดที่กำลังจะเกิดขึ้นได้อย่างทันเวลา 

ความล้ำของ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ประกอบไปด้วยฟีเจอร์ ได้แก่

1. ระบบเตือนการชนรถและคนเดินพร้อมระบบช่วยเบรก Collision Mitigation Braking System (CMBS)

เป็นระบบที่ช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วของรถเมื่อมีรถคันข้างหน้า รถสวนทาง หรือคนเดินถนนอยู่ในระยะที่ไม่ปลอดภัย โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง รวมถึงมีการสั่นเตือนของพวงมาลัย ในกรณีที่มีรถสวนทาง ซึ่งหากผู้ขับขี่ยังไม่ตอบสนองหรือในกรณีที่อยู่ในระยะที่เสี่ยงต่อการชน ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกให้อัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขึ้นไปอีกระดับ 

2. ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist System (LKAS

โดยกล้องด้านหน้าจะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ ซึ่งระบบจะช่วยเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัย เพื่อช่วยผู้ขับขี่ให้ควบคุมรถอยู่ภายในช่องทางปกติ รวมทั้งช่วยลดอาการเหนื่อยล้าจากการขับขี่

3. ระบบแจ้งเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation with Lane Departure Warning (RDM with LDW

ระบบนี้จะช่วยให้เราขับขี่ได้อย่างปลอดภัยในเรื่องของการขับหลุดเลนถนน เป็นระบบที่ใช้กล้องด้านหน้าในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางจราจร หากพบว่ารถอยู่ในสภาวะเบี่ยงออกนอกช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมการสั่นเตือนของพวงมาลัย  และในกรณีที่รถเริ่มเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัยเพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทาง หากรถยังคงเบี่ยงออกนอกช่องทางจนอาจเกิดอุบัติเหตุ ระบบเบรกจะทำงานเพื่อชะลอความเร็ว (ในกรณีเส้นแบ่งถนนเป็นเส้นทึบ) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่รถจะออกนอกช่องทางจราจร

4. ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ  Adaptive Cruise Control with LowSpeed Follow   (ACC with LSF

ฟังชื่อแล้วอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่นี่คือระบบช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ตั้งค่าไว้ ไม่ต้องคอยเหยียบคันเร่งเพื่อประคองความเร็วนั่นเอง

นอกเหนือจากการควบคุมความเร็วแล้ว ระบบจะปรับความเร็วอัตโนมัติ โดยมีกล้องและเรดาร์ตรวจจับรถคันหน้า เพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเหมาะสม และในการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ ระบบจะช่วยปรับความเร็วให้รถเคลื่อนที่ตามรถคันหน้า รวมถึงเบรกและหยุดตามรถคันหน้าอัตโนมัติ ระบบจะเริ่มทำงานอีกครั้ง เมื่อผู้ขับขี่กดปุ่มที่พวงมาลัยหรือเหยียบคันเร่ง 

ช่วยให้การขับรถในระยะทางไกลในความเร็วที่ค่อนข้างต่ำสะดวกสบาย เพราะไม่ต้องคอยแตะเบรกหรือคันเร่งบ่อยๆ  และที่สำคัญปลอดภัยขึ้นอีกด้วย

5. ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto HighBeam (AHB)

เป็นระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติด้วยกล้อง โดยจะปรับเป็นไฟสูงเมื่อขับขี่ในที่มืด และเมื่อตรวจจับได้ว่ามีรถยนต์ที่สวนทางหรือรถยนต์ด้านหน้า ระบบจะทำการปรับเป็นไฟต่ำโดยอัตโนมัติ เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกมากขึ้นแก่ผู้ขับขี่ในเวลากลางคืน 

เราจะเห็นเลยว่าเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาตอบโจทย์ความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งมีให้ใช้แล้วในปัจจุบัน และอย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง เป็นเพียงหนึ่งในการต่อยอดไปสู่ระบบขับขี่อัตโนมัติ (Automated Drive) เท่านั้น

ฮอนด้ายังมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมอีกมากมายที่ตั้งใจและพัฒนาเพื่อให้พวกเราก้าวไปสู่สังคมที่ดีกว่า เพื่อก้าวไปสู่อนาคต เพื่อก้าวไปสู่สังคมปลอดอุบัติเหตุ (Collision Free Society) อย่างที่ทุกคนต้องการ