Select Paragraph To Read
- รู้จัก "แรดยักษ์" สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยุคดึกดำบรรพ์
- ทำไม "แรดยักษ์" ถึงตัวมหึมา!?
- อาหารลดลง สาเหตุที่ทำให้สัตว์ตัวเล็กลง
ในโลกนี้ มีสัตว์ใหญ่ๆ มากมาย และสัตว์ที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลกเราก็คงรู้ว่าคือ “วาฬ” ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่ที่สุดในมหาสมุทร และหากหันมาบนแผ่นดิน สัตว์ที่ใหญ่ที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น “ช้าง“
แต่รู้ไหมว่า ตั้งแต่โลกนี้มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ที่ใหญ่ที่สุดบนพื้นโลกไม่ใช่ช้าง แต่เป็น “แรดยักษ์” แรดที่ว่าไม่มีนอ และสมัยก่อนตัวพอๆ กับไดโนเสาร์เลย คือสูงกว่าต้นไม้

| New Scientist
ซึ่งตรงนี้ เราจะมาบอกแค่นี้ก็คงจะไม่สนุก แต่เราจะเล่าว่าทำไมสมัยก่อนโลกนี้ถึงมี “แรดยักษ์” ที่ตัวใหญ่ขนาดนั้นได้
รู้จัก "แรดยักษ์" สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยุคดึกดำบรรพ์
…ย้อนกลับไปเมื่อ 65 ล้านปีก่อน เกิดเหตุบางอย่างขึ้นกับโลกและไดโนเสาร์ก็สูญพันธุ์ (ขอไม่อภิปรายว่าทำไมมันสูญพันธุ์ตรงนี้ เพราะยังมีหลายทฤษฎีขับเคี่ยวกัน)
ซึ่งยุคหลังจากนั้น ในประวัติศาสตร์โลก ก็จะถือกันว่าเป็นยุคของ “สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม” เพราะตอนไดโนเสาร์สูญพันธุ์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีแต่หนูตัวเล็กๆ แต่ต่อมา สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมก็ค่อยๆ มีวิวัฒนาการ มีการเปลี่ยนแปลง และตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
จนถึงยุคพีคๆ ตอนประมาณ 30-25 ล้านปีก่อน ซึ่งก็คือยุคที่เกิดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ตัวใหญ่ที่สุดตั้งแต่โลกนี้มีมาอย่างพวก “แรดยักษ์” ซึ่งขนาดของพวกมันนี่ก็น้องๆ “ไดโนเสาร์” ดีๆ นี่เอง
ตัวสูงกว่าต้นไม้ ระดับก้มลงมากินยอดไม้ได้ชิลล์ๆ และพวก “แรดยักษ์” ที่ว่านี้ ก็ตัวขนาดตัวประมาณ 4-5 เท่าของสัตว์บกที่ตัวใหญ่ที่สุดในยุคปัจจุบันอย่างช้างแอฟริกา
ทำไม "แรดยักษ์" ถึงตัวมหึมา!?
ทีนี้ สงสัยมั้ยครับว่าทำไมสมัยก่อน แรดตัวใหญ่ขนาดนั้น?
คำตอบง่ายๆ คือ อาหารมันเหลือเฟือ
คือหลังจากไดโนเสาร์หายไปจากโลก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเล็กๆ นี่ก็เรียกได้ว่ากลายมาเป็น “ส่วนบนสุดของห่วงโซ่อาหาร” แบบงงๆ เพราะมันไม่มีไดโนเสาร์ไล่กินพวกมันอีกต่อไป
สิ่งที่เหลือจากยุคไดโนเสาร์ก็คือต้นไม้จำนวนมากทั้งโลก เรียกได้ว่าสัตว์กินพืชที่เมื่อก่อนต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไดโนเสาร์ก็ออกมาได้ ไม่ต้องกลัวถูกอะไรกิน และโลกทั้งใบก็เต็มไปด้วย “อาหาร”
กระบวนการใช้พืชทั่วโลกเป็นโต๊ะบุฟเฟต์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมนั้นดำเนินไปกว่า 30 ล้านปี และพวกมันก็ขยายขนาดจนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งตรงนี้ เราก็ต้องเข้าใจหลักพื้นฐานของวิวัฒนาการสัตว์ คือมันจะตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามันมีอาหารเหลือเฟือ (ตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ นี่คือกระบวนการที่ใช้เวลาหลักล้านปีนะ) และมันจะไปหยุดโต เมื่อถึงจุดสมดุลของอาหารและประชากร คือในสภาพแวดล้อมอาหารไม่ได้เพิ่มแล้ว กับประชากรที่มี หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ถ้ามันตัวใหญ่กว่านี้ มันก็ต้องกินอาหารมากกว่านี้ ซึ่งมันจะไม่มีกินแล้ว อาหารมีไม่พอ มันเลยต้องหยุดโต
อาหารลดลง สาเหตุที่ทำให้สัตว์ตัวเล็กลง
และนี่แหละ กระบวนการกำเนิด “แรดยักษ์” คือ จริงๆ มันเป็นตัวอะไรก็ได้ แต่ความบังเอิญทางวิวัฒนาการ ทำให้สัตว์ที่ตัวใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดมาบนโลกเป็นแรด ด้วยกระบวนการที่ว่า
ซึ่งหลังจากจุดพีคของอาหาร แน่นอนว่าอาหารมันก็ค่อยๆ ลดลง พวกแรดก็หยุดวิวัฒนาการตัวใหญ่ขึ้น และค่อยๆ ลงมาตัวเล็กเหมือนทุกวันนี้ในที่สุด
สุดท้ายนี้ ถ้าสงสัยว่า ถ้ายุคของ “แรดยักษ์” ไม่มี “ช้าง” เหรอ คำตอบคือ ช่วงเวลาของพวกแรดยักษ์มันคือประมาณ 35-25 ล้านปีก่อน คือมันอยู่ในช่วงสั้นๆ ช่วงพีคสุดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมก่อนที่จะค่อยๆ ตัวเล็กลง
ส่วนช้างปรากฏขึ้นมาบนโลกครั้งแรกประมาณ 5 ล้านปีก่อน ตอนที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเล็กลงจากตอนยุคพีคๆ ไปเยอะแล้ว
ดังนั้นขนาดมันเลยเทียบกันไม่ได้เลย เพราะแมมมอธตัวที่ใหญ่ที่สุด ก็ยังตัวเล็กกว่าพวก “แรดยักษ์” มากๆ
อ้างอิง
- NewScientist. Giant rhino unearthed in China was one of largest mammals ever to live. https://bit.ly/3d6Hq5y
- NewScientist. Why mammals grew big – and then stopped. https://bit.ly/3gO3c0q