อยากรู้แต่ไม่มีเวลา อ่านแค่ตรงนี้พอ
การส่งลูกหลานไปเรียนต่อต่างประเทศเป็นเรื่องที่หลายๆ ครอบครัวก็ทำกัน แต่ส่วนใหญ่จะส่งลูกหลานไปประเทศทางตะวันตกหรือไม่ก็เอเชียตะวันออก พอเกิดเหตุปะทะรุนแรงที่ซูดาน จึงมีข่าวว่าคนไทยในซูดานต้องอพยพออกจากพื้นที่ โดยส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาไทยที่ไปเรียนต่อที่นั่น ทำให้ชาวเน็ตบางคนตั้งคำถามว่าทำไมเด็กไทยต้องไปเรียนไกลถึงซูดาน แต่ที่จริงแล้วนี่คืออีกหนึ่งประเทศในแอฟริกาที่มีมหาวิทยาลัยขึ้นชื่อ
ถ้าใครตามข่าวต่างประเทศบ่อยหน่อยก็อาจรู้ว่า ‘ซูดาน’ (ซึ่งไทยเรียกชื่อแบบเต็มๆ ว่า ‘สาธารณรัฐซูดาน’) เป็นประเทศที่ไม่เคยว่างเว้นจากเหตุการณ์ความไม่สงบตลอดทศวรรษที่ผ่านมา โดยมีการ ‘แยกประเทศ’ ของกลุ่มติดอาวุธในซูดานใต้ (ซึ่งกลายเป็นสาธารณรัฐ ‘เซาธ์ซูดาน’ ในปัจจุบัน) ตามด้วยสงครามกลางเมืองที่กองทัพต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธ ทั้งยังมีความขัดแย้งทางการเมืองและเศรษฐกิจซึ่งนำไปสู่การยึดอำนาจรัฐบาล จนกระทั่งเกิดเหตุปะทะรุนแรงครั้งล่าสุดเมื่อกลางเดือนเมษายน 2566
ปมเหตุของการปะทะครั้งนี้เกิดจากความขัดแย้งของกลุ่มผู้สนับสนุน ‘ขั้วอำนาจ’ ในซูดานปัจจุบันถูกแบ่งเป็นสองฝั่งใหญ่ๆ ซึ่งต่างก็มีผู้นำเป็น ‘นายทหารระดับสูง’ ที่มีส่วนในการรัฐประหารในปี 2565 ด้วยกันทั้งคู่ และความขัดแย้งนี้ก็ทวีความรุนแรงถึงขั้นใช้อาวุธเข้าห้ำหั่นกันจริงๆ และมีพลเรือนถูกลูกหลงเสียชีวิตจำนวนไม่น้อย
ด้วยเหตุนี้ สถานทูตของหลายๆ ประเทศจึงเร่งอพยพพลเรือนของตัวเองออกจากซูดานกันยกใหญ่ เช่นเดียวกับรัฐบาลไทยที่ประกาศภารกิจช่วยเหลือคนไทยในซูดานกลับประเทศ ซึ่งก็รวมถึง ‘นักศึกษาไทย’ ที่ไปเรียนต่อที่นั่น ก็เลยเป็นเหตุให้ชาวเน็ตจำนวนหนึ่งในไทยตั้งคำถามว่าทำไมเด็กไทยต้องไปเรียนต่อไกลถึงซูดาน เพราะถ้าดูข่าวตามสื่อต่างๆ ก็พอจะบอกได้ว่านี่คือประเทศที่ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ปกติ
ความคิดเห็นทำนองนี้ส่วนใหญ่อยู่ในแชนเนลยูทูบของสำนักข่าวและสื่อมวลชนที่รายงานข่าวนี้ รวมถึงยูทูบของ ‘สุทธิชัย หยุ่น’ อดีตผู้บริหารสื่อเก่าแก่ของไทยที่สัมภาษณ์นักศึกษาไทยในซูดาน และได้รับข้อมูลว่านักศึกษาเหล่านี้เป็นชาวมุสลิมที่ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดาน
ถ้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมในสื่อต่างประเทศจะพบว่า มหาวิทยาลัยนานาชาติในกรุงคาร์ทูมมีทุนการศึกษาให้กับนักเรียนต่างชาติ ทั้งยังเป็นสถาบันที่ขึ้นชื่อเรื่องเทคโนโลยีและการแพทย์อันดับต้นๆ ในทวีปแอฟริกา และการไปเรียนต่อที่ซูดานจะทำให้นักศึกษาต่างชาติมีโอกาสได้เรียนรู้ภาษาอาหรับเพิ่มเติมด้วย ซึ่งถ้าเป็นแพทย์มุสลิมที่พูดภาษาอาหรับได้ โอกาสก้าวหน้าทางอาชีพในอนาคตก็น่าจะมีมากกว่า และซูดานน่าจะมีสภาพสังคมและวัฒนธรรมเหมาะสมกับวิถีชีวิตหรือความเชื่อของชาวมุสลิมมากกว่าการเดินทางไปเรียนต่อยังประเทศแถบตะวันตกเสียอีก
นอกจากนี้ ซูดานยังเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าของไทย โดยข้อมูลล่าสุดซึ่งกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ของไทยเผยแพร่ในปี 2562 พบว่า ไทยส่งออกสินค้าไปยังซูดานรวมกว่า 152.28 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5,177 ล้านบาท โดยไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า และมีนักท่องเที่ยวจากซูดานเดินทางมาไทยจำนวน 5,439 คน
ทั้งนี้ รัฐบาลซูดานได้เปิดสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2560 และไทยก็มีสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ในกรุงคาร์ทูมของซูดานเช่นกัน อย่างไรก็ดี ระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ซูดานเจอกับการรัฐประหารถึง 2 ครั้งในปี 2562 และ 2564 ซึ่งนายพลที่เป็นแกนนำรัฐประหารก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด และต่อมาก็ขัดแย้งจนปะทะต่อสู้กันเอง แต่กระทรวงการต่างประเทศของไทยก็ไม่ได้ออกคำเตือนห้ามการเดินทางไปยังซูดานแต่อย่างใด
ส่วนความคืบหน้าล่าสุดในวันที่ 25 เมษายน 2566 บัญชีทวิตเตอร์กระทรวงการต่างประเทศของไทยแจ้งว่า คนไทย 212 คนในซูดาน พร้อมด้วยคู่สมรสชาวต่างชาติอีก 3 คน ได้เดินทางจากกรุงคาร์ทูมไปจนถึงเมืองท่า Port Sudan อย่างปลอดภัยแล้ว เพื่อจะลงเรือของทางการซาอุดีอาระเบียไปยังเมืองเจดดาห์ของซาอุดีฯ และจะรอการอพยพกลับไทยต่อโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศไทย (ทอ.)
อ้างอิง
- AP. Why Sudan’s conflict matters to the rest of the world. https://bit.ly/41wwCEZ
- ThaiPBS. รัฐบาลเตรียมอพยพ “นศ.ในซูดาน” กลับประเทศ-หาที่เรียนต่อในไทย. https://bit.ly/3oAYxp0
- Youtube. Suthichai Live. https://bit.ly/41R6B31
- กระทรวงการต่างประเทศ. เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา: สาธารณรัฐซูดาน (Sudan). https://bit.ly/3Ln3drg
- กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ. Travel Advisory ข้อควรรู้ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ. https://bit.ly/3UYpbnR