เสน่ห์ย้อนยุค ‘รถไฟไทย’ ของดีจากยุค ร.5 ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงหรือยัง?

2 Min
389 Views
22 Oct 2021

Select Paragraph To Read

  • หัวลำโพง สถาปัตยกรรมตะวันตกข้ามกาลเวลา
  • เตรียมพบกับความเปลี่ยนแปลงของการรถไฟไทย

ที่ผ่านมา ขบวนรถไฟไทยและสถานีรถไฟส่วนใหญ่มีสภาพค่อนข้าง ‘ดั้งเดิม’ แม้จะผ่านวันและคืนมายาวนานหลายทศวรรษนับจากวันที่เริ่มดำเนินการ

การรถไฟไทยจึงมีกลิ่นอาย ‘ย้อนยุค’ จนกลายเป็นจุดขายสำคัญไปโดยอัตโนมัติ

แม้แต่ในยุคดิจิทัล รถไฟไทยและเส้นทางรถไฟสายต่างๆ ได้กลายเป็นมีมในสื่อโซเชียลจำนวนมาก โดยเฉพาะการเล่นมุกว่าภาพยนตร์หรือละครต่างชาติที่เป็นเรื่องย้อนยุคมักจะเลือกถ่ายทำในไทยเพราะเส้นทางรถไฟที่เป็นระบบขนส่งมวลชนยุคแรกๆ ‘แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก’

แต่ถึงจะดูเก่าในยุคนี้ ครั้งหนึ่งเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงจากพระนครไปสู่หัวเมืองอื่นๆ ของสยามประเทศ เคยเป็น ‘หมุดหมายสำคัญ’ และเป็นสัญลักษณ์แห่งการพัฒนาประเทศเพื่อให้ ‘ทัดเทียมตะวันตก’

เพราะก่อนหน้านั้น คนส่วนใหญ่ยังใช้สัตว์เป็นพาหนะในการเดินทางทางบก ไม่ว่าจะเป็นวัว ควาย ช้าง ม้า หรือว่ารถเทียมเกวียน ส่วนการขนส่งและลำเลียงสินค้ามักใช้เรือสัญจรทางน้ำ

เมื่อถูกกดดันจากจักรวรรดิตะวันตกที่แข่งกันล่าอาณานิคม ทำให้สยามประเทศต้องปรับตัวไม่ให้ถูกกลืน และการวางรากฐานเส้นทางรถไฟที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของระบบขนส่งมวลชนยุคนั้น ก็เริ่มขึ้นในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

หัวลำโพง สถาปัตยกรรมตะวันตกข้ามกาลเวลา

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นหน้าเป็นตาของการรถไฟไทย คือ ‘สถานีกรุงเทพ’ หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า ‘หัวลำโพง’ ในฐานะที่เป็นจุดหมายปลายทางของคนจากหัวเมืองต่างๆ ที่โยกย้ายหรือมาเยี่ยมเยือนผู้คนในเมืองหลวง

หัวลำโพงเริ่มก่อสร้างใน พ.ศ. 2453 ช่วงปลายรัชกาลที่ 5 จนกระทั่งแล้วเสร็จในปี 2459 ซึ่งอยู่ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6

ผู้ออกแบบอาคารสถานีหัวลำโพง คือ ‘มาริโอ ตามัญโญ’ สถาปนิกชาวอิตาลี ซึ่งเป็นคนออกแบบอาคารสถานที่สำคัญอีกหลายแห่งในประเทศไทยเมื่อครั้งอดีต โดยรวมถึงพระที่นั่งอนันตสมาคม, วังปารุสกวัน ตลอดจนสถานีรถไฟจิตรลดา

จากข้อมูลของหน่วยงานรัฐบาล ระบุว่า หัวลำโพงเป็นสถาปัตยกรรมรูปโดมแบบอิตาลี ผสมกับศิลปะยุคสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา คล้ายคลึงกับสถานีรถไฟแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี

อาคารสถานีหัวลำโพงมีจุดเด่นตรงที่ช่องระบายอากาศทั้งด้านหน้าและด้านหลังทำเป็นกระจกสี และมีนาฬิกาขนาดใหญ่อายุเก่าแก่ติดตั้งกึ่งกลางยอดโดม โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 160 เซนติเมตร ทำให้คนที่สัญจรไปมาในสถานีหัวลำโพงมองเห็นเวลาได้อย่างชัดเจนแม้จะอยู่ไกลๆ

เตรียมพบกับความเปลี่ยนแปลงของการรถไฟไทย

อย่างไรก็ดี แม้ว่ารถไฟไทยจะขึ้นชื่อเรื่องความย้อนยุค แต่เดือนพฤศจิกายนนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่าง รถไฟที่เคยวิ่งไปยังปลายทางหัวลำโพงจะต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยัง ‘สถานีกลางบางซื่อ’ หลังจากที่จำนวนรถไฟที่เคยตรงไปหัวลำโพงหลายเที่ยวค่อยๆ ลดลงไปตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเงียบๆ แต่ต่อเนื่อง นับตั้งแต่ ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมประกาศในเดือนมกราคมว่าจะต้องยุติบทบาทหัวลำโพงในฐานะสถานีหลักให้ได้ภายในสิ้นเดือน เพื่อแก้ปัญหาการจราจรบนถนนติดขัด เนื่องจากรถยนต์จำนวนมากต้องรอให้ขบวนรถไฟเข้าไปสู่หัวลำโพง โดยนี่ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอน ‘ปฏิรูปการรถไฟ’ ที่ตั้งเป้าไว้ยาวๆ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

หลังจากนั้น หัวลำโพงจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ใช้สอยแบบ Mixed-Use ซึ่งจะรวมถึงการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์, ที่อยู่อาศัย และจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้

สิ่งที่ยังตอบไม่ได้คือภาพลักษณ์สถานีรถไฟเก่าแก่ซึ่งแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลากว่า 105 ปี นับจากวันที่เปิดทำการครั้งแรกจะถูกปรับเปลี่ยนไปอย่างไร และผู้คนที่อยู่ในชุมชนรอบสถานีรถไฟแห่งนี้จะได้รับผลกระทบอย่างไรหรือไม่

อ้างอิง

  • The future of Thai railways: 5 fundamental questions. https://bit.ly/3pndFED
  • ADB: THAILAND: Supporting Railway Sector Reform. https://bit.ly/3E1526X
  • Bang Sue Grand Station: a look at the future of rail travel in Thailand. https://bit.ly/3aVm21H
  • สถานีรถไฟกรุงเทพ รายการร้อยเรื่องเมืองไทย สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา. https://bit.ly/3B03NmC