Select Paragraph To Read
- หัวลำโพง สถาปัตยกรรมตะวันตกข้ามกาลเวลา
- เตรียมพบกับความเปลี่ยนแปลงของการรถไฟไทย
ที่ผ่านมา ขบวนรถไฟไทยและสถานีรถไฟส่วนใหญ่มีสภาพค่อนข้าง ‘ดั้งเดิม’ แม้จะผ่านวันและคืนมายาวนานหลายทศวรรษนับจากวันที่เริ่มดำเนินการ
การรถไฟไทยจึงมีกลิ่นอาย ‘ย้อนยุค’ จนกลายเป็นจุดขายสำคัญไปโดยอัตโนมัติ
แม้แต่ในยุคดิจิทัล รถไฟไทยและเส้นทางรถไฟสายต่างๆ ได้กลายเป็นมีมในสื่อโซเชียลจำนวนมาก โดยเฉพาะการเล่นมุกว่าภาพยนตร์หรือละครต่างชาติที่เป็นเรื่องย้อนยุคมักจะเลือกถ่ายทำในไทยเพราะเส้นทางรถไฟที่เป็นระบบขนส่งมวลชนยุคแรกๆ ‘แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก’
แต่ถึงจะดูเก่าในยุคนี้ ครั้งหนึ่งเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงจากพระนครไปสู่หัวเมืองอื่นๆ ของสยามประเทศ เคยเป็น ‘หมุดหมายสำคัญ’ และเป็นสัญลักษณ์แห่งการพัฒนาประเทศเพื่อให้ ‘ทัดเทียมตะวันตก’
เพราะก่อนหน้านั้น คนส่วนใหญ่ยังใช้สัตว์เป็นพาหนะในการเดินทางทางบก ไม่ว่าจะเป็นวัว ควาย ช้าง ม้า หรือว่ารถเทียมเกวียน ส่วนการขนส่งและลำเลียงสินค้ามักใช้เรือสัญจรทางน้ำ
เมื่อถูกกดดันจากจักรวรรดิตะวันตกที่แข่งกันล่าอาณานิคม ทำให้สยามประเทศต้องปรับตัวไม่ให้ถูกกลืน และการวางรากฐานเส้นทางรถไฟที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของระบบขนส่งมวลชนยุคนั้น ก็เริ่มขึ้นในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
หัวลำโพง สถาปัตยกรรมตะวันตกข้ามกาลเวลา
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นหน้าเป็นตาของการรถไฟไทย คือ ‘สถานีกรุงเทพ’ หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า ‘หัวลำโพง’ ในฐานะที่เป็นจุดหมายปลายทางของคนจากหัวเมืองต่างๆ ที่โยกย้ายหรือมาเยี่ยมเยือนผู้คนในเมืองหลวง
หัวลำโพงเริ่มก่อสร้างใน พ.ศ. 2453 ช่วงปลายรัชกาลที่ 5 จนกระทั่งแล้วเสร็จในปี 2459 ซึ่งอยู่ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
ผู้ออกแบบอาคารสถานีหัวลำโพง คือ ‘มาริโอ ตามัญโญ’ สถาปนิกชาวอิตาลี ซึ่งเป็นคนออกแบบอาคารสถานที่สำคัญอีกหลายแห่งในประเทศไทยเมื่อครั้งอดีต โดยรวมถึงพระที่นั่งอนันตสมาคม, วังปารุสกวัน ตลอดจนสถานีรถไฟจิตรลดา
จากข้อมูลของหน่วยงานรัฐบาล ระบุว่า หัวลำโพงเป็นสถาปัตยกรรมรูปโดมแบบอิตาลี ผสมกับศิลปะยุคสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา คล้ายคลึงกับสถานีรถไฟแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
อาคารสถานีหัวลำโพงมีจุดเด่นตรงที่ช่องระบายอากาศทั้งด้านหน้าและด้านหลังทำเป็นกระจกสี และมีนาฬิกาขนาดใหญ่อายุเก่าแก่ติดตั้งกึ่งกลางยอดโดม โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 160 เซนติเมตร ทำให้คนที่สัญจรไปมาในสถานีหัวลำโพงมองเห็นเวลาได้อย่างชัดเจนแม้จะอยู่ไกลๆ
เตรียมพบกับความเปลี่ยนแปลงของการรถไฟไทย
อย่างไรก็ดี แม้ว่ารถไฟไทยจะขึ้นชื่อเรื่องความย้อนยุค แต่เดือนพฤศจิกายนนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่าง รถไฟที่เคยวิ่งไปยังปลายทางหัวลำโพงจะต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยัง ‘สถานีกลางบางซื่อ’ หลังจากที่จำนวนรถไฟที่เคยตรงไปหัวลำโพงหลายเที่ยวค่อยๆ ลดลงไปตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเงียบๆ แต่ต่อเนื่อง นับตั้งแต่ ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมประกาศในเดือนมกราคมว่าจะต้องยุติบทบาทหัวลำโพงในฐานะสถานีหลักให้ได้ภายในสิ้นเดือน เพื่อแก้ปัญหาการจราจรบนถนนติดขัด เนื่องจากรถยนต์จำนวนมากต้องรอให้ขบวนรถไฟเข้าไปสู่หัวลำโพง โดยนี่ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอน ‘ปฏิรูปการรถไฟ’ ที่ตั้งเป้าไว้ยาวๆ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
หลังจากนั้น หัวลำโพงจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ใช้สอยแบบ Mixed-Use ซึ่งจะรวมถึงการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์, ที่อยู่อาศัย และจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้
สิ่งที่ยังตอบไม่ได้คือภาพลักษณ์สถานีรถไฟเก่าแก่ซึ่งแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลากว่า 105 ปี นับจากวันที่เปิดทำการครั้งแรกจะถูกปรับเปลี่ยนไปอย่างไร และผู้คนที่อยู่ในชุมชนรอบสถานีรถไฟแห่งนี้จะได้รับผลกระทบอย่างไรหรือไม่
อ้างอิง
- The future of Thai railways: 5 fundamental questions. https://bit.ly/3pndFED
- ADB: THAILAND: Supporting Railway Sector Reform. https://bit.ly/3E1526X
- Bang Sue Grand Station: a look at the future of rail travel in Thailand. https://bit.ly/3aVm21H
- สถานีรถไฟกรุงเทพ รายการร้อยเรื่องเมืองไทย สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา. https://bit.ly/3B03NmC