“อย่าตาย แก้แค้นสิ” Taxi Driver ซีรีส์คลั่ง กฎหมายไม่ยุติธรรม เหยื่อจึงหันมาเป็นผู้ล่า

“อย่าตาย แก้แค้นสิ เราจัดการเอง”

สโลแกนจาก ‘แท็กซี่ วีไอพี’ บริการแท็กซี่สุดแปลกที่รับจ้างแก้แค้น เพื่อทวงคืนความยุติธรรมในวันที่อำนาจและกำปั้นเด็ดขาดกว่ากฎหมาย นี่คือเรื่องราวของซีรีส์ที่กำลังเป็นที่พูดถึงมาก ณ ขณะนี้

Taxi Driver คือซีรีส์แนวแอคชั่นสัญชาติเกาหลี ที่สร้างมาจากเว็บตูนชื่อเดียวกัน ซึ่งกำลังฉายทางช่อง SBS ต่อจากซีรีส์ดังอย่าง The Penthouse 2 โดย Taxi Driver ถือว่าเป็นซีรีส์ที่เปิดตัวด้วยเรตติ้งที่สูง ซึ่งตอนล่าสุดที่เพิ่งฉายไป (ep.6) เรตติ้งก็พุ่งทะยานไปถึง 16.0% เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในไทยตอนนี้ สามารถรับชมได้ที่ VIU

เรื่องราวของ Taxi Driver เล่าถึง ‘คิมโดกี’ (อี เจฮุน) อดีตทหารหน่วยรบพิเศษใต้น้ำ UDT ผู้เก่งกาจ ที่ชีวิตต้องมาพลิกผัน เพราะแม่ถูกฆาตกรรมอย่างเลือดเย็นโดยฆาตกรต่อเนื่อง ‘จาง ซองชอล’ (คิม อึยซอง) ประธานบริษัท Rainbow Taxi จึงชักชวนเขามาทำงานด้วย ทว่าบริการ ‘แท็กซี่ วีไอพี’ ของที่นี่กลับแตกต่างจากแท็กซี่ทั่วไป เพราะพวกเขาไม่เพียงรับส่งผู้โดยสาร แต่ยังรับจ้างแก้แค้นสำหรับเหยื่อที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยมีคิม โดกี เป็นผู้ออกหน้าและบู๊อย่างดุเดือด ทั้งยังมีผู้ช่วยอีกสามคนที่เป็นวิศวกร และแฮกเกอร์สาว ‘ โกอึน’ (พโย เยจิน) ที่เป็นกำลังสำคัญในการทำภารกิจปิดความแค้น

ขณะที่อีกฝั่ง มีอัยการสาวกัดไม่ปล่อยอย่าง ‘คัง ฮานา’ (อีซม) ผู้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ที่เกิดสงสัยในการหายตัวไปของฆาตกรต่อเนื่องที่เพิ่งออกจากคุกได้ไม่นาน เธอจึงทำการสืบสวนแบบลับๆ จนได้เบาะแสว่าชายผู้นั้นหายไปพร้อมกับรถแท็กซี่วีไอพี

แม้จะฉายไปแล้ว 6 ตอน แต่ซีรีส์ Taxi Driver ยังคงไต่ระดับความเข้มข้นและดุเดือดขึ้นไปเรื่อยๆ พร้อมกับเรตติ้งที่พุ่งสูง ซึ่งผู้เขียนจะขอหยิบยกบางส่วนบางตอนของซีรีส์มาเล่าสู่กันฟังในโพสต์นี้

*มีการเปิดเผยเนื้อหาซีรีส์*

“ถึงจะอายุน้อยก็ไม่ได้ทำให้ความผิดลดลง
ไม่ว่าใครจะเป็นคนขว้าง หินก็จมลงอยู่ดี”

นี่คือหนึ่งในประโยคที่ตัวละครเอกของเรื่องพูดขึ้น ระหว่างตัดสินใจรับเคสจากผู้โดยสารวัยมัธยมที่ถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียน โดยซีรีส์เล่าย้อนไปในค่ำคืนที่ ‘พัค จองมิน’ เด็กหนุ่มม.ปลายที่ใบหน้าเต็มไปด้วยแผลฟกช้ำ กำลังเสิร์ชหา ‘วิธีการฆ่าตัวตายแบบไม่เจ็บปวด’ ขณะที่แม่ผู้ซึ่งผู้พิการทางการได้ยินกำลังหลับใหล และระหว่างที่หาข้อมูลอยู่นั่นเอง โฆษณา ‘แท็กซี่วีไอพี’ ก็ปรากฏขึ้นมา

“เพียงเพราะพวกเขายังเด็กก็ไม่ใช่ว่าจะปล่อยผ่านได้”

“มันอาจเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ในชีวิตวัยรุ่นของพวกเขา แต่สำหรับบางคนมันคือความเป็นความตาย”

ถึงแม้บาดแผลทางร่างกายจะรักษาให้หายได้ แต่บาดแผลทางจิตใจอาจไม่เป็นเช่นนั้น และหากเป็นบาดแผลแล้วล่ะก็ ไม่ว่าวัยไหนก็คงจะเจ็บปวดไม่ต่างกัน แน่นอนว่า ‘ความรุนแรงในโรงเรียน’ เป็นประเด็นที่เข้มข้นในสังคมเกาหลีใต้ และเราคงไม่ได้เห็นซีรีส์แนวศาลเตี้ย ที่จะทวงคืนความยุติธรรมในโรงเรียนมัธยมเท่าไหร่นัก แต่ Taxi Driver เลือกจะซัดกลับโดยไม่ลังเล แถมหมัดฮุคของซีรีส์เรื่องนี้ยังทำออกมาได้อย่างนุ่มนวลและมีชั้นเชิงอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ซีรีส์จะระบุว่าไม่ได้สร้างจากเหตุการณ์จริง แต่ก็มีผู้ชมหลายๆ คน ที่นำเคสจริงมาแชร์ ซึ่งเรื่องราวก็คล้ายคลึงกับในซีรีส์สุดๆ ไม่ว่าจะเป็น ชายพิการทางสมองที่ถูกหลอกส่งไปทำงานในบ่อเกลือ กับกรณียัง จินโฮ CEO ของบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังในเกาหลีใต้ ที่ตบตีพนักงาน และใช้ความรุนแรงโดยบังคับให้พนักงานชายย้อมสีผมแดงและเขียว ทั้งยังบังคับให้ใช้ธนูยิงไก่ในงานเลี้ยง

นอกจากพล็อตเรื่องแสนเท่ที่น่าจะสะกิดใจใครหลายๆ คน Taxi Driver ยังนำทีมโดยนักแสดงหล่อกระชากใจอย่าง ‘อี เจฮุน’ โอปป้าวัย 37 ปีที่มารับบทบู๊กระหน่ำ แถมยังได้สาวมั่นที่แฝงความเซ็กซี่อย่าง ‘อีซม’ มาเป็นนางเอก และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือสาวน่ารักที่แจ้งเกิดจากซีรีส์ What’s wrong with Secretary Kim? และ VIP อย่าง ‘พโย เยจิน’ มาร่วมแสดงด้วย ในพาร์ทของนักแสดงจึงครบถ้วน และน่าติดตามมากๆ

แม้เรื่องราวผดุงความยุติธรรมโดยศาลเตี้ยแบบ Taxi Driver จะไม่ถูกต้องเท่าไรนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางครั้งกระบวนการยุติธรรมหรือกฎหมายก็กลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายเหยื่อเสียเอง

แล้วคุณล่ะ คิดว่าบริการแท็กซี่วีไอพีแบบนี้ ควรมีอยู่จริงไหม?