เริ่มแล้ว! แท็กซี่บวกเพิ่มค่าสัมภาระ 4 รายการ คิดราคาเริ่มต้นชิ้นละ 20 บาท สูงสุดไม่เกิน 100 บาท

เริ่มเรียกเก็บเพิ่มค่าสัมภาระตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังจากที่กระทรวงคมนาคมออกประกาศให้แท็กซี่ที่ลงทะเบียนในเขตกรุงเทพฯ ปี 2563 นี้ สามารถบวกเพิ่มค่าสัมภาระ 4 รายการ ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ชิ้นละ 20 บาทสูงสุดไม่เกินชิ้นละ 100 บาท

สัมภาระแบบไหนกันที่จะเรียกเก็บ?

‘สัมภาระ’ ในที่นี้หมายถึง สินค้า สิ่งของ อุปกรณ์ ที่ไม่สามารถถือติดตัวได้ ต้องทำการเก็บบรรทุกท้ายรถ แต่ไม่รวมถึงรถเข็นหรืออุปกรณ์ต่างๆ สำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย เช่น วีลแชร์ ไม้เท้า เป็นต้น

ส่วน ‘สัมภาระติดตัว’ ก็หมายถึง สัมภาระที่อยู่ในความดูแลของคนโดยสารระหว่างการเดินทาง เช่น กระเป๋าถือ กระเป๋าคอมพิวเตอร์ เป้สะพายหลัง และของใช้ส่วนตัวที่ติดตัวคนโดยสารด้วย

หากมีการจ้างบรรทุก จะแบ่งตามขนาดของสัมภาระออกเป็น 4 รายการ

1. สัมภาระที่มีขนาดความกว้าง ความยาวหรือความสูง เกินกว่า 26 นิ้วขึ้นไป เรียกเก็บชิ้นละไม่เกิน 20 บาท

2. สัมภาระที่มีขนาดความกว้าง ความยาวหรือความสูง ไม่เกิน 26 นิ้ว มากกว่า 2 ชิ้น ซึ่งเรียกเก็บตั้งแต่ชิ้นที่ 3 เป็นต้นไปชิ้นละไม่เกิน 20 บาท โดยไม่รวมกับสัมภาระในข้อ 1

3. สัมภาระที่เป็น อุปกรณ์ทางการกีฬา เช่น ถุงกอล์ฟ รถจักรยาน วินด์เซิร์ฟ หรือเครื่องดนตรี มีขนาดตั้งแต่ 50 นิ้วขึ้นไป จะเรียกเก็บชิ้นละไม่เกิน 100 บาท

4. สัมภาระเป็น สินค้าที่มัดรวมหรือห่อไว้ มีขนาดตั้งแต่ 50 นิ้วขึ้นไป เรียกเก็บได้ชิ้นละไม่เกิน 100 บาท.

แล้วแท็กซี่สามารถเรียกเก็บได้ทุกที่เลยไหม?

ไม่ใช่ทุกคนที่จะโดนเรียกเก็บค่าสัมภาระเพิ่ม โดยจะบวกค่าสัมภาระเฉพาะคนที่ต้องเดินทางไป – กลับจาก สนามบินดอนเมือง และสุวรรณภูมิ เท่านั้น

และที่สำคัญคนขับแท็กซี่จะต้องแจ้งราคาค่าสัมภาระกับคนโดยสารก่อนขึ้นรถทุกครั้งด้วย

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดอัตราค่าบริการอื่น กรณีการจ้างโดยมีบริการพิเศษสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI – METER) | ratchakitcha.soc.go.th

อ้างอิง:

• ไทยโพสต์. แท็กซี่เก็บค่าสัมภาระ https://bit.ly/3m8z008
• ประชาไท. มีผลแล้ว! จ้าง “แท็กซี่” บรรทุกสัมภาระคิดค่าบริการเริ่มต้น 20 บาท/ชิ้น https://bit.ly/3pXHnOv