Danny และ Michael Philippou จาก YouTuber สู่ผู้กำกับหนัง Talk to Me
Talk to Me ผลงานกำกับหนังเรื่องแรกของ Danny และ Michael Philippou ที่ชาวเน็ตสายเกรียน ต่างรู้จักพวกเขาทั้งสองดี ในฐานะ YouTuber เจ้าของช่อง RackaRack
ตอนนี้ คงไม่มีกระแสไหนที่แรงและไฮป์เท่ากับหนัง ‘Talk to Me’ หนังสยองขวัญสัญชาติออสซีที่มาแรงจนสตูดิโอสุดแนวอย่าง A24 ต้องขอนำมาจัดจำหน่ายในอเมริกา ด้วยความสยองขั้นสุด และไอเดียหนังที่ไม่ซ้ำใคร และเข้าถึงยุคสมัยได้อย่างน่าทึ่ง ทำให้ Talk to Me คือความหวังของหนังสยองขวัญแห่งยุค ที่ขนาดเจ้าพ่อหนังสยองอย่าง อารี แอสเตอร์ (Ari Aster) ยังต้องซูฮกในความเจ๋ง
ซึ่งความน่าสนใจของ Talk to Me นั้น มาจากแนวคิดของฝาแฝดของ แดนนีและไมเคิล ฟิลิปโพ (Danny and Michael Philippou) ที่ชาวเน็ตสายเกรียน ต่างรู้จักพวกเขาทั้งสองดี เพราะเขาคือ YouTuber เจ้าของช่อง RackaRacka ที่มีผู้ติดตามล่าสุดอยู่ที่ 6.79 ล้านราย
ทั้งสองเล่าจุดเริ่มต้นของการทำช่อง RackaRacka ว่ามันไม่มีอะไรมากไปกว่าการเป็นวัยรุ่น Gen Y ที่เทคโนโลยีอย่างกล้อง Mini DV เริ่มเข้าถึงง่ายในครัวเรือน แล้วอยู่ในมือของพวกเขาทั้งสอง ฝาแฝดเกรียนนรก เขาก็เริ่มใช้มันเป็นเครื่องมือทดลองความเสี่ยงที่โลกของวิดีโอพอจะเข้าถึง จากการเลียนแบบนักมวยปล้ำที่เขาชื่นชอบ มีความสุขกับการค่อยๆ พาตัวเองสู่การกระโดดพังข้าวพังของ และยิ่งเติบโตขึ้น ดีกรีของการเล่นอะไรแรงๆ ห่ามๆ ก็เพิ่มขึ้นตามวัย การทดลองมาพร้อมกับความเจ็บปวดและเลือดเนื้อตามประสาวัยรุ่นวัยคะนอง
จนกระทั่งทั้งคู่เข้าสู่โลกของ YouTube เขาก็นำความรักความชอบในความรุนแรง แปรเปลี่ยนให้กลายเป็นวิดีโอที่เต็มไปด้วยความเกรียนและความเจ็บปวดรวดร้าว ในช่อง RackaRacka
แต่ในความกาวความคลั่งของแฝดนรกคู่นี้ กลับสอดแทรกความรักในหนังอย่างสุดขีดคลั่ง ด้วยการทำวิดีโอที่มีความเป็นซีเนมาติก พร้อมกับสอดแทรกความเป็น Pop Culture ยำใหญ่ใส่ความรุนแรงแบบฮาร์ดคอร์ ทำให้ช่อง RackaRacka ของพวกเขาเติบโตอย่างรวดเร็วพร้อมกับดราม่าที่มาแบบไม่เว้นวาง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่อง YouTube สุดฮาร์ดคอร์ช่องนี้ สาแก่ใจวัยรุ่น Gen Y และ Gen Z จนกลายเป็นมรดกแห่งวัฒนธรรมของโลกดิจิทัลไปเลย โดยเฉพาะงานช่วงหลังๆ ของเขานั้น ไม่ได้ทำแบบ ‘ถ่ายเอาติด’ แบบ YouTuber สมัครเล่นทั่วๆ ไป แต่เขายังใส่ใจในโปรดักชันการสร้างที่เดินทางคู่ขนานพร้อมกับความกาวได้อย่างเหลือเชื่อ ทำให้บางคลิปเราได้เห็นการขับรถชนกำแพง หรือการแสดงแบบเล่นจริงเจ็บจริง ในหัวข้อที่เต็มไปด้วยความบ้าบอตามแบบฉบับเด็กเกรียน
และด้วยความแตกต่างไม่เหมือนใครของช่องของพวกเขาทั้งสองนี่เอง ในที่สุดวิดีโอเหล่านี้ก็กลายเป็นใบเบิกทางชั้นดีในการได้ทำหนังในเวลาต่อมา
แม้จะแจ้งเกิดในฐานะ YouTuber สายแทงก์ แต่เมื่อได้รับโอกาสให้มาทำหนังใหญ่ เขากลับเลือกที่จะไม่เล่าซ้ำทางเดิมที่เขาเคยเล่าในช่องยูทูบของเขาเอง และการจับจ้องมองสิ่งรอบตัว ก็เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เขาเลือกหยิบมันมาทำเป็นหนัง
แม่ที่ป่วยเป็นซึมเศร้าจากการสูญเสียแม่ของเธอเอง (ที่เป็นยายของสองฝาแฝด) จากการฆ่าตัวตาย คือตะกอนในใจที่ทิ้งไว้ให้กับทั้งสองหยิบความรู้สึกป่วยไข้กับอดีตที่ต้องเยียวยามาเขย่ากับความเชื่อสยอง และการท้าลองดีในแบบที่เขาถนัด นำไปสู่หนังรสชาติใหม่ที่ชื่อ Talk to Me
แน่นอนว่าเมื่อหนังเรื่องนี้ออกฉาย หลายคนที่ปรามาสว่าทั้ง 2 “เป็นแค่ YouTuber กลุ่มหนึ่ง” ต่างก็ต้องหุบปาก ในความเก่งกาจที่สามารถทำหนังสยองขวัญอันซ้ำซากให้กลายเป็นออริจินัลได้ ซ้ำยังเข้าใจฐานแฟนคลับที่คอยลุ้นคอยเชียร์เขาอยู่ด้วยการเปิดเผยทุกซอกมุมของการทำงาน จนทำให้คนดูได้รับรู้ถึงความตั้งใจในการทำงานอย่างครบทุกมุม ทำให้ฝาแฝดฟิลิปโพคือตัวอย่างที่ดีในการนำ 2 สื่อ ทั้ง YouTube และ Movie มารวมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้เขาทั้งคู่กลายเป็นคนทำหนังรุ่นใหม่ และราชาหนังสยองขวัญที่น่าจับตาในอนาคต
ติดตาม BrandThink Cinema ช่องทางอื่นๆ ได้ที่: https://linktr.ee/brandthinkcinema