สิ่งที่เรามักจะได้ยินกันบ่อยๆ จนกลายเป็นความเชื่อฝังหัวกันมาคือ ‘เครียดๆ ต้องกินของหวาน’ จึงแทบจะเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่เรามักจะเห็นหนุ่มสาววัยเรียน วัยทำงาน ถือน้ำหวานกันคนละแก้วเข้าห้องเรียนหรือเข้าออฟฟิศ
แต่หารู้ไม่ เจ้าน้ำตาลเป็นศัตรูตัวร้ายที่อาจส่งผลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจของเราได้เลยนะ!
ในด้านของประสาทวิทยาศาสตร์ได้อธิบาย ไว้ว่า ร่างกายของเรามีสารที่เรียกว่าเซโรโทนินที่ควบคุมระบบต่างๆ ในร่างกายรวมไปถึงระบบประสาทและสมอง ควบคุมความหิว ความโกรธ หรืออารมณ์อื่นๆ ถึงสารโดปามีนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์พึงพอใจ ความสุข
เมื่อไหร่ที่เรารับน้ำตาลเข้าไปในร่างกาย น้ำตาลจะไปทำปฏิกิริยากับสารที่ว่าสองทาง คือ ไปกระตุ้นโดปามีนให้เกิดความสุขแบบชั่วคราวขึ้น แต่หลังจากนั้นพอระดับของมันลดลงจะไปกระตุ้นให้ร่างกายเกิดความรู้สึกด้านลบขึ้นเกือบตลอดเวลา และ เมื่อเราใช้โดปามีนเพื่อกระตุ้นความสุขให้ร่างกายสิ่งนี้จะเป็นการแลกเปลี่ยนกับเซโรโทนินที่ลดลง ซึ่งเจ้าเซโรโทนินมีผลกับเราทางด้านอารมณ์ความรู้สึก ถ้าร่างกายได้รับสารเหล่านี้ในระดับที่ไม่สมดุล อาจสร้างความเสียหายที่ไม่คาดคิดให้แก่ร่างกายของเราได้
ดังนั้นก็เป็นความจริงที่ว่าน้ำตาลสร้างความสุขให้เราได้ แต่มาในระยะเวลาแค่สั้นๆ นั่นเอง
โดยนักวิจัยได้ออกมาเผยถึงความน่ากลัวของเจ้าน้ำตาลตัวร้ายไว้หลายข้อด้วยกัน
1 น้ำตาลเปรียบเหมือนยาเสพติด : ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าน้ำตาลมีเส้นทางการกระตุ้นโดปามีนคล้ายกับยาเสพติด ลองสังเกตจากตัวเองก็ได้หากเรากินน้ำหวานในทุกๆ วัน วันไหนที่เราไม่ได้กินจะรู้สึกหงุดหงิด กระวนกระวาย ซึ่งบางทีต้องใช้ความอดทนอย่างมากในการที่จะไม่กินมัน
2 กินน้ำตาลมากไปเสี่ยงอัลไซเมอร์ : โรคอัลไซเมอร์มีสาเหตุหนึ่งมาจากปริมาณ Amyloid-β ที่มากเกินไป ซึ่งในร่างกายของคนเรามีเอนไซม์ที่คอยกำจัดไอ้เจ้าโปรตีนตัวนี้ และอีกหน้าที่หนึ่งของมันคือทำลายอินซูลิน ถ้าเรากินหวานมากร่างกายก็จะผลิตอินซูลินเพื่อควบคุมน้ำตาล และเอนไซม์ตัวนี้ก็ต้องคอยมาควบคุมปริมาณน้ำตาล ทำให้ไม่สามารถไปควบคุมโปรตีนที่ทำให้สมองเสื่อมได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
3 น้ำตาลเปลี่ยนแปลงไมโครไบโอม : ไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหารนั้นส่งผลต่อการนอนหลับ อารมณ์ ความตื่นกลัว และพฤติกรรมต่างๆ ได้ ซึ่งไมโครไบโอมในร่างกายของคนเรานั้นแตกต่างกันไปตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างการนอนหรือการกิน นักวิจัยพบว่าน้ำตาลจะส่งผลให้ไมโครไบโอมในร่างกายชินกับการรับความหวาน นอกจากจะเสี่ยงมีน้ำหนักที่มากขึ้นแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพใจของเราได้อีกด้วย
4 น้ำตาลส่งผลให้ดื้อเลปติน : ภาวะดื้อเลปตินจะทำให้ร่างกายของเราเกิดอาการหิวตลอดเวลา ซึ่งน้ำตาลก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่สำคัญที่ส่งผลให้ร่างกายเราเกิดสภาวะนี้เช่นกัน นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังพบว่าเลปตินส่งผลกับโรคทางใจของเราอย่าง วิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า ได้เช่นกัน
สุขภาพของเราทั้งกายและใจขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเราทั้งสิ้น การบริโภคที่เราคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เคยทำทุกวัน อาจจะส่งผลต่อสุขภาพกายและใจของเราโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่ใช่ว่าไม่ควรรับน้ำตาลเข้าไปในร่างกายเลยนะ แค่รับเข้าไปในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อสร้างสมดุลให้ร่างกาย และเพื่อสุขภาพที่ดีในวันข้างหน้าด้วยนะ
สำหรับใครที่กำลังถือชานมอยู่ อย่าพึ่งสะดุ้งล่ะ ค่อยๆ ปรับพฤติกรรมตัวเอง ไม่ต้องรีบเร่งเกินไป ทางทีม moody ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้นะ
อ้างอิง
- Sugar May Be Stealing Your Happiness https://bit.ly/2RjivUK