เตรียมพบกับ ‘STYLE Bangkok’ โฉมใหม่ งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟต์ ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยพร้อมดันผู้ประกอบการไทยสู่เวทีโลก
ใกล้เข้ามาแล้วกับงาน ‘STYLE Bangkok 2024’ งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟต์ ระดับนานาชาติ ที่จัดขึ้นครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2560 โดยความร่วมมือของกรมส่งเสริมการค้า ระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) ได้ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (BOT) และภาคเอกชนอีกหลายหน่วยงาน ซึ่งงานนี้ต้องเกริ่นก่อนว่า เป็นงานใหญ่ประจำปีเลยทีเดียว เพราะรวมเอางานแสดงสินค้าถึง 3 งานมาไว้ด้วยกัน! ทั้งงานแสดงสินค้าของขวัญ และงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน อย่าง ‘Bangkok International Gift Fair and Bangkok International Houseware Fair’ (BIG & BIH) งานแสดงสินค้าแฟชั่น และงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง ‘Bangkok International Fashion Fair and Bangkok International Leather Fair’ (BIFF & BIL) และงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ Thailand International Furniture Fair (TIFF) ที่แต่ละงานก็ล้วนแต่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ การรวมทั้ง 3 งาน เข้าด้วยกันจึงทำให้งาน STYLE Bangkok เกิดพลังในการขยายฐานลูกค้าและส่งออกสินค้ามากขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย ถือเป็นงานใหญ่และมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติเลย
และนอกจากความยิ่งใหญ่ของการจัดแสดงสินค้าแล้ว งานนี้ยังมีความสำคัญอีกอย่างคือ เป็นเวทีเจรจาการค้าระหว่าง ผู้แสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟต์ เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้นำเข้า (Importer) และผู้ซื้อ (Buyer) ทั้งจากต่างประเทศ และในประเทศด้วย โดยในปีนี้ จากการสัมภาษณ์
คุณภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ก็ทำให้ได้ทราบว่า ในปีนี้งาน STYLE Bangkok จะมีการปรับเปลี่ยนธีมให้ต่างจากปีก่อนๆ เล็กน้อย โดยจะมาในคอนเซ็ปต์ ‘Chicnature’ จัดแสดงสินค้าที่ทันสมัย เก๋ ชิค และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ทุกคนสามารถเลือกตามสไตล์ที่ชอบได้
และในปีนี้ยังคงต่อเนื่องกับเรื่องของความยั่งยืน (Sustainability) ที่ถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ในเวลานี้ โดยคุณภูสิตได้กล่าวถึงงานนี้ไว้ว่า “งาน STYLE Bangkok 2024 นี้ ได้รวบรวมผู้ประกอบการไทย หลากหลายอุตสาหกรรม และมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกัน จึงมีการจัดงานภายใต้แนวคิด Sustainability และปีนี้ยังได้เพิ่มเรื่อง ESG ที่มีเป้าหมายมุ่งสู่งการใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลด้วย”
แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะผลักดันเรื่องของความยั่งยืนควบคู่ไปกับการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลกไปด้วยกัน
เนื่องจากในตอนนี้แม้สถานการณ์การค้าในปัจจุบันจะทำให้สินค้าไทยต้องเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่สูงมาก แต่คุณภูสิตก็เชื่อว่า ผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพในการปรับตัวและจะทำให้การส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์ และแฟชั่นเติบโตขึ้นได้ ที่ผ่านมาสินค้าที่มีอัตราการส่งออกขยายตัว อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องนุ่งห่ม ผ้าผืน เส้นด้าย และเส้นใยประดิษฐ์ และมีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน ออสเตรเลีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งก็เป็นโอกาสเหมาะที่หน่วยงานรัฐ อย่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถ ของเหล่าผู้ประกอบการ เพื่อให้แข่งขันในตลาดโลกได้ โดยการร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดงานแสดงสินค้า STYLE Bangkok ร่วมกันเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา เพื่อผลักดันงานนี้ให้เป็นงานแฟร์แถวหน้าของเอเชีย และเป็นเวทีที่จะให้โอกาสผู้ประกอบการไทย ได้แสดงศักยภาพของสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟต์ ฝีมือของคนไทย ที่สามารถตอบสนองตลาดโลกได้
นอกจากนี้ คุณสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยังเชื่อว่างานแสดงสินค้า STYLE Bangkok ในครั้งนี้จะทำให้ผู้ประกอบการชาวไทยได้เจรจาการค้ากับคู่ค้าสำคัญจากทั่วโลก เพิ่มมูลค่าการส่งออก สินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟต์ของไทยไปจนถึงการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ให้เติบโตด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จึงช่วยสนับสนุนงานแสดงสินค้า STYLE Bangkok ให้ดีขึ้น ในทุกๆ ด้าน ทั้งการดึงเครือข่ายผู้ประกอบการมาเข้าร่วมงาน พัฒนาระบบรับสมัครเข้าร่วมงานแบบออนไลน์ ประชาสัมพันธ์งานในปีนี้ ไปจนถึงการสร้างความหลากหลายให้กับสินค้าภายในงานด้วย และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ ปีนี้ งาน STYLE Bangkok ยังคงจัดที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่จัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติสุดชิค ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ทำให้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 20,000 ราย สร้างมูลค่าการซื้อขายกว่า 1,600 ล้านบาท
จากการสัมภาษณ์คุณภูสิต ยังทำให้ทราบอีกว่า งาน STYLE Bangkok ในปีนี้ จะขยายโอกาสทางการค้า ระหว่างประเทศของผู้ประกอบการสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟต์ไทยได้อย่างมหาศาล โดยคุณภูสิตกล่าวว่า
“งานในครั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั้ง 58 แห่งทั่วโลก ได้เชิญชวนผู้นำเข้าจากต่างประเทศ มาเข้าชมงาน เพื่อเลือกซื้อสินค้าส่งออกของไทย และยังได้บูรณาการกับพาณิชย์จังหวัด เพื่อเชิญชวนผู้ประกอบการจากจังหวัดต่าง ๆ ให้นำสินค้ามาจัดแสดงในงานนี้ เราจะได้เห็นการพัฒนาสินค้า ของผู้ประกอบการไทยที่สามารถออกแบบและผลิตสินค้าเพื่อตอบโจทย์เทรนด์ตลาดโลกได้ทุกรูปแบบ”
ไม่เพียงเท่านั้น งานนี้ยังมีจุดประสงค์สำคัญที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและการส่งออก สินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นที่มีคุณภาพของภูมิภาคอาเซียน และผลักดันให้งาน STYLE Bangkok เป็นงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟต์ ระดับนานาชาติ ที่ตอบสนองทุกความต้องการของผู้ซื้อ และผู้ขายในอุตสาหกรรม รวมทั้งเป็นเวทีที่ผู้ซื้อและผู้ขายจะได้พบปะ เจรจาธุรกิจ แลกเปลี่ยนความรู้ อัปเดตเทรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟต์ และได้รับการยอมรับ ในระดับนานาชาติอีกด้วย
นับว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสดี ๆ ของผู้ประกอบการไทย ที่ได้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาสนับสนุนให้คนไทยได้มีเวทีในการปล่อยของ และแสดงศักยภาพกันอย่างเต็มที่
โดยงานนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 มีนาคม 2567 ณ ฮอลล์ 1-4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเปิดวันเจรจาธุรกิจในวันที่ 20-22 มีนาคม 2567 และวันจำหน่ายปลีกสำหรับประชาชนทั่วไป 23-24 มีนาคม 2567 ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการหรือบุคคลทั่วไปที่อยากไปเดินชมสินค้าคุณภาพของคนไทย ก็ห้ามพลาด เพราะโอกาสดี ๆ แบบนี้ จัดขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้น!