ข่าวที่ชวนให้คนอ่านรู้สึกจุกในอกมากที่สุด เชื่อว่าข่าว ‘แม่ขโมยนมให้ลูก’ ถือเป็นหนึ่งในนั้น ยิ่งเมื่อลองเสิร์ชดูย้อนหลังพบว่าเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี บางปีมีหลายเหตุการณ์ ซึ่งต้นเหตุมักมีหลายปัญหาทับซ้อนอยู่เบื้องหลัง
ข่าวล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (17 กรกฎาคม 2565) ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ จับกุมหญิงอายุ 51 ปี ชาวศรีสะเกษ ได้ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในตำบลน้ำคำ พบของกลางเป็นนมวัว 3 กล่อง กล่องละ 13 บาท รวมมูลค่าของกลาง 39 บาท
สอบถามได้ความว่า หญิงคนดังกล่าวทำทีเข้ามาเลือกซื้อของเวลาประมาณ 21.30 น. แต่ถือกระเป๋าเข้ามาด้วยท่าทางพิรุธ ผู้จัดการร้านจึงขอตรวจค้นก่อนพบว่าซุกซ่อนนม 3 กล่องไว้ในกระเป๋า จึงคุมตัวไว้ ก่อนแจ้งตำรวจให้มานำตัวไปดำเนินคดี
ต่อมา ร.ต.อ.ไพบูลย์ คุณสาร รอง สวป. สภ.เมืองศรีสะเกษ หัวหน้าชุดสายตรวจ เห็นว่ามูลค่าของกลางไม่มาก และหญิงคนดังกล่าวแต่งกายในสภาพเนื้อตัวมอมแมม คาดว่าจะเป็นคนยากจน ทั้งยังรับสารภาพเบื้องต้นว่าขโมยนมกล่องดังกล่าวไปให้ลูกสาวอายุ 15 ปีที่เป็นเด็กพิเศษพัฒนาการล่าช้า จึงคิดจะควักเงินส่วนตัวจ่ายคืนให้ทางร้านโดยไม่ต้องดำเนินคดี แต่ทางผู้จัดการร้านไม่ยินยอม เพราะผู้หญิงคนดังกล่าวขโมยของที่ร้านเป็นหนที่ 4 แล้ว สุดท้ายจำเป็นต้องควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้เป็นแม่วัย 51 ปีให้ปากคำกับตำรวจว่า ตัวเองมีเงินติดตัวอยู่ 100 บาท แล้วลูกบอกว่าหิวข้าว จึงอยากซื้อนมไปให้ลูกกิน 3 กล่อง แต่ถ้าใช้เงินที่มีอยู่ พรุ่งนี้ก็จะไม่มีกิน จึงอยากเก็บเงินไว้ซื้อข้าวให้ลูกกินวันพรุ่งนี้ จึงตัดสินใจขโมยนม 3 กล่อง เธอยอมรับว่าเป็นการกระทำที่แย่ ตอนถูกจับได้รู้สึกตกใจและเสียใจมาก สงสารแม่กับพี่ และลูกสาวที่จะไม่มีคนเลี้ยงดู
คุณแม่รายนี้เล่าว่า ลูกสาวอายุ 15 ปีแล้ว เป็นเด็กพิเศษที่มีพัฒนาการทางสมองล่าช้า เรียนหนังสือไม่ทันเพื่อน หลังหย่าร้างกับสามีจึงต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ตามปกติลูกต้องเรียนชั้น ม.4 แต่ขณะนี้ยังเรียนอยู่ชั้น ม.2 เวลาไปโรงเรียนก็จะถูกเพื่อนล้อเป็นประจำทุกวัน บางวันเคยถูกเพื่อนแกล้งขังไว้ในห้องน้ำ ถูกขโมยรองเท้า ทำให้ลูกสาวไม่อยากไปเรียนหนังสือและหยุดเรียน
ผู้เป็นแม่พนมมือไหว้พร้อมกล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า กราบขอโทษเจ้าของร้านสะดวกซื้อที่เข้าไปขโมยนมกล่อง 3 กล่อง เพื่อต้องการเอาไปให้ลูกดื่ม ตนยอมรับผิด และได้รับปากกับ ร.ต.อ.ไพบูลย์ ที่จะจ่ายเงินค่านมให้ทางร้านสะดวกซื้อแทนตนว่า จะไม่กระทำผิดอีก
มีรายงานว่า ขณะนี้หญิงคนดังกล่าวได้รับการปล่อยตัวแล้ว เนื่องจากพนักงานสอบสวนเห็นว่ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และทรัพย์สินที่ลักขโมยไปมีมูลค่าเล็กน้อยเพียง 39 บาท หากประกันตัวไปไม่น่าจะทำให้พยานหลักฐานยุ่งเหยิงและเสียรูปคดี แต่สั่งให้มารายงานตัวตามนัด ซึ่งตำรวจก็เตือนว่า คดีลักทรัพย์เป็นคดีอาญาแผ่นดิน และการลักทรัพย์ในเวลากลางคืนมีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี
อย่างไรก็ตาม ข่าวแม่ขโมยนมให้ลูกกินเป็น ‘หนังฉายซ้ำ’ ที่ชวนให้สังคมจุกอกอยู่บ่อยๆ หากค้นหาข่าวเก่าพบว่าเกิดขึ้นทุกปี เช่นปี 2562 ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ ควบคุมตัวแม่ชาวศรีสะเกษ วัย 35 ปี พร้อมของกลางเป็นรองเท้านักเรียนหญิง 1 คู่ แบรนด์วีต้า 2 แพ็ค และผงหมักปรุงรส เนื่องจากสามีที่เป็น รปภ. ตกงาน ส่วนตัวเองไม่มีวุฒิการศึกษา หางานทำก็ไม่มีที่ไหนรับ แถมมีลูก 4 คน เมื่อคนเล็ก 5 ขวบอยากกินนม เธอจึงตัดสินใจขโมยของ
ปี 2563 ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ จับกุมสองสามีภรรยาก่อเหตุขโมยนมผงสำหรับเด็ก 8 กล่องในห้างโลตัส สาขาหางดง ก่อนส่งไปให้ลูกวัย 8 เดือน ที่ฝากแม่เลี้ยงที่ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยสารภาพว่า ถูกพิษโควิด-19 เล่นงานทำให้ขาดรายได้
แน่นอนว่า การลักทรัพย์เป็นคดีอาญาแผ่นดิน แต่หลายข่าวมีเบื้องหลังของเหตุการณ์ที่ทับซ้อนกันหลายเรื่อง เช่น ความยากจน ความเหลื่อมล้ำ การดูแลเด็กพิเศษในครอบครัวรายได้ต่ำ การว่างงาน และภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อ ล้วนซ้ำเติมคนยากคนจนอย่างหนัก ซึ่งปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อของไทยอยู่ที่ 7.66 เปอร์เซ็นต์ เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 5.9 เปอร์เซ็นต์ นับว่าสูงที่สุดในรอบ 24 ปี
เชื่อว่าเหตุการณ์ที่ชวนจุกอกเช่นนี้อาจถูกฉายซ้ำอีกเรื่อยๆ
อ้างอิง
- ดราม่า! เปิดใจ แม่ “ขโมยนมกล่อง” ให้ลูกกินครั้งที่ 4 ถูกจับ ล่าสุด ตร. สั่งปล่อยตัว https://www.bangkokbiznews.com/news/1015897
- แม่ลูก 4 จำใจขโมยของห้างย่านสำโรง ตัดพ้อชีวิต ไม่มีเงินแม้ซื้อนมให้ลูก https://www.sanook.com/news/7848347/
- รวบผัวเมียลักนมผงเลี้ยงลูก 8 เดือน แม่ปล่อยโฮไม่รู้ลูกเป็นโจร เผยพิษโควิด-19 ทำตกงาน www.amarintv.com/news/detail/58169