จะอดอาหารประท้วงไปทำไม? ถ้าคนที่ควรรับฟังข้อเรียกร้อง ‘ไม่แคร์’ ที่จริงมีเหตุผลที่มากกว่านั้น
อยากรู้แต่ไม่มีเวลา อ่านแค่ตรงนี้พอ
สำหรับนักสันติวิธี ‘การอดอาหารประท้วง’ ก็คือการต่อสู้โดยไม่ใช้ความรุนแรงอย่างหนึ่ง แต่ในประเทศที่ถูกเรียกว่า ‘เมืองพุทธ’ อาจมองว่านี่คือการทำร้ายตัวเองคนที่รู้เห็นควรห้ามปรามและบางคนก็มองว่าวิธีนี้ไม่มีประโยชน์เพราะคนที่ถูกเรียกร้องอาจจะไม่สนใจไยดีความเป็นความตายของคนที่ประท้วงแต่คนที่เคยใช้วิธีนี้มองว่านี่คือการยืนยันเจตจำนงและสื่อสารให้โลกภายนอกช่วยกดดันอีกแรงหนึ่ง
การอดอาหารประท้วงส่วนใหญ่ในโลกมักจะเกิดขึ้นภายใน ‘คุก’
เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะคุกคือสถานที่จองจำคนให้สูญสิ้นอิสรภาพในด้านต่างๆ จนไม่เหลือวิธีการอะไรอย่างอื่น ที่จะใช้ยืนยันความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้ของตัวเองได้นอกจากการอดอาหาร
คนที่ใช้วิธีนี้แล้วคนทั่วโลกจดจำได้มากสุดก็คงหนีไม่พ้น ‘มหาตมะ คานธี’ ผู้เป็นสัญลักษณ์การต่อสู้ด้วยแนวทางสันติวิธีและรัฐบุรุษชาวอินเดียที่ต่อต้านอาณานิคมอังกฤษ เขาอดอาหารหลายครั้ง ทั้งในคุกและนอกคุก เพื่อเรียกร้องเรื่องสิทธิและเสรีภาพต่างๆ ก่อนอินเดียจะได้รับอิสรภาพในปี 1948
หลังจากนั้นก็มีการอดอาหารประท้วงของชาวไอริชที่ถูกจับกุมในอังกฤษด้วยข้อหาเป็นแนวร่วมกลุ่มแบ่งแยกดินแดน IRA ในยุค 1970-1980 และผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์ที่ถูกจับเพราะต่อต้านการก่อตั้งนิคมของชาวอิสราเอลในดินแดนที่เป็นข้อพิพาท รวมถึงผู้ประท้วงชาวอียิปต์ที่ถูกจับกุมหลังจากต่อต้านการรัฐประหาร ซึ่งก็มีหลายคนที่เสียชีวิต
ขณะที่ ‘อเล็กเซ นาวาลนี’ (Alexei Navalny) ผู้นำฝ่ายค้านรัสเซียที่ถูกกล่าวหาด้วยข้อหาทางการเงินจนถูกจับขังคุกแต่สุดท้ายก็ไม่มีหลักฐานเอาผิดเขาในข้อหานี้ได้ระหว่างถูกคุมขังเขาอดอาหารประท้วงจนสุขภาพย่ำแย่และถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล
และก็มี ‘อีรอม ชาร์มิลา’ (Irom Sharmila) นักต่อสู้หญิงในรัฐมณีปุระของอินเดีย ซึ่งถูกจับเข้าคุกข้อหาต่อต้านกองกำลังทหารในพื้นที่ และอดอาหารประท้วงจนทางการต้องบังคับให้สารอาหารทางสายยาง แม้จะถูกปล่อยตัวแล้วเธอก็ยังเผชิญปัญหาสุขภาพเรื้อรังจากการอดอาหารนานหลายปี
ทั้งหมดนี้คือการต่อสู้เรียกร้องทางการเมือง ที่มีทั้งความล้มเหลวและความสำเร็จ ซึ่งทำให้นักวิชาการที่ศึกษาเรื่องแนวทางสันติวิธีสรุปคราวๆ ว่า วิธีนี้จะใช้ได้ผลก็ต่อเมื่อผู้มีอำนาจที่ถูกยื่นข้อเรียกร้องยอมรับฟัง ไม่ว่าจะเพราะเห็นแก่หลักมนุษยธรรมหรือเพราะกลัวจะเสียภาพลักษณ์ก็ตาม อย่างกรณีของคานธี ถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลทางสังคมคนหนึ่งในยุคนั้น ทำให้อังกฤษต้องยอมถอยให้ในบางครั้งเพราะกลัวจะเกิดการลุกฮือต่อต้านที่รุนแรงกว่าเดิม
แต่ถ้าผู้มีอำนาจที่ถูกเรียกร้อง ‘ไม่สนใจ’ การต่อสู้ด้วยวิธีนี้ก็อาจจะมีความสูญเสียเกิดขึ้นจริง ยกตัวอย่างประเทศที่เป็นเผด็จการอย่างอียิปต์ รวมถึงดินแดนข้อพิพาทอย่างอิสราเอล–ปาเลสไตน์ แม้แต่อังกฤษในยุคนายกรัฐมนตรี มาร์กาเร็ต แธตเชอร์ (Margaret Thatcher) ที่ปฏิเสธข้อเรียกร้องของ ‘บ็อบบี แซนด์ส’ (Bobby Sands) สมาชิก IRA ที่ยืนยันจะให้เรียกตัวเขาว่า ‘นักโทษการเมือง’ ไม่ใช่ ‘ผู้ก่อการร้าย’ แต่สุดท้ายแซนด์สก็ตายในคุก (และทำให้เกิดการก่อเหตุรุนแรงจากแนวร่วม IRA ตามมาอีกหลายครั้ง)
การอดอาหารประท้วงจึงไม่ใช่แค่การเรียกร้องหรือต่อรองระหว่างผู้ประท้วงกับคู่กรณีที่มักจะเป็นฝ่ายผู้มีอำนาจ แต่ขึ้นอยู่กับว่า ‘โลกภายนอก’ จะหันมาสนใจและเข้าใจประเด็นที่ผู้ประท้วงกำลังสื่อสารและหันมาร่วมกดดันคนที่มีอำนาจอีกแรงหนึ่งหรือไม่
เหตุผลนี้ถูกยืนยันโดย ‘เนลสัน แมนเดลา’ (Nelson Mandela) อดีตผู้นำแอฟริกาใต้และนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนที่ต่อต้านนโยบายเหยียดผิว ซึ่งก็เป็นคนหนึ่งที่เคยอดอาหารประท้วงในคุกตอนที่ถูกจับกุมด้วยข้อหาทางการเมือง โดยแมนเดลาเคยเขียนบันทึกถึงเรื่องนี้เอาไว้ และสุดท้ายก็ถูกนำไปพูดถึงในหนังสือชีวประวัติของเขาเอง
“การอดอาหารประท้วงจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อโลกภายนอกตระหนักรู้ในเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นแล้วผู้ถูกคุมขังก็จะทำได้แค่อดอาหารจนตัวเองตายไปอย่างเงียบๆ โดยไม่มีใครรู้”
ย้อนกลับมาดูที่ประเทศไทย เคยมีการอดอาหารประท้วงเพื่ออุดมการณ์ทางการเมืองมาก่อนแล้ว โดยที่เป็นข่าวครั้งแรกๆ อยู่ในยุคทศวรรษ 2530 โดย ร.ต.ฉลาด วรฉัตร อดอาหารประท้วงต่อต้านรัฐประหาร และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อดอาหารประท้วงให้ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ผู้นำรัฐประหาร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
พอก้าวเข้าสู่ยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีการอดอาหารประท้วงโดยนักกิจกรรมทางการเมืองหลายรายที่ถูกจับกุมด้วยข้อหาเกี่ยวกับความมั่นคงและกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยล่าสุดคือ ‘ตะวัน’ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ ‘แบม’ อรวรรณ ภู่พงศ์ ที่ถอนประกันตัวเองไปเมื่อกลางเดือนมกราคม เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมืองและปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
แม้ว่ารัฐบาลไทยจะย้ำกับนานาชาติอยู่เสมอว่า นี่เป็นการทำตามกฎหมาย แต่กฎหมายที่ถูกอ้างถึงกลับถูกมองอย่างวิตกกังวลในเวทีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ถึงขนาดที่มีข้อเรียกร้องจากนานาชาติให้รัฐบาลไทยทบทวนปรับแก้ หลังจากมีเยาวชนจำนวนมากถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกทางการเมืองที่เป็นสิทธิพื้นฐานของพลเมือง และเกือบทั้งหมดก็ไม่ได้เข้าข่ายการใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด
อ้างอิง
- TLHR2014. แค่ไหนจึงจะถือว่าเป็นการอดอาหารประท้วง? https://bit.ly/3DczfBM
- Teen Vogue. Hunger Strikes: How Do They Work and Are They Effective? https://bit.ly/3Wx8dfw
- RFERL. Anatomy Of A Hunger Strike: Why Is It Done And What Does It Do To The Human Body? https://bit.ly/3Rh4ZMd
- USC Dornsife. Inmates’ hunger strikes take powerful stands against injustice. https://bit.ly/3j2g5YC