‘ฟองน้ำทะเล’ สิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ถึงคราวสิ้นสูญในวันมนุษย์เป็นใหญ่

2 Min
1303 Views
12 Jul 2022

ฟองน้ำทะเลเป็นสิ่งมีชีวิตในทะเลอีกชนิดที่อยู่ยืนยงคู่โลกมานาน ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 600 ล้านปีก่อน เคยครอบครองอาณาจักรมหาสมุทรมาพร้อมๆ กับปะการัง ก่อนจะมีสัตว์ชนิดต่างๆ วิวัฒนาการตามมาอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

หากมองด้วยตา เราอาจเห็นฟองน้ำทะเลเหมือนหินเหมือนปะการัง แต่จริงๆ แล้วฟองน้ำทะเลเป็นสัตว์ที่ตัวนิ่ม และร่างกายมีความยืดหยุ่นสูง สามารถคืนรูปทรงได้เหมือนกับฟองน้ำที่เราใช้กันทั่วไปในครัวเรือน

แต่เห็นนิ่มๆ อย่างนั้น จริงๆ แล้วฟองน้ำทะเลเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่อายุยืนทีเดียว จากประมาณ 8,550 สปีชีส์ที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน บางสปีชีส์มีอายุอย่างต่ำๆ ก็ 500 ปี หรือบางชนิดมีอายุขัยมากถึง 15,000 ปี ซึ่งเกิดมาในช่วงที่แมมมอธยังเดินทอดน่องไปทั่วแผ่นดิน จนสัตว์ยักษ์สูญพันธุ์ไปแล้ว แต่ฟองน้ำทะเลตัวนั้นก็ยังไม่ตาย

และที่น่าสนใจยิ่งกว่า คือความอยู่ทนแทบไม่หวั่นไหวต่อความเปลี่ยนแปลงรอบตัว เป็นต้นว่าปะการังทั่วทั้งเกรตแบร์ริเออร์รีฟที่ถูกความร้อนฟอกจนกลายเป็นสีขาวโพลน พวกฟองน้ำทะเลก็ยังอวดโฉมด้วยสีสันสดใสอย่างไม่สะท้านสะเทือนแม้แต่นิด

แต่สิ่งใดเล่าจะทานต้านความเปลี่ยนแปลงที่มนุษย์ก่อ ในที่สุดฟองน้ำทะเลแห่งนิวซีแลนด์ก็ถึงคราวม้วยมรณา

ทีมนักวิจัยจาก Victoria University of Wellington ในนิวซีแลนด์ เผยว่า ได้พบปรากฏการณ์ฟองน้ำทะเลฟอกขาวเป็นครั้งแรก ในหลายจุดของน่านน้ำนิวซีแลนด์ โดยในรายละเอียดระบุว่า บางแห่งฟองน้ำทะเลฟอกขาวไปมากถึง 95 เปอร์เซ็นต์ หรือนับเป็นจำนวนหลายล้านตัว 

ถือเป็นการฟอกขาวของฟองน้ำทะเลครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบ

ทีมนักวิจัยค่อนข้างมั่นใจว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มนุษย์เป็นผู้ก่อ ส่งผลให้น้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้น 

โดยเฉพาะน่านน้ำหลายแห่งของนิวซีแลนด์ มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติราวๆ 2.6 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าอุ่นขึ้นมากๆ (ตามปกติน้ำทะเลร้อนขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส ปะการังก็ไม่รอดแล้ว)

สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ว่า ปี 2021 น้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นปีที่น้ำในมหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงที่สุดนับแต่มีการบันทึกสถิติในยุคปัจจุบัน 

และก็เป็นปีที่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่พากันออกมาย้ำนักย้ำหนาว่า การปล่อยเชื้อเพลิงฟอสซิลจากกิจกรรมของคนเรานี่ล่ะ ที่ทำให้อุณหภูมิโลกและน้ำในมหาสมุทรร้อนมาถึงจุดนี้

รวมถึงยังสอดคล้องกับปรากฏการณ์ฟอกขาวของปะการังหลายแห่ง โดยเฉพาะที่เกรตแบร์ริเออร์รีฟ ที่กลับมาฟอกขาวอย่างรุนแรงอีกครั้งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

เรื่องนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ เมื่อสิ่งมีชีวิตที่ทนต่อการเปลี่ยนแปลงได้ดีอย่างฟองน้ำทะเลยังสู้ไม่ได้ก็นับประสาอะไรกับบรรดาสัตว์ที่เซนซิทีฟกว่า หรือสัตว์ที่ต้องพึ่งพาฟองน้ำทะเลเพื่อการดำรงชีวิต

ความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้ย่อมส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตจำนวนมากอย่างแน่นอน เพราะโดยบทบาททางธรรมชาติ ฟองน้ำทะเลก็มีหน้าที่แบบเดียวกับปะการัง

ฟองน้ำทะเลมีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเลในแง่การปรับปรุงคุณภาพน้ำทะเลให้ใสสะอาด ช่วยกำจัดตะกอนขนาดเล็ก และลดปริมาณตะกอนสารอินทรีย์ในน้ำ เปรียบเสมือนกับเครื่องกรองน้ำทางชีวภาพที่สำคัญ 

และบทบาทที่ไม่อาจละเลยได้ คือการเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยย่อย (microhabitat) ให้กับสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอื่นๆ เช่น กุ้ง ปู หอย และไส้เดือนทะเล ได้หลบซ่อนภัยจากศัตรู รวมถึงเป็นแหล่งอาหาร

ทีมวิจัยอธิบายว่า เหตุการณ์ฟอกขาวครั้งใหญ่ชี้ให้เห็นอีกครั้งว่า มหาสมุทรกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

และเราควรเข้าใจได้แล้วว่านี่เป็นสัญญาณเตือนภัย เราต้องเร่งแก้ไขทันที ไม่ใช่รอทำในอีก 10 หรือ 15 ปีข้างหน้า 

เพราะเมื่อถึงเวลานั้นมันก็สายเกินไป และเราจะสูญเสียระบบนิเวศและสายพันธุ์ทั้งหมด

อ้างอิง