‘Saw X’ Splatter Movie ที่มีดีมากกว่าความ ‘Splatter’
Saw เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์หนังที่อยู่มายาวนานที่สุดแฟรนไชส์หนึ่งของฮอลลีวูด แนว Splatter Movie ซึ่งเป็นประเภทแยกย่อยลงไปของ Horror Movie
หลังจากที่ได้เห็นแฟรนไชส์หนังดังเรื่อง ‘Saw X’ เผยโปสเตอร์ใหม่ ก็ทำให้เราที่ไม่เคยรู้ว่ามันมีการสร้างภาคที่ 10 นี้มาก่อน รู้สึกแก่และเซอร์ไพรส์อยู่นิด ๆ ที่มันเดินทางมาได้ไกลถึงวันนี้ จากยุคสมัยที่เรายังเด็กเกินกว่าจะชอบเนื้อหาใดๆ ของหนังประเภท ‘ปิดตาดู’ นี้ มาจนถึงขั้นพอดูได้ และในที่สุดก็คือดูแล้วเอ็นจอยไปกับมันได้ด้วย เรียกได้ว่าตัวแฟรนไชส์เองก็เติบโตไปกับแฟนหนังเหมือนกันนั่นล่ะ แต่อะไรที่ทำให้มันเดินทางมาได้ถึงวันนี้กันนะ?
Saw เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์หนังที่อยู่มายาวนานที่สุดแฟรนไชส์หนึ่งของฮอลลีวูด แนว Splatter Movie ซึ่งเป็นประเภทแยกย่อยลงไปของ Horror Movie หรือ หนังสยองขวัญทั่วไป โดยหนัง Splatter คือหนังที่มีฉากรุนแรงและเลือดสาด ตลอดจนแสดงถึงความเปราะบางของร่างกายและชีวิตมนุษย์ บางครั้งหนังประเภทนี้จะถูกเรียกด้วยถ้อยคำอย่าง Torture Porn ซึ่งเป็นการลดคุณค่าของหนังให้เหลือเพียงมิติการทรมานตัวละครเหยื่อเพียงอย่างเดียว
แต่สื่อฮอลลีวูดบางสำนักให้ความเห็นว่า การที่แฟรนไชส์หนังประเภทนี้ยืนระยะได้นานขนาดนี้ คอหนังควรต้องมองมันเป็นมากกว่า ‘หนังเลือดสาด’ และมองในพาร์ตสืบสวนสอบสวน หรือประเด็นอื่น เช่น คอร์รัปชัน และความเกี่ยวข้องระหว่างตำรวจ เหยื่อ และผู้ต้องหาในเรื่องด้วย ไม่ควรมองเป็น Splatter Movie หรือ Torture Porn ที่มักเน้นการทรมานเหยื่อเป็นหลัก และความสมเหตุสมเหตุอื่นๆ เป็นรอง หรือไม่ให้ความสำคัญกับเนื้อเรื่องเลย
แน่นอนว่าผลงานแต่ละภาคของแฟรนไชส์ Saw นี้ ไม่ได้ทำออกมาลงตัวเสียทั้งหมด บางภาคก็มีเส้นเรื่องที่น่ากังขาและเต็มไปด้วยช่องโหว่ แต่ในฐานะคนดู เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแฟรนไชส์พยายามเติบโตและหาลูกเล่นใหม่ๆ อยู่เสมอ จนมาถึงจุดที่มีการสร้างหนังภาค 10 ขึ้น และเกือบครบรอบ 10 ปี ของการเปิดตัวแฟรนไชส์พอดี
มาถึง Saw X คราวนี้ กำกับโดย เควิน กรูเทิร์ต (Kevin Greutert) ที่เคยกำกับ ‘Saw VI’ และ ‘Saw: The Final Chapter’ มาแล้ว บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่าง ‘Saw ‘I กับ ‘Saw II’ เมื่อตัวละครเบื้องหลังฆาตกรจิ๊กซอว์อย่าง จอห์น เครเมอร์ (John Kramer) ที่กำลังป่วยหนักและอาจต้องจบชีวิต เดินทางไปยังเม็กซิโกเพื่อรักษามะเร็ง หวังจะให้มีปาฏิหาริย์รักษาชีวิตไว้ได้
แต่ทุกอย่างกลายเป็นละครตบตาจากขบวนการต้มตุ๋น และเขาไม่เคยได้รับการรักษาเลยแม้แต่นิดเดียว ความแค้นนี้ทำให้เขาต้องหาวิธีสะสางกับคนที่มาเอาเปรียบให้ครบถ้วนทุกคน และแล้วบททดสอบสุดวิปริตกว่าครั้งไหนๆ ก็เริ่มต้นขึ้น
ผู้กำกับ เควิน กรูเทิร์ต บอกว่า ภาคนี้จะไม่เน้นไปที่ความโหดเลือดสาดเหมือนภาคที่ผ่านๆ มา แต่จะมุ่งไปที่การเพิ่มความน่าเชื่อ ความสมจริง ให้กับสถานการณ์ในเรื่อง คล้ายจะให้มัน ‘อุดรอยรั่ว’ ของหนังภาคแรกๆ ที่ไม่ค่อยรัดกุมรอบคอบนักนั่นล่ะ
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือ การที่หนังเลือกจะบอกเล่าผ่านมุมมองของ จอห์น เครเมอร์ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน คนดูจะมีโอกาสเห็นเขาคนนี้ ‘เป็นมนุษย์’ จริงๆ และได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา จากเดิมที่เคยแต่โฟกัสที่เหยื่อในห้องเชือด และเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหยื่อทั้งหลายเป็นหลัก และคราวนี้ Saw X จะ ‘เป็นมากกว่าหนังสำหรับคอหนังโหด’ แน่นอน
Saw X เข้าฉาย 28 กันยายน นี้
บทความที่คุณอาจสนใจ:
หนีก็ตาย ไม่หนีก็ตาย ทาบทับความแปลกแยกในกองทัพ จากซีรีส์ D.P. 2 และหนัง Soldier’s Girl
อ้างอิง:
The Longest Running Movie Franchises of All Time https://www.ign.com/articles/the-longest-running-movie-franchises
Torture Isn’t What Makes the ‘Saw’ Movies Good, This Is https://collider.com/saw-movies-more-than-torture/
Horror Film https://libguides.uky.edu/horrorfilms/splatter
WHAT IS SPLATTER FILM AND WHY IS IT POPULAR? https://beverlyboy.com/filmmaking/what-is-splatter-film-and-why-is-it-popular/
ติดตาม BrandThink Cinema ช่องทางอื่นๆ ได้ที่: https://linktr.ee/brandthinkcinema