2 Min

ทำไมวาฬสเปิร์มถูกเรียกว่า ‘สเปิร์ม’

2 Min
6335 Views
03 Feb 2022

Sperm wale | genevaenvironmentnetwork

วาฬสเปิร์ม (Sperm wale) หรือ ‘วาฬหัวทุย’ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดตัวหนึ่ง มันเป็นวาฬที่มีฟันขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และมีส่วนหัวใหญ่โตเกือบครึ่งของลำตัว มีสมองใหญ่ที่สุดในอาณาจักรสัตว์ แถมยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ส่งเสียงได้ดังที่สุดในโลกด้วย ด้วยขนาดตัวโตกว่า 15-16 เมตร เสียงของมันสามารถเปล่งออกมาได้ดังกว่า 100 เดซิเบล พูดง่ายๆ ว่าถ้าอยู่ใกล้ๆ ก็สามารถพังแก้วหูของมนุษย์ได้

วาฬสเปิร์มเป็นที่รู้จักของผู้คนมานานถึงขั้นเคยมีตำนานของตัวเองอย่าง โมบี้ ดิ๊ก (Moby Dick) วาฬยักษ์สีขาวที่กลายเป็นนวนิยายคลาสสิก ดังนั้นมนุษย์รู้จักคุ้นเคยกับวาฬชนิดนี้อย่างดี แต่เคยมีใครสงสัยไหมว่าสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์นี้ทำไมถูกเรียกว่าสเปิร์ม เกี่ยวอะไรกับสเปิร์มหรือน้ำอสุจิของมันรึเปล่า?

ถ้าคุณคิดว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่สเปิร์มใหญ่ที่สุดใสโลกตามขนาดตัว ขอแสดงความผิดหวัง อันที่จริงแล้วชื่อสเปิร์มของมันไม่เกี่ยวอะไรกับตัววาฬสเปิร์มแม้แต่นิดเดียว

ชื่อวาฬสเปิร์มเกิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 หรือช่วงที่เป็นยุคทองของการล่าวาฬเชิงพาณิชย์ในยุโรป เพราะก่อนที่มนุษย์เราจะเรียนรู้การขุดปิโตรเลียมจากฟอสซิลใต้ชั้นดินมาใช้ เราเคยล่าเอาไขจากสัตว์เพื่อเป็นเชื้อเพลิงมาก่อน และน้ำมันจากวาฬก็เป็นเชื้อเพลิงชั้นยอดที่ทำให้ผู้คนออกไป ‘ล่า’ กันอย่างเป็นล่ำเป็นสันเพื่อนำมาใช้ผลิตเทียนไข น้ำมันตะเกียง เครื่องสำอาง เป็นน้ำมันหล่อลื่นในเครื่องจักรกันอย่างแพร่หลาย

whaling | thoughtco

การล่าทำให้มนุษย์ได้ทำการผ่าสัตว์ขนาดยักษ์นี้ออกและพบว่าในส่วนหัวมหึมาของมันมีอวัยวะพิเศษอย่างหนึ่งที่เอาไว้เก็บไขวาฬขนาดยักษ์ สามารถเก็บไขได้มากถึง 2,000 ลิตร และอาจมีขนาด 40 เปอร์เซ็นต์ของความยาววาฬได้ ซึ่งอวัยวะนี้มีเพียงแค่ในวาฬสเปิร์มเท่านั้นแม้ว่าวาฬชนิดอื่นๆ เช่น วาฬปากขวด จะมีอวัยวะที่คล้ายกันแต่ไม่ได้มีลักษณะใหญ่ยักษ์เหมือนวาฬสเปิร์ม โดยเชื่อว่ามันเป็นอวัยวะที่มีส่วนช่วยในการลอยตัวและการรับส่งสัญญาณเสียงของวาฬเอง

แต่สำหรับนักล่าที่ผ่ามันออก พวกเขาไม่รู้ว่านี่คือไขปลาวาฬแต่เข้าใจเอาเองว่ามันคงเป็น ‘สเปิร์ม’ หรืออสุจิของวาฬนั่นเอง ทำให้จนถึงปัจจุบันอวัยวะส่วนนี้ก็ยังถูกเรียกว่าอวัยวะสเปิร์ม (spermaceti organ) อยู่ดี แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรไขมันหรือน้ำเชื้อมนุษย์ก็เรียนรู้ที่จะเอาไปใช้ประโยชน์และเป็นน้ำมันส่วนที่มีค่าและดีที่สุดเมื่อเทียบกับน้ำมันส่วนอื่นๆ ของวาฬ ว่ากันว่าน้ำมันจากส่วนนี้จะทำให้ตะเกียงสว่างไสวที่สุดในยามค่ำคืน

อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมล่าวาฬในสมัยนั้นได้คร่าชีวิตวาฬสเปิร์มไปอย่างมหาศาลเกือบเกลี้ยงมหาสมุทร หลังจำนวนวาฬในท้องทะเลลดลงอย่างน่าใจหาย ขณะเดียวกันการพัฒนาเทคโนโลยีและเกิดใช้เชื้อเพลิงอื่นๆ ที่ให้พลังงานได้ดีกว่า ทำให้การล่าวาฬถูกยกเลิกไป แต่วาฬสเปิร์มก็ยังจัดอยู่ในกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อยู่ดี

อ้างอิง