7 Min

การเปิด Wallet: SolFlare บนบล็อคเชน Solana

7 Min
854 Views
15 Oct 2022

บทความนี้ ผมจะมาสอนการเปิด Wallet บนบล็อคเชน Solana ครับ โดยก่อนที่จะเริ่ม ต้องอธิบายอย่างนี้ก่อนว่า เรามีเครือข่ายบล็อคเชนอยู่หลายเจ้าด้วยกันครับ ที่มีชื่อเสียง ก็เช่น Ethereum, Binance Smart Chain (BSC) หรือ BNB Chain, Avalance เป็นต้น ซึ่งแต่ละบล็อคเชน ก็อาจจะรองรับ Wallet เจ้าเดียวกัน หรือรองรับ Wallet คนละเจ้ากันก็ได้ ซึ่งในส่วนของบทความนี้ จะสอนการเปิด Wallet ที่ชื่อว่า SolFlare ซึ่งสามารถใช้ได้ บน บล็อคเชน Solana เท่านั้นครับ

โดยปกติ บนบล็อคเชนอย่าง Ethereum หรือ BNB Chain การเปิด Wallet โดยเฉพาะ Wallet ที่ชื่อ MetaMask นั้นมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก วุ่นวาย จนทำให้ หลายคนตระหนักว่า การเปิด Wallet ที่ยุ่งยากนี้ อาจะเป็นอุปสรรคสำคัญ ของการทำให้คนทั่วๆไปเข้าถึงเทคโนโลยีบล็อคเชนได้ยาก ซึ่ง บล็อคเชน Solana แก้ไขปัญหานี้มาได้ดีมากๆ โดยบทความนี้จะแสดงให้เห็นว่า การเปิด Wallet อย่าง SolFlare บน Solana นั้น ทำได้ง่าย ไม่ยากเลย

ในส่วนแรกจะเป็นการสอนการเปิด Wallet: SolFlare โดยใช้ คอมพิวเตอร์ หรือ Laptop ซึ่งเราสามารถเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการเข้าไปที่ Google แล้ว search คำว่า SolFlare ตรงๆได้เรย ซึ่งผลการค้นหาอันแรกสุด ก็คือเวปไซต์ของ SolFlare นั่นเอง (https://solflare.com/)

พอเข้ามาในเวปไซต์ของ SolFlare แล้ว ก็ไปที่มุมบนด้านขวา แล้วกดคลิ๊กที่ Access Wallet ได้เลย

ในหน้านี้ ถ้าเป็นการเปิด Wallet ครั้งแรก ก็สามารถกดที่ “I need a new wallet” ได้เลย ซึ่งถ้าคุณมี Hardware Wallet ของ Ledger ซึ่งเป็น Wallet ที่เป็นวัตถุจริงๆที่จับต้องได้ รูปร่างเหมือน Thumb Drive ก็สามารถ กด ที่ “Ledger” ด้านล่างได้เลย ซึ่งข้อดีของ บล็อคเชน Solana คือ การที่ Wallet ใน Solana นั้น Friendly กับ Ledger มาก ใช้งาน Ledger บน Solana ได้ง่าย ไร้รอยต่อมากๆ

เมื่อเรากดที่ “I need a new wallet” ในหน้าที่แล้ว ก็จะเด้งมาที่หน้านี้ครับ หน้านี้เป็นหน้าที่สำคัญมากๆ เพราะ เราจะได้คำศัพท์มา 12 คำ ซึ่งคำศัพท์เหล่านี้ เรียกว่า “Recovery Phase” หรือ “Seed Words” ซึ่งเรียกว่าเป็น “Private Key” นั่นคือเป็น รหัสส่วนตัว ที่เราคนเดียวที่จะรู้ ห้ามแชร์ ห้ามให้คนอื่นรู้เด็ดขาด ใครก็แล้วแต่ที่ได้คำศัพท์ เหล่านี้ไป เค้าจะสามารถไปเปิดกระเป๋าเราบนคอมพิวเตอร์เครื่องไหนก็ได้ สั่งถอนเงินเราออก โอนเงินเราออกไปที่ไหนก็ได้ ซึ่งสำหรับตัวเราเอง เราควรเก็บคำศัพท์นี้ ในทางที่ถูกต้อง โดยไม่ควรพิมพ์เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ ในมือถือ เด็ดขาด และไม่ควรถ่ายรูปเก็บไว้เด็ดขาด กล่าวคือ ห้ามเก็บไว้ในรูปแบบ ดิจิตอลเลย เพราะอาจจะโดนแฮคข้อมูลไปได้ เมื่อเรามีคำศัพท์เหล่านี้อยู่ในมือ เปรียบเสมือนเราถือกุญแจ “Private Key” ของกระเป๋าตังเรา ถ้าคอมพิวเตอร์เราพัง เสียหาย หรือ เป็นอะไรขึ้นมา ถ้ามีภาวะสงคราม บ้านโดนจรวดถล่ม เราต้องหนีออกไปนอกประเทศ ขอเพียงแค่เราไปหาคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ ต่ออินเตอร์เนต แล้วเข้าเวปไซต์ของ SolFlare จากนั้นก็ใส่ คำศัพท์เหล่านี้ลงไป เราก็จะสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิตอลทุกอย่าง ที่อยู่ใน กระเป่าตังเราได้ทันที

จากที่กล่าวไปข้างต้นว่า คำศัพท์ หรือ Seed Words ที่ได้มานั้นสำคัญมาก และห้ามเก็บในรูปแบบดิจิตอล เช่น พิมพ์เซฟลงคอม หรือ ถ่ายรูปลงมือถือ เด็ดขาด วิธีการเก็บ Seed Words ที่ดีนั้น หลายคนก็ เขียนบันทึกลงไปในกระดาษ ในสมุดโน้ต แล้วอาจจะเอาไปเก็บตู้เซฟอีกที แต่อย่างไรก็ดี กระดาษ ก็มีข้อเสีย ถ้าโดนน้ำก็เปื่อยยุ่ย ถ้าโดนไฟ ก็ถูกเผาไหม้สูญสลาย ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุด คือการบันทึกลงแผ่นโลหะ หรือ ชิ้นโลหะ นั่นเอง จากรูปด้านบน ก็จะมีตั้งแต่ การซื้อหมุดมาตอกเป็นคำลงบนแผ่นโลหะต่างๆ เช่น แผ่นสแตนเลส แผ่นอลูมิเนียม แผ่นทองแดง หรือซื้อเป็น สินค้า ที่เก็บ Seed Words ที่เค้าทำมาอย่างสวยงาม แล้วก็ได้ แต่ก็อาจจะมีราคาสูงหน่อย

และที่ปลอดภัยที่สุด ก็คือการซื้อ Hardware Wallet มาล็อคกระเป๋าตังของเราไว้อีกชั้น ซึ่ง Hardware Wallet จะเป็น อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ Laptop หรือ มือถือของเรา ได้ทั้งผ่านทางการเสียบสาย USB หรือ เชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน บลูทูธ ซึ่งทุกๆครั้งที่เราจะทำธุรกรรมต่างๆบน Wallet เรา เราต้องกด ยืนยัน Confirm บนตัว Hardware Wallet ทุกครั้งเสมอ ซึ่งตัว Hardware Wallet ก็จะให้ Seed Words เรามาอีกชุด และสามารถตั้งรหัส การเข้าใช้งานได้ด้วย ซึ่งก็เปรียบเสมือน การล็อคบ้านด้วยกุญแจหลายๆชั้นนั่นเองครับ

พอเราบันทึกคำศัพท์ Seed Words เรียบร้อยแล้ว หน้าต่อมา ซึ่งก็คือหน้าข้างบนนี้ เค้าก็จะให้เราใส่คำศัพท์ทั้ง 12 คำ เพื่อเป็นการยืนยันครับ ก็พิมพ์ใส่ลงไป การจดคำศัพท์ ต้องจดเรียงตามลำดับด้วยนะครับ เพราะเวลาใส่ เราก็ต้องใส่เรียงตามลำดับเช่นเดียวกันครับ

พอพิมพ์คำศัพท์ Seed Words ครบเรียบร้อย ก็กดปุ่ม Continue ตรงมุมขวาล่างได้เลยครับ

ในส่วนนี้ก็จะเป็นการให้เราตั้ง Password ครับ ซึ่งจะเป็น Password สำหรับเข้าใช้งานบนคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ ที่เราเปิด Wallet ทุกๆครั้งที่เราเปิดคอมพิวเตอร์เข้ามา และต้องการใช้งาน Wallet เราก็จะต้องใส่ Password นี้ทุกครั้งครับ

จากนั้น ก็จะมาหน้านี้ครับ หน้านี้ถือเป็นหน้า Wallet ของเราละครับ ตอนนี้ก็ถือว่าขั้นตอนการเปิด Wallet ของเราเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ละครับ จะเห็นได้ว่าไม่ได้ยากอะไรเลย ง่ายกว่าการเปิดบัญชี E-Mail ด้วยซ้ำ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นของ Solana เลยครับ ที่ทำให้คนที่ไม่เคยใช้บล็อคเชน สามารถเข้าถึง Solana ได้ง่าย เพราะกระบวนการเปิด Wallet นั้นง่ายมาก

โดยในหน้านี้ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ตรงกรอบสี่เหลี่ยมสี่เหลืองตรงกลาง ที่มีตัวอักษรอะไรไม่รู้ ยาวๆ ตรงนั้น เราเรียกว่าเป็น Wallet Address หรือ “Public Key” ครับ เปรียบเสมือนเป็น เลขบัญชีธนาคาร เวลาเราจะให้ใครโอนเหรียญ โอนเงินมาให้เรา หรือเราต้องการโอนเหรียญจาก Wallet ที่อยู่ที่อื่น เช่น โอนเงินจาก บัญชีในแอพ Binance มายังบัญชี SolFlare บน Solana นี้ เราก็ต้องใส่ Wallet Address ตัวนี้ครับ ซึ่งด้านข้าง ก็จะมีปุ่ม Receive / Send ซึ่งเราสามารถ โอนเหรียญ หรือ รับเหรียญ จาก Wallet อื่นได้

ด้านบน จะมี Portfolio เราไว้ดูเหรียญที่เรามีใน Wallet เรา ในขณะที่ Activity เอาไว้เชคธุรกรรมต่างๆที่เราเคยทำ Staking คือเราสามารถนำเหรียญของเราอย่างเช่น SOL ไป Stake เพื่อกินผลตอบแทนได้ ในขณะที่ Swap ก็จะเป็นที่ ที่เราสามารถแลกเหรียญได้ หรือ ซื้อขายเหรียญได้ และ Collections ก็จะเป็นที่ ที่โชว์ NFT ที่เรามีเก็บไว้ใน Wallet เรา

อันนี้จะเป็นตัวอย่าง Wallet ของคนทีใช้งานทั่วไปนะครับ ในหน้า Portfolio ก็จะมี เหรียญต่างๆ ที่เรามีอยู่ใน Wallet พร้อมทั้ง ราคาของเหรียญในขณะนั้น และมูลค่ารวมที่เรามีครับ

ในขณะที่ ส่วนของ Collections ถ้าเรามี NFT ถืออยู่ ในส่วนนี้ก็จะโชว์รูป NFT นั้นขึ้นมาเลยครับ

เมื่อเรามี Wallet: SolFlare บน Solana เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การที่เราจะทำธุรกรรม ใดๆบน Solana ได้ เราก็ต้องมีเหรียญใน Wallet ครับ โดยบน Solana นั้น มี Native Coin หรือ เหรียญที่ไว้จ่ายค่าธรรมเนียม ที่เราเรียกว่า ค่า Gas ซึ่งต้องจ่ายเป็นเหรียญ SOL ดังนั้น เราจึงต้องมีเหรียญ SOL ติดกระเป๋าไว้ แต่เนื่องจาก บน Solana ค่า Gas ค่อยข้างถูกมากๆ ดังนั้น การมี SOL ติดกระเป๋า ที่มูลค่าสัก 5-10 ดอลลาร์ ก็เพียงพอแล้วครับ เมื่อมี SOL แล้ว ขั้นตอนต่อมา เราก็สามารถโอน Stable Coin เข้ามาใน Wallet เพื่อนำไปลงทุน ไปทำธุรกรรมต่างๆบน Solana ได้เลย ซึ่งบน Solana ส่วนใหญ่ จะใช้ USDC และ USDT เป็นหลักครับ

การโอนเหรียญ ไม่ว่าจะเป็น SOL หรือ USDC, USDT สามารถทำได้ง่าย เช่น ถ้าเรามีบัญชีบน Binance เราก็แค่ไปซื้อเหรียญมาเตรียมให้พร้อม ในส่วนของ Spot จากนั้น ก็คลิ๊กไปที่ชื่อเหรียญนั้นๆ เช่นในรูป ผมคลิ๊กที่ USDT ซึ่งผมเตรียมไว้ที่ 100 USDT แล้วในส่วนถัดมาก็กดถอน หรือ Withdrawal

ลำดับต่อมา ก็กดที่ Send via Crypto Network จากนั้นในหน้าต่อมา ก็ใส่ Address ของ Wallet เรา ที่เป็นตัวอักษรอะไรไม่รู้ยาวๆ ที่เราได้จาก SolFlare ที่ผมเคยบอกว่าเป็น Public Key แล้วก็เลือก Network เป็น Solana ละก็ใส่จำนวนเหรียญที่จะโอน

ในหน้านี้ ก็ตรวจสอบ รายละเอียดต่างๆ ให้เรียบร้อย เชคเลข Wallet Address ว่าถูกมั้ย และที่สำคัญที่สุด ต้องเป็น Solana นะ ถ้าเลือก Network ผิด ส่งไปผิดบล็อคเชน เงินเราอาจจะหายไปตลอดกาล เอาคืนไม่ได้นะครับ ละก็เชคจำนวนเงิน โดย เราจะเสียค่าธรรมเนียมเล็กน้อยสำหรับการทำธุรกรรมนี้ ถ้าทุกอย่างถูกต้อง ก็กด Withdrawal และ Confirm เป็นอันเรียบร้อยครับ

ซึ่งหลังจากโอนเสร็จ รอสัก 5-10 นาที ค่อยกลับไปเชคในหน้า Wallet ก็จะเห็นเหรียญเราเข้ามาในหน้า Portfolio ครับ

ข้างต้น ทั้งหมด คือการเปิด Wallet: SolFlare โดยใช้คอมพิวเตอร์ หรือ Laptop ต่อมาในส่วนนี้ เราจะพูดถึงการเปิด และ การใช้งาน Wallet บนมือถือครับ ซึ่งไม่ว่าคุณจะใช้ ไอโฟน หรือมือถือ แอนดรอย เราก็แค่เข้าไป App Store แล้ว Search หา SolFlare ได้เลยครับ ก็จะขึ้นมาตามรูปด้านบนเลย

จากนั้น ในหน้านี้ ก็จะเหมือนตอนเราทำบนคอมพิวเตอร์ เราสามารถ เปิด Wallet ใหม่ได้ เราก็จะได้ชุดคำศัพท์ Seed Words มา หรือ ถ้าเราเปิด Wallet บนคอมมาแล้ว อยากมาใช้งานบนมือถือด้วย ก็กดที่ Restore Wallet จากนั้น ก็ใส่ ชุดคำศัพท์ Seed Words ลงไป เราก็จะสามารถใช้งาน บัญชีกระเป๋าตังที่เราเคยเปิดเอาไว้ บนมือถือของเราได้เลยครับ หรือ ด้านล่าง เราสามารถเชื่อมต่อกับ Hardware Wallet ของ Ledger โดยตรงได้อีกด้วย

โดยหลังจากเข้ามาในหน้า Wallet ในส่วนของ สัญลักษณ์ Icon ด้านล่าง ตัวซ้ายสุด รูปกระเป๋าตัง พอกดลงไป จะโชว์ เหรียญต่างๆที่เรามีใน Wallet

ไอคอนตัวถัดมา อันที่สองจากซ้าย จะแสดง NFT ที่เรามีอยู่ในกระเป๋าตัง

ไอคอนอันที่ สาม จากซ้าย จะเป็น Swap เอาไว้ซื้อขายเหรียญที่เรามี เป็นเหรียญอื่นๆที่ต้องการ ในขณะที่ ไอคอนถัดมา จะเป็นการเข้าเวปไซต์ ซึ่งถ้าเราเข้าเวปไซต์จากในแอพกระเป๋านี้ เราจะสามารถ Connect Wallet กับพวก Web 3.0 จากในแอพมือถืออันนี้ได้เลย และไอคอนขวาสุด จะเป็น Setting ของแอพครับ

หลังจากเรามี Wallet: SolFlare ที่อยู่บนบล็อคเชน Solana เรียบร้อย เราก็จะสามารถใช้ Web 3.0 บน Solana ได้

คำถามคือ: WEB 3.0 คืออะไร?

อธิบาย อย่างนี้ครับ WEB 1.0 ก็คือเวปไซต์ ที่ เราอ่านได้อย่างเดียว เสพคอนเทนต์ได้อย่างเดียว เรียกได้ว่าเป็นการ สื่อสารทางเดียว ในขณะที่ WEB 2.0 คือเวปไซต์ ที่เราสามารถ สื่อสารได้สองทาง คือเราอ่านคอนเทนต์ได้ ดูคอนเทนต์ได้ ฟังคอนเทนต์ได้ แล้วเราก็ตอบโต้ได้ด้วย เช่น พิมพ์ข้อความตอบโต้ คอมเมนท์ได้ ลงรูป ลงคลิปวีดีโอ ตอบโต้ได้ ลงคลิปเสียงตอบโต้ได้ และในปัจจุบัน พัฒนามาถึง WEB 3.0 ซึ่งจะมีความสามารถที่เพิ่มขึ้นมา คือ ความสามารถในการเชื่อมต่อกับ กระเป๋าตัง ซึ่งอยู่บนเครือข่ายบล็อคเชนต่างๆได้ ซึ่งเมื่อเวปไซต์สามารถเชื่อมต่อกับ กระเป๋าตังได้ ก็แปลว่า เวปไซต์เหล่านี้ ผู้ใช้ นอกจากจะเสพคอนเทนต์ ตอบโต้ได้ แล้วยังสามารถทำธุรกรรมทางการเงิน ผ่านเครือข่ายบล็อคเชนได้ด้วย

ตัวอย่าง เช่น Raydium (https://raydium.io/) ซึ่งเป็น WEB 3.0 ที่สามารถเชื่อมต่อ Wallet ของ Solana ได้ จากรูป ในมุมบนด้านขวา จะมีปุ่ม Connect Wallet ซึ่งเมื่อเราเปิด Wallet: SolFlare เสร็จแล้ว เราสามารถกดเชื่อมต่อกับ WEB 3.0 ที่อยู่บน Solana อย่าง Raydium ได้เลย เมื่อเราเชื่อมต่อ Wallet กับ Raydium แล้ว เราก็จะสามารถใช้บริการ Raydium ได้ ซึ่งบน Raydium เราสามารถ Swap เหรียญ ซื้อขาย เหรียญต่างๆ ได้เลย

อีกหนึ่งตัวอย่าง ตลาดซื้อขาย NFT เช่น Magic Eden ซึ่งเป็น NFT Marketplace ที่ใหญ่ที่สุดบน Solana ถ้าเราอยากเข้ามาทำธุรกรรมบน Magic Eden เราก็แค่ไปกด Connect Wallet ที่อยู่ มุมบนขวา แล้วเลือก Wallet: SolFlare ที่เรามี เท่านั้น ก็จะเชื่อมต่อเรียบร้อย จากนั้น เราก็จะสามารถ ซื้อ ขาย NFT บน Magic Eden ได้เลยทันที โดย NFT บน Magic Eden จะซื้อขายกันด้วยเหรียญ SOL ดังนั้น ก่อนที่จะเข้ามาซื้อ NFT เราต้องเตรียมเหรียญ NFT ในกระเป๋าตังเราให้เพียงพอด้วย

จากทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่า บล็อคเชน Solana นั้น เข้าถึงได้ง่ายมาก เพียงแค่สมัคร Wallet เราก็สามารถ เข้าไปทำธุรกรรมใน WEB 3.0 ของ Solana ได้ทันที

ทั้งหมดนี้ เป็นบทความเพื่อการศึกษา

ไม่ได้มีเป้าหมาย เพื่อชักชวนในการลงทุน

การลงทุนโดยไม่มีความรู้ คือความเสี่ยงสูงสุด

ผศ.ดร.ณพล หงสกุลวสุ