3 Min

Social Media ไม่ได้ทำให้พวกเค้า ‘เ-ี้ย’ เพราะพวกเค้า ‘เ-ี้ย’ อยู่แล้วในชีวิตจริง

3 Min
300 Views
09 Nov 2021

Select Paragraph To Read

  • ในอเมริกามันชัดมากในสมัยโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ส่วนบ้านเรา เราอยู่ในภาวะแบบนี้มาเป็นสิบปีแล้ว
  • แบบนี้ก็หมายความว่า ‘เฟกนิวส์’ ไม่ได้ส่งผลกับสังคมรึ?

สังคมทุกยุคทุกสมัยต้องการ ‘แพะรับบาป’ ของปัญหาสังคมต่างๆ และในยุคนี้โซเชียลมีเดีย (Social Media) ก็ดูจะเป็น ‘แพะแห่งยุคสมัย’

พูดมาแบบนี้ คุณอาจรู้สึกว่า “ก็มันจริงนี่” ปัญหาคือ ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้นล่ะครับ คุณเคยเห็น ‘งานวิจัย’ จริงๆ ไหมที่ระบุว่าโซเชียลมีเดียทำให้สังคมเลวร้ายลง?

แน่นอนมันมีงานแบบที่ว่า แต่งานที่ชี้ตรงกันข้ามก็มี และภาวะแบบนี้ในทางวิชาการเขาก็ถือว่าเราจะ ‘ฟังธง’ ไม่ได้ และตามหลัก “ยังไม่มีความผิดจนกว่าจะได้รับการพิสูจน์ว่าผิด” โซเชียลมีเดียก็ยังบริสุทธิ์

ว่ามารัวๆ แบบนี้ หลายคนคงส่ายหน้า แต่ใจเย็นๆ ครับ เรากำลังจะเอาข้อมูลสรุปจากงานวิจัยหลายๆ ชิ้นมาเล่าให้คุณฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกเรา (อ่านเพิ่มเติม: https://bit.ly/3bkgDkZ)

คือในโลกช่วงหลังๆ คนมัน ‘เครียด’ ขึ้น อันนี้ข้อเท็จจริงทั่วไป งานจำนวนมากชี้ตรงกัน และความเครียดที่ว่านี้ มันนำไปสู่ภาวะที่คนทำตัว ‘เลวร้ายกับเพื่อนมนุษย์’ หรือ ‘เ-ี้ย’ มากขึ้นในชีวิตจริง

พูดง่ายๆ มนุษย์ทั่วไปทุกวันนี้เลวร้ายขึ้นอยู่แล้ว คนที่เครียดและทำตัวเลวร้ายกับเพื่อนมนุษย์เข้าไปในโซเชียลมีเดีย พวกเขาก็จะทำตัวแบบนี้กับคนไม่รู้จัก นี่เลยเป็นเหตุผลที่เวลาเข้าอินเตอร์เน็ตเราจะมีความรู้สึกว่า “อินเตอร์เน็ตเต็มไปด้วยคนเ-ี้ย”

เพราะ ‘ในชีวิตจริง’ เราคงจะไม่ไปยุ่งกับคนพวกนี้เด็ดขาด และเรามีชีวิตอยู่ห่างจากคนพวกนี้ระดับที่ไม่รู้ว่ามีพวกเขาอยู่ในโลกด้วยซ้ำ หรือพูดอีกแบบ ในชีวิตจริง เราใช้ชีวิตอยู่ในเอคโค่ แชมเบอร์ (Echo Chamber) หรือเราจะอยู่ท่ามกลางคนที่เห็นไปในทางเดียวกับเรา ไม่เถียงหรือแย้งเรา

ใช่ครับ ชีวิตจริงเราอยู่ใน Echo Chamber อยู่แล้ว ไม่ใช่เราอยู่ใน Echo Chamber เฉพาะบนโซเชียลมีเดียอย่างที่พูดกัน เพราะบนโซเชียลมีเดียเรามีแนวโน้มจะเจอคน ‘เห็นต่าง’ จากเราเยอะกว่าแน่ๆ แบบไม่ต้องเถียงเลย

และปัจจัยที่ทำให้ ความ ‘เห็นต่าง’ กลายเป็น ‘ความเ-ี้ย’ มันคือการเมืองที่ขัดแย้ง และสังคมที่แตกแยกถึงราก เพราะในภาวะแบบนี้ คนจะทะเลาะกันง่ายมาก คนจะถูกกระตุ้นกันง่ายสุดๆ แบบเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ถ้าเราเห็นว่ามันมาจาก ‘อีกฟากทางการเมือง’ เราก็จะ ‘ขึ้น’ ทันที

ในอเมริกามันชัดมากในสมัยโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ส่วนบ้านเรา เราอยู่ในภาวะแบบนี้มาเป็นสิบปีแล้ว

ฝ่ายหนึ่งพยายามจะอธิบายว่า ภาวะที่สังคมแตกแยกขัดแย้งนี้ มันเกิดจากการที่คน ‘ใช้โซเชียลมีเดีย’ มากเกินไป เพราะมันก็ชัดเจนเหมือนกันว่าบนโซเชียลมีเดียเต็มไปด้วย ‘เฟกนิวส์’ หรือเต็มไปด้วยข่าวสารที่มีแต่คนที่มีจุดยืนทางการเมืองหนึ่งๆ จะ ‘รับ’ หรือพูดอีกแบบ มันคือข่าวที่ ‘ความจริงขึ้นอยู่กับจุดยืนทางการเมืองของผู้รับ’

แต่เคยเห็นคนที่ดูสติดีๆ แชร์ ‘เฟกนิวส์’ มั้ยล่ะครับ? ส่วนใหญ่น่าจะเคยเห็นกัน คือมันไม่ใช่คนทุกคนที่จะแชร์อะไรพวกนี้ ถ้าเป็นคนไม่รู้จัก เราจะมองว่า “พวกนี้โง่” แต่มันก็มีคนที่ ‘เรารู้จักตัวเป็นๆ ’ แชร์อะไรพวกนี้ และคนพวกนี้ เราก็รู้ว่าเขา ‘ไม่โง่’ แน่ๆ และเราก็ ‘ช็อก’ กับพฤติกรรมของพวกเขา

บางคนก็จะบอกว่า คนพวกนี้กลายเป็นแบบนี้เพราะโดนเฟกนิวส์เข้าครอบงำ พูดง่ายๆ คือเขา ‘โดนหลอก’ แน่นอนว่า ‘เชื่อแบบนี้มันสบายใจกว่า’ คนที่เรารู้จักไม่ใช่คนชั่วร้าย พวกเขาแค่ ‘เหยื่อโฆษณาชวนเชื่อ’ แต่อีกด้าน งานวิจัยก็ชี้ว่าคนพวกนี้ส่วนใหญ่ยังสติดี ‘เฟกนิวส์’ ไม่ได้ครอบงำพวกเขา แต่สิ่งที่ ‘ครอบงำ’ พวกเขา คือ ‘ความเกลียดชังทางการเมือง’ ต่างหาก

พูดง่ายๆ พวกเขายินดีจะแชร์ทุกอย่างที่เป็นโทษกับฝั่งตรงข้ามทางการเมือง ไม่ว่ามันจะจริงหรือไม่ กล่าวอีกแบบ ที่เห็นแชร์ๆ กันน่ะ คนแชร์ก็ไม่เชื่อนะครับ แต่มันหวังว่าจะมีคนเชื่อ เพราะคนเชื่อแล้วมันจะเป็นโทษกับศัตรูทางการเมือง เท่านั้นเลย ‘ความเกลียด’ มันผลักให้คนไปได้ขนาดนั้น และเราก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก เพราะเราอยู่ในบ้านเมืองแบบนี้มานานกว่าอเมริกาอีก

แบบนี้ก็หมายความว่า ‘เฟกนิวส์’ ไม่ได้ส่งผลกับสังคมรึ?

คำตอบคือ ‘ใช่’ ครับ ‘อิทธิพลเฟกนิวส์’ ที่ผ่านๆ มามันเป็น ‘เครื่องมือทางการเมือง’ ทั้งนั้น มันยังไม่มีงานวิจัยชัดเจน แต่ ‘ฝ่ายการเมือง’ พยายามจะเคลมแล้วว่าปรากฏการณ์ต่างๆ อันเลวร้ายในสังคมเกิดเพราะเฟกนิวส์

ซึ่งพูดกันโหดๆ การดำรงอยู่ของ ‘อิทธิพลเฟกนิวส์’ เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย ฝ่าย ‘อำนาจเก่า’ ทั้งหลายก็ใช้ข้ออ้างนี้ในการเข้าควบคุมโซเชียลมีเดียฝ่าย ‘สื่อเก่า’ ก็พยายามจะชี้ว่าโซเชียลมีเดียเป็นภัยกับสังคมมากกว่ายุค ‘สื่อเก่า’ แค่ไหน เพื่อบ่อนทำลาย ‘คู่แข่ง’ หรือกระทั่งบริษัทโซเชียลมีเดียมันก็ยังบอกเลยว่าถ้าอยากให้คน ‘รู้ความจริง’ ก็ ‘ซื้อบูสต์’ สิ

พูดง่ายๆ ไอ้ความคิดที่ว่า ‘เฟกนิวส์ส่งผลต่อสังคม’ ‘เฟกนิวส์ทำให้คนเ-ี้ย’ มันแปลงไปเป็นเงิน แปลงเป็นกิจกรรมทางการเมืองได้ หลายๆ ฝ่ายเลยอยากให้เราเชื่อแบบนี้ ทั้งที่มันไม่จริง

จะบอกว่ามัน ‘อาจจะจริง’ ก็ได้ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าโลกนี้ในอดีต มันมี ‘แพะรับบาป’ ที่ ‘น่าขัน’ มาเยอะแยะ ต้นศตวรรษที่ 20 คนก็บอกว่าเพลงแจ๊ซทำให้คนชั่วร้าย ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คนก็บอกว่าทีวีกำลังล้างสมองประชาชน ช่วง 1980s คนก็บอกว่าดนตรีเฮฟวี่เมทัลและฮิปฮอปเป็นรากฐานให้คนมีพฤติกรรมรุนแรง ช่วงยุค 2000s คนก็บอกว่าการเล่นเกมมากๆ ทำให้เด็กก้าวร้าว

มันก็แค่ตอนนี้ 2020s แพะรับบาปตัวใหม่ที่เรียกว่าโซเชียลมีเดียเท่านั้นเอง

อ้างอิง: