Select Paragraph To Read
- ระดับแรก คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ในการสอนไม่เกิน 5 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่ง 95% ของคำสั่ง
- ระดับที่สอง คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ในการสอนเพียง 5-15 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่ง 85% ของคำสั่ง
- ระดับที่สาม คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ในการสอน 15-25 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่ง 70% ของคำสั่ง
- ระดับที่สี่ คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ในการสอน 25-40 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่ง 50% ของคำสั่ง
- ระดับที่ห้า คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ในการสอน 40-80 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่ง 40% ของคำสั่ง
- ระดับที่หก คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ผ่านการสอนเกิน 100 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่งเพียง 30% ของคำสั่ง
ถ้าจะพูดถึงสายพันธุ์ของสัตว์ที่ใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นหมา เพราะเป็นสายพันธุ์สี่ขาที่ได้ชื่อว่าเป็น “เพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์”
เรื่องนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาจากประวัติศาสตร์วิวัฒนาการร่วมกันมากว่า 1 หมื่นปี นานกว่าสัตว์ใดๆ เพราะหมาคือสัตว์ชนิดแรกที่มนุษย์เอามาเลี้ยง
หมาดูจะเป็นข้อพิสูจน์ว่า ถ้ามนุษย์ต้องการจะเพาะพันธุ์สิ่งมีชีวิตใดๆ ให้ได้ตามที่มนุษย์ต้องการ มนุษย์จะทำได้ เพราะไม่ว่าจะหมายักษ์ใหญ่ตัวใหญ่พอๆ กับมนุษย์อย่างทิเบตันมาสติฟฟ์ หรือหมาตัวเล็กแบบไปอยู่ในแก้วกาแฟอย่างชิวาวานั้น ล้วนเกิดจากความสามารถในการเพาะพันธุ์และคัดเลือกสายพันธุ์ของมนุษย์ทั้งสิ้น และนี่คือภูมิปัญญาโบราณก่อนที่มนุษย์จะรู้จักคำว่า DNA ด้วยซ้ำ
ซึ่งนี่ส่วนหนึ่งทำให้เราพอจะพูดได้ว่าหมาแต่ละสายพันธุ์มีความแตกต่างกันทางกายภาพจริงๆ แบบที่เราจะพูดแบบเดียวกับมนุษย์คนละสัญชาติไม่ได้ (คืออาจจะพูดได้ แต่จะโดนด่าว่า “Racist” แน่นอน)
และ “ความต่าง” ที่ว่าก็ไม่ใช่แค่ความต่างภายนอก แต่ความต่างภายในก็มีเช่นกัน ซึ่งในที่นี้เราจะมาพูดถึงความต่างของความ “ฉลาด” ของหมาแต่ละสายพันธุ์
จริงๆ แล้วการจะบอกว่าหมาพันธุ์ไหนฉลาดกว่าหมาพันธุ์ไหนเป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยง เพราะในแวดวงการศึกษาสัตว์ก็มีข้อถกเถียงว่าสัตว์จำนวนมากนั้น “โง่” เพียงเพราะมนุษย์เอามาตรวัดความฉลาดของตัวเองไปครอบมัน
อย่างไรก็ดี ถ้าเรานิยามดีๆ สิ่งเหล่านี้ก็สามารถเอามาชี้วัดได้ และนี่คือสิ่งที่นักจิตวิทยาอย่าง Stanley Coren ทำ ซึ่งหลักๆ แล้ว เขาทำการสำรวจเรื่อง “ความเร็วและความสามารถในการเรียนรู้คำสั่ง” ของหมาแต่ละชนิด สิ่งที่เขาพบก็คือหมานั้นมี “ความฉลาด” ในแง่การเรียนรู้คำสั่งไม่เท่ากันในแต่ละสายพันธุ์ โดยเขาแบ่งเป็น 6 ระดับ
ระดับแรก คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ในการสอนไม่เกิน 5 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่ง 95% ของคำสั่ง
ระดับที่สอง คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ในการสอนเพียง 5-15 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่ง 85% ของคำสั่ง
ระดับที่สาม คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ในการสอน 15-25 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่ง 70% ของคำสั่ง
ระดับที่สี่ คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ในการสอน 25-40 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่ง 50% ของคำสั่ง
ระดับที่ห้า คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ในการสอน 40-80 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่ง 40% ของคำสั่ง
ระดับที่หก คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ผ่านการสอนเกิน 100 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่งเพียง 30% ของคำสั่ง
ซึ่งเขาทำลิสต์มายาวยืดแบบเรียงลำดับความฉลาดตามสายพันธุ์เลย (ถ้าสายพันธ์ุไหนอันดับเท่ากันจะมีตัว T แปลว่า “เสมอ” นะ)
ระดับแรก คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ในการสอนไม่เกิน 5 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่ง 95% ของคำสั่ง
1. Border collie
2. Poodle
3. German shepherd
4. Golden retriever
5. Doberman pinscher
6. Shetland sheepdog
7. Labrador retriever
8. Papillon
9. Rottweiler
10. Australian cattle dog
ระดับที่สอง คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ในการสอนเพียง 5-15 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่ง 85% ของคำสั่ง
11. Pembroke Welsh corgi
12. Miniature schnauzer
13. English springer spaniel
14. Belgian Tervuren
T15. Schipperke
T15. Belgian sheepdog
T17. Collie
T17. Keeshond
19. German short-haired pointer
T20. Flat-coated retriever
T20. English cocker spaniel
T20. Standard schnauzer
23. Brittany spaniel
T24. Cocker spaniel
T24. Nova Scotia duck tolling retriever
26. Weimaraner
T27. Belgian Malinois
T27. Bernese mountain dog
29. Pomeranian
30. Irish water spaniel
31. Vizsla
32. Cardigan Welsh corgi
ระดับที่สาม คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ในการสอน 15-25 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่ง 70% ของคำสั่ง
T33. Chesapeake Bay retriever
T33. Puli
T33. Yorkshire terrier
T36. Giant schnauzer
T36. Portuguese water dog
T36. Airedale
T36. Bouvier des Flandres
T40. Border terrier
T40. Briard
42. Welsh springer spaniel
43. Manchester terrier
44. Samoyed
T45. Field spaniel
T45. Newfoundland
T45. Australian terrier
T45. American Staffordshire terrier
T45. Gordon setter
T45. Bearded collie
T51. American Eskimo dog
T51. Cairn terrier
T51. Kerry blue terrier
T51. Irish setter
55. Norwegian elkhound
T56. Affenpinscher
T56. Silky terrier
T56. Miniature pinscher
T56. English setter
T56. Pharaoh hound
T56. Clumber spaniel
62. Norwich terrier
63. Dalmatian
ระดับที่สี่ คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ในการสอน 25-40 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่ง 50% ของคำสั่ง
T64. Soft-coated wheaten terrier
T64. Bedlington terrier
T64. Smooth-haired fox terrier
T67. Curly-coated retriever
T67. Irish wolfhound
T69. Kuvasz
T69. Australian shepherd
T71. Saluki
T71. Finnish Spitz
T71. Pointer
T74. Cavalier King Charles spaniel
T74. German wirehaired pointer
T74. Black-and-tan coonhound
T74. American water spaniel
T78. Siberian husky
T78. Bichon Frise
T78. English toy spaniel
T81. Tibetan spaniel
T81. English foxhound
T81. Otterhound
T81. American foxhound
T81. Greyhound
T81. Harrier
T81. Parson Russel terrier
T81. Wirehaired pointing griffon
T89. West Highland white terrier
T89. Havanese
T89. Scottish deerhound
T92. Boxer
T92. Great Dane
T94. Dachshund
T94. Staffordshire bull terrier
T94. Shiba Inu
97. Malamute
T98. Whippet
T98. Chinese shar-pei
T98. Wirehaired fox terrier
101. Rhodesian ridgeback
T102. Ibizan hound
T102. Welsh terrier
T102. Irish terrier
T105. Boston terrier
T105. Akita
ระดับที่ห้า คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ในการสอน 40-80 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่ง 40% ของคำสั่ง
107. Skye terrier
T108. Norfolk terrier
T108. Sealyham terrier
110. Pug
111. French bulldog
T112. Brussels griffon
T112. Maltese terrier
114. Italian greyhound
115. Chinese crested
T116. Dandie Dinmont terrier
T116. Vendeen
T116. Tibetan terrier
T116. Japanese chin
T116. Lakeland terrier
121. Old English sheepdog
122. Great Pyrenees
T123. Scottish terrier
T123. Saint Bernard
T125. Bull terrier
T125. Petite Basset Griffon
T125. Vendeen
128. Chihuahua
129. Lhasa apso
130. Bullmastiff
ระดับที่หก คือสามารถเรียนรู้คำสั่งใหม่ได้ผ่านการสอนเกิน 100 ครั้ง และเชื่อฟังคำสั่งเพียง 30% ของคำสั่ง
131. Shih Tzu
132. Basset hound
T133. Mastiff
T133. Beagle
135. Pekingese
136. Bloodhound
137. Borzoi
138. Chow chow
139. Bulldog
140. Basenji
141. Afghan hound
เป็นไงกันบ้างครับ น้องหมาของคุณอยู่ในอันดับไหน?
คนที่เคยเลี้ยงหมาหลายๆ พันธุ์ รู้สึกว่าตรงตามที่เขาจัดมาไหมครับ?
ทั้งนี้ เขาก็ไม่ได้บอกว่าพวกมันในสายพันธุ์หนึ่งๆ จะ “ฉลาด” หรือ “โง่” ไปทุกตัวนะ เพราะนี่เป็นการพูดถึงแนวโน้มโดยรวม ซึ่งมีผลมากๆ ต่อการเลือกหมามาฝึกเพื่อใช้งาน และถ้าเราสังเกต หมาพันธุ์ที่ถูกเอามาฝึกใช้งานหลักๆ คือหมาในข่าย “ฉลาดที่สุด” หมดเลย ไม่ว่าจะเป็นเยอรมันเชฟเพิร์ดที่เป็นสายพันธุ์หลักที่ถูกเลี้ยงเป็น “สุนัขตำรวจ” หรือโกลเด้นรีทรีฟเวอร์กับลาบราดอร์ที่เป็นสายพันธุ์หลักที่ถูกใช้เป็นสุนัขนำทางคนตาบอด เป็นต้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น สำหรับการเลี้ยงหมาทั่วๆ ไป เราก็ไม่ต้องใช้คำสั่งที่ซับซ้อนอะไรนัก แบบเรียกไปฉี่ เรียกให้วิ่งเข้าบ้าน เรียกให้กินข้าว สั่งให้ออกจากห้อง บอกให้หยุดเห่า ก็น่าจะเป็นคำสั่งพื้นฐานที่ถ้าสั่งได้ ชีวิตที่ใช้ร่วมกับ “เพื่อนสี่ขา” ก็น่าจะดีขึ้นมากๆ และคำสั่งพวกนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ซับซ้อนเกินไปที่เราจะสอนได้แม้แต่ “สายพันธุ์ที่โง่ที่สุด” ถ้าเราสอนมันตั้งแต่เด็กๆ (หมายถึงอายุราวๆ 3-4 เดือน)
ดังนั้น แม้แต่ “หมาที่โง่ที่สุด” ก็ไม่ใช่ไม่น่าเลี้ยง เพราะตราบเท่าที่มันมีลักษณะนิสัยที่เข้ากับ “ไลฟสไตล์” เรา ถึงเป็น “เจ้าหมาโง่” มันก็อาจเป็นหมาที่อยู่กับเราได้อย่างมีความสุขที่สุดก็ได้
เพียงแต่ถ้า “เพื่อนสี่ขา” ของเราไม่ฉลาดนัก เราก็อาจต้องใช้ความอดทนนิดหนึ่งในการสอนให้มัน “ฟังคำสั่ง” เท่านั้นเอง
อ้างอิง:
- Business Insider. Here are the ‘smartest’ dog breeds, according to a psychologist. http://bit.ly/3pRk3RS
+0