คุณเคยนอนหลับ เพราะอยากฝันไหม?
หลายคนอยากฝันเพราะเหมือนได้ผจญภัยไปอยู่ในโลกอีกใบ หรือได้ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อได้เรียนรู้ อีกทั้งบางคนอยากฝัน เพราะถ้าฝันดีบ่อยๆ เรื่องในฝันนั้นจะอบอวลอยู่ในหัวใจ ตื่นมารู้สึกดีจนไม่อยากลืม
ความฝันนอกจากจะเกี่ยวข้องกับสภาพร่างกายแล้วยังมีจินตนาการ ความทรงจำ และอารมณ์เข้ามาเป็นส่วนผสม
1.
จากสถิติคนเราจะฝันราว 6-8 ครั้งต่อคืน หลายคนอาจจะคิดว่า มากขนาดนั้นเลยเหรอ? เพราะคนเราไม่ได้ฝันเพียงเรื่องเดียว บางคืนอาจฝันหลายเรื่องสะเปะสะปะเต็มไปหมด ซึ่งส่วนใหญ่เรื่องที่จำได้ คือเรื่องฝันสุดท้ายก่อนตื่น
นอกจากนี้ ความฝันที่ยาวนานที่สุดเกิดขึ้นในช่วงเช้า บางครั้งอาจยาวนานกว่า 45 นาที ถ้านับรวมเวลาฝันต่อคืนแล้วจะเฉลี่ยประมาณ 2 ชั่วโมงต่อคืน
เพื่อให้เรื่อง ‘ความฝัน’ ชัดขึ้น อีกเรื่องที่ต้องรู้คือการนอน ซึ่งการนอนของคนเราแบ่งออกเป็น 4 ระยะ
- ระยะนอนหลับตื้น ประมาณ 5-15 นาทีแรก เหมือนการพักสายตา หากมีเสียงรบกวนจะตื่นง่ายมาก
- ระยะนอนหลับตื้นไปจนหลับลึก ประมาณ 15-30 นาที ชีพจรจะเริ่มเต้นช้าลง
- ระยะนอนหลับลึกถึงพักผ่อนหลับสนิท ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง จะตื่นยาก เริ่มไม่รับรู้เหตุการณ์รอบตัว
- ระยะนอนหลับลึกจนเกิดความฝัน ดวงตาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เรียกว่าช่วง Rapid Eye Movement หรือ REM
2.
เมื่อฝันแล้วทำไมถึงลืม?
ผลวิจัยของ Thomas Kilduff ผู้อำนวยการศูนย์ประสาทวิทยาศาสตร์ สถาบันวิจัย SRI International เผยว่า ขณะที่กำลังเข้าสู่ระยะนอนหลับลึก (REM) ‘ฮอร์โมนเมลาโทนิน’ (ฮอร์โมนที่อยู่ในระดับความเข้มข้นสูง ควบคุมการนอนหลับและความอยากอาหาร) จะเข้าไปทำปฏิกิริยาลดการยับยั้ง ป้องกันไม่ให้ข้อมูลของความฝันถูกเก็บในเซลล์ประสาทฮิปโปแคมปัสมากเกินไป
ซึ่งเป็นเซลล์ประสาทระบบความจำระยะยาวและเชื่อมต่อกับอารมณ์ ความรู้สึก ทำให้เวลาตื่นขึ้นมาบางเหตุการณ์ในความฝันอาจถูกลบเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว

Thomas Kilduff | sri.com
3.
แล้วถ้าอยากจดจำความฝันได้ต้องทำยังไง?
ก่อนจะล้มตัวลงนอนคงต้องหยิบปากกา สมุด หรือโทรศัพท์เอาไว้ข้างกาย เพราะหลังจากตื่นขึ้นมา 90 วินาที (ช่วงเวลาที่จดจำความฝันได้ดีที่สุด) จะได้รีบจดบันทึกใจความสำคัญไว้กันลืม
อีกทั้งเมื่อตื่นขึ้นควรนอนนิ่งๆ ในท่าเดิมก่อน เพื่อทบทวนสิ่งที่ฝัน และควรหลีกเลี่ยงการตั้งนาฬิกาหรือให้คนมาปลุก เพราะอาจทำให้ตกใจสะดุ้งตื่นจนลืมความฝันไปเลย
และจากผลการศึกษาของ Dr.Denholm Aspy นักวิจัยที่เชี่ยวชาญด้านความฝัน จากมหาวิทยาลัยแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย ยังพบว่า คนกินวิตามิน B6 (ที่อุดมในเนื้อสัตว์ หรือถั่วต่างๆ) ก่อนนอนจะมีแนวโน้มจดจำความฝันได้มากกว่า ซึ่งควรกินให้เหมาะสมไม่ควรเกิน 240 มิลลิกรัมต่อวัน หากเกินกว่านั้นอาจส่งผลให้เกิดปัญหาต่อระบบประสาท

Dr.Denholm Aspy | Abc.net
อย่างไรก็ตาม การสูญเสียความทรงจำบางอย่างของความฝัน หากมองโลกในแง่ดีอาจพบว่า เราเป็นคนที่นอนหลับสบายและหลับลึก โดยไม่ต้องตื่นมากลางดึก เพราะกว่าจะนอนหลับอีกที คงต้องใช้ข่มตานอนอีกนาน
อ้างอิง:
- Sciencedirect. REM sleep and memory. https://bit.ly/2Lo6F9b
- Adelaide. DR DENHOLM ASPY. https://bit.ly/3snG3p7
- Hellokhunmor. ทำความรู้จักกับ ฮอร์โมนเมลานิน ตัวการทำให้ลืมความฝัน. https://bit.ly/2LzGbBn
- Nicetofit. ความฝัน เข้าใจวงจรของการนอนหลับ ประโยชน์ของการนอนและความฝัน. https://bit.ly/38H64YQ