2 Min

ความสัมพันธ์แบบ ‘Situationship’ชอบอยู่ด้วยกัน แต่ไม่คบกัน ไม่ผูกมัด และไม่พัฒนาต่อ

2 Min
12161 Views
18 Jul 2022

หลายคนอาจจะเคยเจอความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกันมาบ้าง 

เหมือนเป็นแฟนกัน แต่ก็ไม่ใช่ ไม่มีชื่อเรียก ไม่มีข้อเรียกร้องต่อกัน แต่ก็มีความรู้สึกดีต่อกันและกัน จนทำให้เราตั้งคำถามขึ้นมาว่าสรุปแล้วระหว่างเราคืออะไรกันแน่ 

บางคนก็คุยกันทุกวัน ไปกินข้าวด้วยกัน และรู้สึกดีต่อกัน แต่ความจริงแล้วเราทั้งคู่ไม่ได้เป็นอะไรกันเลยด้วยซ้ำ หรือง่ายๆ ว่าเป็นความสัมพันธ์แบบก้ำกึ่ง ครึ่งๆ กลางๆ ซึ่งใครกำลังมีความรู้สึกแบบนี้อยู่ มันมีชื่อเรียกความสัมพันธ์นี้ว่า ‘Situationship’

Situationship ไม่ได้มีความหมายที่ชัดเจนนัก แต่ถ้าให้อธิบายถึงรูปแบบความสัมพันธ์ มันคือการที่เราพอใจที่จะทำอะไรร่วมกันอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง ที่เราทั้งคู่ไม่ได้ผูกมัดต่อกันและไม่ได้มีการพัฒนาความสัมพันธ์ไปมากกว่าการเป็นเพื่อนกัน แต่ความสัมพันธ์รูปแบบนี้ อาจเต็มไปด้วยความสับสนและไม่ชัดเจนว่าตอนนี้เราเป็นอะไรกันแน่

ความไม่ชัดเจนและไม่มีคำนิยามนี้อาจเป็นที่พอใจกับใครบางคน แต่มันก็ส่งผลกระทบต่อใครบางคนได้เช่นกัน ถ้าอย่างนั้นแล้วเรามาลองสังเกตพฤติกรรมกันดีกว่า เผื่อใครกำลังสงสัยว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบนี้อยู่หรือเปล่า

  1. ไม่มีชื่อเรียกในความสัมพันธ์
    เมื่ออยู่ด้วยกันก็รู้สึกดีต่อกัน แต่เมื่อพบเจอคนอื่นๆ ก็ไม่สามารถพูดออกมาได้ว่าเราเป็นอะไรกัน เพราะไม่อยากรับผิดชอบความรู้สึกของกันและกัน ถ้าต้องพัฒนาความสัมพันธ์ไปมากกว่านี้
  2. ห่างเหินในความสัมพันธ์
    ความสัมพันธ์มักจะไม่มีการวางแผนไปก่อน ส่วนใหญ่จะเป็นการพูดคุยหรือการนัดเจอแบบกะทันหัน หรือเรียกได้ว่าการพบเจอกันเป็นเพียงการแก้เหงาของอีกฝ่ายเท่านั้น
  3. ไม่ได้พบเจอเพื่อนหรือครอบครัวของอีกฝ่าย
    การพบเจอหรือแนะนำให้รู้จักกับคนรอบข้างของอีกฝ่าย จะดูเป็นการจริงจังในความสัมพันธ์มากขึ้น ในความสัมพันธ์รูปแบบนี้จึงเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น
  4. ไม่มีการพูดถึงอนาคต
    แผนการที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้ามักจะไม่ค่อยถูกพูดถึงในความสัมพันธ์นี้ เพราะเราทั้งคู่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของอีกฝ่ายในระยะยาว ในการพูดคุยกันส่วนมากจะอยู่ในเวลาปัจจุบันเท่านั้น

หากใครรู้สึกว่าความสัมพันธ์นี้กำลังทำให้เราเจ็บปวดอยู่และต้องการหนีออกจากความ toxic นี้ มันก็พอจะมีวิธีที่จะช่วยให้เราออกจากสถานการณ์นี้ได้ เพียงเราต้องซื่อสัตย์กับตัวเราเอง

การซื่อสัตย์ต่อตัวเอง เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตัดสินใจเดินหน้าต่อ แม้ว่าการจบความสัมพันธ์นี้อาจทำให้เราเสียใจและเสียเวลา แต่มันดีกว่าไหม ที่เราจะไม่ต้องเจ็บปวดอยู่ฝ่ายเดียว เพียงเราต้องกล้าตัดสินใจและเชื่อมั่นในความรู้สึกของตัวเอง ว่าความสัมพันธ์รูปแบบไหนที่เราต้องการในชีวิต

 แม้ว่าเราจะรู้สึกผิดหวังกับชีวิต ให้ถือว่าความสัมพันธ์นี้เป็นโอกาสและบทเรียนให้เราได้เรียนรู้ เพื่อที่จะเป็นดั่งภูมิคุ้มกันให้เราในวันข้างหน้า เพราะชีวิตของเราจะต้องพบเจอกับผู้คนอีกมากมาย อาจไม่ใช่วันนี้ หรืออาจไม่ใช่พรุ่งนี้ แต่มันต้องมีวันที่เราสมหวังแน่นอน

อ้างอิง