ด้วยความมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้เล่นระดับโลก ทำให้ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ต้องใช้ทั้งความพยายามและแพสชันโดยใช้กีฬาเป็นสื่อกลางในการบุกตลาดต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 10 ปี เพื่อทำให้คนทั่วโลกได้รู้จัก ‘สิงห์’ ผลิตภัณฑ์คุณภาพจากประเทศไทย
ผ่านกลยุทธ์การทำ Sports Marketing ซึ่ง “สิงห์” นับเป็นแบรนด์ไทยรายแรกๆ ที่ใช้วิธีการสร้าง Brand Awareness ในระดับ Global ด้วยการเป็นพาร์ทเนอร์รายการแข่งขันและทีมกีฬาระดับแถวหน้าของโลกมากมาย
โดยเริ่มจากการเข้าสนับสนุนทีมแข่ง F1 ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก อย่างทีมเรดบูล เรซซิ่ง ในปี 2009 ซึ่งสิงห์ถือเป็นเบียร์สองแบรนด์แรกที่เข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์หลักในสนับสนุนวงการ F1
รายการแข่งขันรถที่ได้รับความนิยม มีผู้ติดตามรับชมทั่วโลกหลายร้อยล้านคน จากนั้นก็เข้าไปสนับสนุนทีมเฟอร์รารี จนถึงทีมระดับตำนานอย่าง อัลฟ่า โรมิโอ จนถึงปัจจุบัน
“ในปี 2009 เราเริ่มเข้าไปสปอนเซอร์ทีมแข่ง F1 ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก อย่างทีมเรดบูล เรซซิ่ง ในปีถัดไปทีมก็สามารถคว้าแชมป์ แล้วก็เป็นแชมป์ติดต่อกันมาตลอด 4 ปี ช่วงนั้นเลยถือเป็นการที่เราตะโกนบอกเขาว่ามีสิงห์อยู่ตรงนี้นะ หลังจากวันนั้นหลายที่ก็ติดต่อเข้ามาเยอะมาก”
อีกหนึ่งก้าวสำคัญของสิงห์กับการตอกย้ำกลยุทธ์ Sports Marketing ก็คือ การเข้าไปเป็นพาร์ทเนอร์สโมสรฟุตบอลระดับโลก ระดับตำนานของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ อย่างสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เลสเตอร์ ซิตี้ และสโมสรฟุตบอลเชลซี
รวมถึงการเป็นพาร์ทเนอร์สนับสนุนรายการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก (MotoGP) จนถึงทุกวันนี้
“การตั้งใจทำให้คนรู้จักแบรนด์ มีอยู่ 2 แบบ คือค่อยๆ เข้าไปหรือเข้าไปแบบตะโกนบอกให้คนรู้จักเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่าช่วงที่เราเข้าไปใหม่ๆ ยังไม่ได้มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะบางเรื่องก็ยากกว่าที่คิด ดังนั้นการหาพาร์ตเนอร์ที่จะมาเป็นพันธมิตรกับเราจึงใช้เวลาถึงสิบปี”
‘วรวุฒิ ภิรมย์ภักดี’ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด คีย์แมนคนสำคัญผู้ที่ทำให้ สิงห์ เป็นที่รู้จักในต่างประเทศผ่านการเป็น Sport Partnership รายการแข่งขันกีฬาระดับโลก กล่าว
ล่าสุด สิงห์ ประกาศความยิ่งใหญ่อีกขั้นด้วยการจับมือกับ The Open รายการกอล์ฟระดับเมเจอร์ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก ในฐานะ Official Beer Partner
จุดเริ่มต้นก่อนเปิดตัวเป็น Official Beer Partner กับ The Open
วรวุฒิ เล่าว่า กอล์ฟ เป็นกีฬาที่คุณสันติ ภิรมย์ภักดี ผู้บริหารในเจเนอเรชันก่อนหน้ารักและมีความตั้งใจที่จะผลักดัน เพื่อพัฒนาวงการกอล์ฟไทย
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสิงห์เป็นผู้จัดการแข่งขันกอล์ฟ รายการต่างๆ มากมาย
รวมถึงได้สร้างนักกอล์ฟสมัครเล่นไปถึงระดับอาชีพจนมีนักกีฬากอล์ฟไทยประสบความสำเร็จในระดับโลก ดังนั้น จึงไม่แปลกอะไรที่สิงห์กับกีฬากอล์ฟจะมีโอกาสเติบโตไปด้วยกันอีกขั้นหนึ่ง
“แต่เหตุผลที่เรามองว่าทำไมต้อง The Open ก็เพราะทุกคนย่อมรู้จักรายการนี้อยู่แล้ว ดิ โอเพ่น เป็น 1 ใน 4 รายการกอล์ฟระดับเมเจอร์ และเป็นรายการเดียวที่แข่งนอกสหรัฐฯ ที่เรียกได้ว่าเป็นรายการแชมเปียนชิพที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่สุด โดยจัดการแข่งขันขึ้นที่ประเทศอังกฤษ
โดยเรามีเป้าหมายที่จะทำให้คนรู้จักสินค้าแบรนด์สิงห์มากขึ้น ให้คนได้รับรู้ว่าสิงห์อยู่ตรงนี้ และประเทศอังกฤษ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนหลายชนชาติอาศัยอยู่ จึงมีโอกาสแห่งความเป็นไปได้ว่าสินค้าสิงห์จะสามารถเติบโตได้ดีในอังกฤษ ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นโกลบอลแบรนด์ เป็นที่รู้จักระดับ Worldwide และเพิ่มโอกาสให้กลุ่มลูกค้าได้สัมผัสแบรนด์สิงห์มากยิ่งขึ้น นั่นคือเหตุผลว่าทำไม The Open ถึงเป็นรายการที่เราน่าจะเข้าไปมีส่วนร่วม”
การได้ Partner ดีจึงมีชัยไปกว่าครึ่ง
เขาเล่าย้อนกลับไปอีกว่า ตั้งแต่สมัยเป็นพาร์ทเนอร์กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แมนเชสเตอร์ซิตี้ และเชลซี เป็นโอกาสที่สิงห์ได้นำสินค้าเข้าไปตีตลาดในอังกฤษมากขึ้น ดังนั้น การหาพาร์ตเนอร์ที่จะช่วยสร้าง Brand Awareness ให้กับผู้บริโภคได้นั้นจึงเป็นอีกโจทย์ที่สำคัญ
การที่เราเข้าไปเป็นพาร์ตเนอร์กับ The Open ได้นั้นมันต่อยอดมาจากการที่เราเป็นพาร์ตเนอร์ให้กับ Shepherd Neame ซึ่งเป็นโรงเบียร์เก่าแก่ในอังกฤษ มีประวัติยาวนานกว่า 300 ปี หนึ่งในฐานตั้งมั่นสำคัญของสิงห์ในการผลิตเบียร์สิงห์จำหน่ายและทำตลาดในยุโรปและสหราชอาณาจักร
ซึ่งการคัดเลือกพาร์ตเนอร์ของกีฬาระดับโลกทุกราย จะถูกพิจารณาอย่างละเอียดในทุกดีเทลไม่ว่าจะเป็น History ของบริษัทฯ เป็นอย่างไร ผลิตภัณฑ์ของเราเหมาะกับประวัติศาสตร์รายการแข่งขันของเขาหรือไม่
“นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องหาพาร์ตเนอร์ที่ถูกต้อง ที่จะนำพาเราก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน”
ก้าวสู่การเป็น Official Beer Partner กับ The Open
“ไม่ใช่ว่าเรามีเงินแล้วเขาจะเลือกเราเลย แต่เพราะเขาศึกษาเรามาแล้วว่า มีประวัติอย่างไร เราทำอะไร มีขั้นตอนการทำงานอย่างไร ดังนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน แต่เป็นความน่าเชื่อถือ ภาพลักษณ์ของตัวแบรนด์และสินค้าที่เราพัฒนามาตลอด 90 ปี”
ดังนั้น เมื่อทาง The Open ยื่นข้อเสนอการเป็น Official Beer Partner มา สิงห์ที่มีแพสชันกับรายการนี้อยู่แล้ว บวกกับเห็นโอกาสในการเติบโตจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมกัน
“การได้เป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์วงการกีฬาระดับตำนานของโลกไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ และเป็นอีกหนึ่งโอกาสให้สิงห์ได้ขยายกลุ่มเป้าหมายไปสู่กลุ่มใหม่ๆ เนื่องจากกีฬาแต่ละประเภทก็จะมีกลุ่มผู้เล่น มีฐานแฟนคลับ รวมทั้งมีตลาดที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะ The Open ที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก ทำให้แบรนด์สิงห์มีโอกาสสร้างความคุ้นเคยและใกล้ชิดคนทั่วโลกได้เพิ่มมากขึ้น”
การได้รับการยอมรับจากกีฬาระดับตำนานของโลกอย่าง The Open
จึงเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงมาตรฐาน คุณภาพ รวมทั้งภาพลักษณ์ของแบรนด์สิงห์ที่เทียบชั้นแบรนด์ระดับเวิล์ดคลาส แต่สิ่งที่มากไปกว่าการทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักเราคือ การช่วยสร้าง Awareness ให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในฐานะประเทศที่มีผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับโลกอีกด้วย
เห็นได้ว่า ตลอดเส้นทางที่ “สิงห์” สะสมความเชื่อมั่น สร้างพันธมิตร
รวมทั้งเรียนรู้ตลาดและผู้บริโภคในต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง
ทำให้วันนี้ สิงห์แข็งแรงและเติบโตในฐานะ Global Brand ที่ได้รับการยอมรับของตลาดโลก รวมทั้งไม่หยุดนิ่งที่จะขยายตลาดไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ผ่านกลยุทธ์การทำตลาดที่สามารถเข้าถึงผู้คนได้ทั้งวงกว้าง
รวมทั้งความพยายามเข้าถึงผู้คนทั่วโลกที่มีความแตกต่างทั้งในไลฟ์สไตล์ หรือเจนเนอเรชันที่แตกต่างกัน เพื่อให้แบรนด์สิงห์ในต่างประเทศสามารถสร้างการเติบโต และส่งต่อได้แบบรุ่นสู่รุ่นไม่ต่างจากที่สามารถทำได้ในประเทศไทยเช่นเดียวกัน