รู้ไหมว่า ‘แมวสยาม’ คือหนึ่งในแมวสายพันธุ์ที่ฉลาดที่สุดในโลก…แต่มันอาจไม่ใช่ ‘แมวไทย’ ที่เรารู้จัก
Select Paragraph To Read
- คำถามคือ ...แล้ว ‘แมว’ ล่ะ?
- ‘แมวสยาม’ ประวัติศาสตร์ที่ยังคลุมเครือ
- ‘แมวสยาม’ หน้าตาเป็นอย่างไร
- ‘แมวสยาม’ พันธุ์แท้ที่ไม่แท้ในสายตาฝรั่ง
ถ้าพูดถึงสัตว์เลี้ยงของมนุษย์ในโลกนี้ สัตว์ที่เป็นสายพันธุ์สุดฮิตที่มนุษย์เอามาเลี้ยงก็คงจะหนีไม่พ้นหมาและแมว ซึ่งหมา เรื่อง “ความฉลาด” คงไม่ต้องพูดกันมาก เพราะมันเป็นสัตว์ที่ถูกคัดเลือกสายพันธุ์ให้ “ฉลาด” ในแง่ที่สามารถฟังคำสั่งและสื่อสารกับมนุษย์ได้มากที่สุด
เรียกได้ว่าเป็น “สัตว์ใช้งาน” ที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกับมนุษย์มากว่า 15,000 ปี จนทุกวันนี้สังคมเปลี่ยนไปขนาดไหน หน้าที่ของการเป็นสัตว์ใช้งานของหมาก็ยังไม่หายไป เพราะอย่างน้อยๆ โลกนี้ก็ยังมี “หมาตำรวจ” และ “หมานำทาง” หรือขนาดในภาวะโควิด-19 หมาก็ยังถูกฝึกมาให้ดมกลิ่นเพื่อหาคนที่ติดเชื้อโควิด-19 อีกด้วย
คำถามคือ ...แล้ว ‘แมว’ ล่ะ?
แมวมีประวัติร่วมกับมนุษย์มาราวๆ 10,000 ปี มันไม่ใช่สัตว์ชนิดแรกๆ ที่มนุษย์เลี้ยง และมันก็อยู่กับมนุษย์มาอย่างงงๆ
หรือพูดอีกแบบ แมวไม่เคยเป็น “สัตว์ใช้งาน” ดังนั้น มันจึงไม่ได้ถูกเพาะมาให้ “ฉลาด” ในแง่ของการสื่อสารกับมนุษย์ได้ดีแบบหมา
แต่ถามว่าแมวพันธุ์ไหนฉลาดที่สุด จริงๆ เรื่องนี้มีคำตอบ เพราะถ้าไป “ถาม Google” ด้วยการพิมพ์ว่า “Most Clever Cat” สิ่งที่คุณพบอาจทำให้คุณอึ้ง
เพราะมันคือ “แมวสยาม” (Siamese Cat)

แมวสยามสมัยใหม่ | Wikipedia
‘แมวสยาม’ ประวัติศาสตร์ที่ยังคลุมเครือ
ถ้าลองค้นดูอีก เราจะพบว่า การจัดอันดับ “แมวฉลาด” จะไม่ได้ชัดเจนแบบหมา แต่เรียกได้ว่าจัด Top 10 Top 5 หรือกระทั่ง Top 3 ยังไง “แมวสยาม” ก็ติดอันดับ
คนจะถือกันว่าแมวสยามเป็นแมวที่มีความสามารถในการจะ “เรียนรู้” สูงที่สุดในบรรดาแมวด้วยกัน และถือว่าเป็นแมวที่ “เข้าหามนุษย์” มากสายพันธุ์หนึ่งเลย เพราะแมวปกติก็อย่างที่เรารู้กันว่ามันจะ “หยิ่ง” ไม่ค่อยอยากจะยุ่งกับมนุษย์
ทีนี้บางคนอาจสงสัยว่าไอ้ “แมวสยาม” นี่มันคือตัวอะไร คือแมวที่ในไทยเรียกว่า “แมววิเชียรมาศ” ใช่ไหม เพราะหน้าตาคล้ายๆ กัน
อันนี้ต้องเล่าย้อนหน่อย
ในไทย แมววิเชียรมาศคือแมวที่อยู่ในตำราแมวที่เขียนไว้ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่ง “ตำนาน” ของไทยนั้นก็จะเล่าว่า แมวพันธุ์นี้สูญหายไปจากเมืองไทยตอน “เสียกรุงครั้งที่ 2” ในปี 1767 และที่สูญหายไปก็เพราะพม่าได้ลักพาแมวล้ำค่านี้ไปหมด
และตำนานก็บอกเช่นกันว่าผู้ที่ฟื้นฟูแมวพันธุ์นี้คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม พุทฺธสโร) ที่ไปเจอตำราแมวและพยายามจะรื้อฟื้นและรักษาสายพันธุ์แมวเก่าๆ ไว้

แมววิเชียรมาศในตำราแมว | Wikipedia
อย่างไรก็ดี ถ้าว่ากันตามหลักฐานฝรั่ง เราจะพบว่า “แมวสยาม” ตัวแรกที่ถูกบันทึกชัดๆ ไว้ในโลกตะวันตกนั้นคือแมวที่ถูกส่งไปให้ประธานาธิบดีอเมริกา รัทเทอร์ฟอร์ด บี. เฮส์ จากสถานกงศุลในประเทศไทย ในปี 1878 ซึ่งตอนนั้น สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม พุทฺธสโร) ยังไม่ได้บวชเป็นเณรด้วยซ้ำ (บวชในปี 1881)
ดังนั้นจึงสันนิษฐานได้ว่าจริงๆ “แมวสยาม” ก็น่าจะไม่ได้ถูกพม่าเอาไปหมดในช่วงเสียกรุงครั้งที่ 2 และมันก็มีมากมายพอตัวที่จะถูกส่งไปเป็น “แมวฮิต” ในโลกตะวันตกช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เพราะไม่ใช่แค่ประธานาธิบดีอเมริกาเท่านั้นที่จะได้แมวสยามไป แต่มันยังมีการส่งแมวสยามไปในโลกตะวันตกอีกมากมาย และหลายครั้งส่งไปเป็นคู่ และก็มีการเพาะพันธุ์พวกมันต่อจากนั้น
‘แมวสยาม’ หน้าตาเป็นอย่างไร
ถามว่า “แมวสยาม” ในยุคนั้นน่าจะหน้าตาอย่างไร คำตอบก็คือหน้าตาน่าจะคล้ายๆ แมววิเชียรมาศของไทยในปัจจุบันนี่แหละ แต่อาจจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน เพราะในยุคนั้น ยังไม่มีการประกวดแมว และไม่มีแนวคิดว่า แมวพันธุ์หนึ่งๆ ต้องมีลักษณะแบบนี้ๆ เป๊ะๆ ไม่มีคือไม่ดี (ลักษณะแมวตามตำราแมวของไทยสมัยก่อนนี่ ค่อนข้างจะไม่ได้ “เป๊ะ” แบบการประกวดแมว)
แต่ก็นั่นแหละ… ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โลกตะวันตกเริ่มมีการสร้าง “มาตรฐานสายพันธุ์” ของ “แมวสยาม” ซึ่งผลก็คือ แมวจะถูกเพาะมาตามมาตรฐานเพื่อประกวด และหน้าตามันก็เริ่มเปลี่ยนไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับหมามาแล้วในช่วงศตวรรษที่ 19 หลังจากการสร้างมาตรฐานมาหลายสิบปี หน้าตาของพวกมันในสายพันธ์ุเดียวกันเปลี่ยนไปหมด (แถมบางครั้งไม่ได้เปลี่ยนไปในทางที่ดีต่อสุขภาพด้วย)
“แมวสยาม” ก็เช่นกัน หน้าตาพวกมันเปลี่ยนไป สีของพวกมันเหมือนเดิมก็จริง แต่หน้าพวกมันแหลมขึ้น และขาก็ยาวขึ้น
พอมาในตอนปลายศตวรรษที่ 20 “แมวสยาม” ในโลกตะวันตกที่เป็น “พันธุ์แท้” ก็หน้าตาไม่เหมือน “แมววิเชียรมาศ” ในไทยแล้ว เพราะมันถูกเพาะพันธุ์ด้วยแนวคิดที่ต่างกันมาหลายสิบปี
อธิบายง่ายๆ คือแมววิเชียรมาศไทยจะมีเอกลักษณ์หลักๆ คือสีขน ส่วนสรีระจะคล้ายกับ “แมวบ้าน” ปกติ ไม่ได้หน้าแหลมและขายาวเก้งก้างแบบของฝรั่ง

“แมวสยาม” แบบไทย หรือแมววิเชียรมาศ | Wikipedia
‘แมวสยาม’ พันธุ์แท้ที่ไม่แท้ในสายตาฝรั่ง
เรื่องตลกก็คือ ในขณะที่แมววิเชียรมาศในไทยก็น่าจะเป็น “แมวสยาม” แบบแท้จนไม่รู้จะแท้ยังไงแล้ว แต่คนตะวันตกกลับไม่ยอมรับ บอกว่าลักษณะไม่ใช่ “แมวสยาม” ที่ดี จนในต้นศตวรรษที่ 21 พวกสมาคมแมวต่างๆ เลยต้องสร้างสายพันธุ์ใหม่มารองรับแมววิเชียรมาศ โดยเรียกมันว่า “แมวไทย” หรือ “แมวสยามดั้งเดิม” แทน
ซึ่งก็นี่แหละ “ความต่าง” ของ “แมวสยาม” กับ “แมวไทย” ในมาตรฐานโลกตะวันตกปัจจุบัน
แต่ถามว่า “ความฉลาด” พวกมันต่างกันหรือไม่ พูดถึงในทางชีววิทยา พวกมันไม่น่าจะต่างกันสักเท่าไร เพราะจริงๆ มันคือสายพันธุ์เดียวกันที่เพิ่งถูกเพาะพันธุ์แยกชัดๆ มาไม่กี่สิบปี และก็ไม่แปลกที่ถ้าคิดแบบเก่า สองสายพันธุ์นี้ไม่ควรจะถูกแยกออกจากกันด้วยซ้ำ
ดังนั้นในแง่นี้ ก็ดูจะสมเหตุสมผลที่จะบอกว่า “แมววิเชียรมาศ” ของไทย เป็นแมวที่ฉลาดระดับท็อปของโลกอยู่
ส่วนจะฉลาดจริงไหม ก็คงอยากวานถามคนที่เคยเลี้ยงแมวหลายๆ สายพันธุ์มา “รีวิว” หน่อย
อ้างอิง:
- Wikipedia. Siamese Cat. http://bit.ly/3tCPYrA
- Wikipedia. Thai Cat. http://bit.ly/3ryVuJS
- Wikipedia. วิเชียรมาศ. http://bit.ly/3tDwDXr