เจาะลึกทีมกลยุทธ์ และพัฒนาธุรกิจ ‘สยามพิวรรธน์’ ที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรม และความคิดนอกกรอบ

ในวันที่โลกหมุนไว และทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การปรับตัวและก้าวข้ามขีดจำกัดเป็นสิ่งที่สำคัญของทุกสรรพสิ่ง รวมถึงการทำธุรกิจ 

โดยถ้าใครติดตามข่าว คงจะทราบกันดีว่า ‘สยามพิวรรธน์’ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และแบรนด์ธุรกิจค้าปลีกเจ้าของ สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามพารากอน ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมียม เอาท์เล็ตเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เป็นผู้นำในการสร้างประสบการณ์และพัฒนาเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของความเป็นไปได้มาโดยตลอด และมีโอกาสสร้างปรากฎการณ์ที่ตื่นตาตื่นใจให้คนไทยได้เห็นมาหลายครั้ง ผ่านเลนส์สายตาแห่งความสร้างสรรค์และนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้แบรนด์ดังกล่าวแตกต่างและโดดเด่นกว่าใครในวงการ

หากลงไปที่รายละเอียดกันอีกนิด เราจะพบว่า ปัจจุบันสยามพิวรรธน์มีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์มากมายที่เชื่อมต่อนวัตกรรมเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) รวมถึงการสร้างประสบการณ์ในโลกคู่ขนานทั้งออนไลน์และออฟไลน์ หรือที่เราคุ้นเคยในชื่อเมตาเวิร์ส (Metaverse) โลกใบใหม่ที่เข้ามาตอบโจทย์ลูกค้าในยุคปัจจุบันได้แบบไร้ขีดจำกัด 

แน่นอนว่า ถึงแม้จะเป็นประเด็นที่ทุกฝ่ายพูดถึงอยู่ตลอด แต่การจะพัฒนาและนำนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาต่อยอดเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ไม่เคยเป็นเรื่องง่าย ไม่ได้สามารถทำตามตำราหรือทฤษฎีได้เสมอไป ดังนั้นการขับเคลื่อนธุรกิจของสยามพิวรรธน์ ต้องอาศัยกลุ่มคนที่มีความสามารถเฉพาะทางและมีหน้าที่ในการเข้ามาจัดการพื้นที่ตรงนี้โดยเฉพาะ อย่าง ทีมนักยุทธศาสตร์ (Business Creator) ทีมที่มีความจำเป็นในการร่วมกันมองหาไอเดีย คิดนอกกรอบ ต่อยอดความสำเร็จจากความแข็งแกร่งเดิมซึ่งทีมแต่ละคนล้วนที่มีความสร้างสรรค์ นับว่าเป็นทั้ง Thinker และ Innovator ในตัวเอง เป็นดั่งฟันเฟืองสำคัญที่สร้างการเติบโตและเปลี่ยนแปลงให้กับสยามพิวรรธน์

แล้วทีมนักยุทธศาสตร์ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ คือใครบ้าง และแนวคิดอย่างไรในการสร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ในช่วงผ่านมา มาติดตามไปพร้อมๆ กันได้เลย 

ชนิสา แก้วเรือน Head of Corporate Strategy Group

ผู้บริหารกลุ่มงานกลยุทธ์องค์กรที่เป็นผู้นำของกลุ่มนวัตกรรมธุรกิจ (Think Tank) กล่าว การทำงานต้องคิดนอกกรอบและค้นหานวัตกรรมที่ล้ำในทุกมิติ เพื่อสร้างความเกี่ยวข้องกับลูกค้า และเชื่อมต่อโอกาสทางธุรกิจ ที่ทำให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกันกับคู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจให้เติบโตไปได้อย่างกว้างไกล  

“สยามพิวรรธน์ คือเจ้าแห่งประสบการณ์ที่สร้างแพลตฟอร์มนำเสนอความแปลกใหม่ ทั้งบนโลกจริงและโลกเสมือนจริง เราดำเนินธุรกิจด้วยความคิดสร้างสรรค์ สร้างประสบการณ์แรกให้เกิดขึ้นกับศูนย์การค้าในเครือจนได้รับรางวัลระดับโลกมาแล้วมากมาย แต่ด้วยรูปแบบการแข่งขันของโลกธุรกิจที่เปลี่ยนไป ทำให้เราไม่สามารถยึดติดอยู่กับความสำเร็จเดิม ต้องคิดไปไกลกว่าธุรกิจรีเทล นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาพลิกเกม เติมเต็มประสบการณ์เหนือความคาดหมายในโลกใหม่ มองหา New Growth Engine  และต่อยอดสู่การสร้างรายได้ในรูปแบบใหม่ที่ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง”

สรณียา จักกะพาก Business Development – Special Business Division

นักวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจอาหารของสยามพิวรรธน์ ซึ่งเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจอาหารเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการพัฒนาและต่อยอดรูปแบบธุรกิจ โดยร้าน Blue by Alain Ducasse ร้านอาหารฝรั่งเศสชั้นนำระดับ Fine Dining ที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะไอคอนสยามเท่านั้น พัฒนาและร่วมมือกับทีมงานระดับโลกจากฝรั่งเศส เพื่อสร้างประสบการณ์ด้านอาหารที่ไม่เหมือนใคร และสร้างความแตกต่างให้กับกรุงเทพฯ จนได้รับรางวัลทรงเกียรติในวงการอาหารระดับโลก

“ผลงานที่โดดเด่นและวิสัยทัศน์ในการสร้างประสบการณ์แบบพิเศษของสยามพิวรรธน์ ช่วยสร้างโอกาสในการร่วมงานกับบุคคลระดับโลกในหลากหลายสาขา และทำให้ได้เรียนรู้กระบวนการทำงานที่มีคุณค่ามหาศาล  รางวัลอันทรงเกียรติที่ Blue by Alain Ducasse ได้รับเป็นสุดยอดรางวัลแห่งวงการอาหารระดับโลกถือเป็นบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นของทีมงานเพื่อตอกย้ำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียงเรื่องอาหารที่เยี่ยมยอดแห่งหนึ่งของโลก” 

สาลวิท สุวิพร Creative Innovation Strategist

นักยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรมที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์พัฒนาโซลูชั่นธุรกิจด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก ที่ผลักดันให้โครงการเชื่อมต่อโลกออนไลน์และออฟไลน์ของสยามพิวรรธน์ให้เป็นจริงในหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็น Future Lab หรือ Metaverse เช่น โปรเจคที่เพิ่งเปิดตัวไปกับ ZEPETO งานสงกรานต์ครั้งแรกในโลก Metaverse ที่เชื่อมต่อโลกออฟไลน์และโลกเสมือนอย่างไร้รอยต่อ

“Innovative strategist คือการใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นจุดเริ่มและมองหาไอเดียใหม่ๆ ผู้เล่นใหม่ๆ สู่การทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ ที่ไม่มีพรมแดน วันนี้สยามพิวรรธน์กำลังก้าวเข้าสู่ Metaverse โลกเสมือนจริง โดยมุ่งขยายฐานลูกค้าสู่  Global Citizen นับเป็นความท้าทายที่จะพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของเราอีกครั้งหนึ่ง”

พลวุฒิ บูรณะกิจ Strategic Investment & New Economy

คีย์แมนคนสำคัญด้านยุทธศาสตร์ด้านกลยุทธ์การลงทุนและเศรษฐกิจใหม่ ที่ทำงานใกล้ชิดกับกลุ่ม Think Tank คิดค้นกลยุทธ์ด้านการลงทุนและธุรกิจใหม่ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจ และเจรจาประสานงานกับพาร์ทเนอร์ เพื่อนำไอเดียมาทำให้เกิดธุรกิจที่ทำเงินได้จริง

ต่อยอด ให้เกิดเป็นโมเดลธุรกิจ เช่น การเชื่อมโยงกับสินทรัพย์ดิจิทัล และการทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ

“การมองหาธุรกิจใหม่ที่ทำจะทำให้สยามพิวรรธน์ก้าวไปได้ไกลกว่าโมเดลธุรกิจหลัก  คือการมองหาธุรกิจที่แปลกใหม่ แตกต่าง มาสร้างสรรค์เป็นจักรวาลแห่งประสบการณ์ที่ไม่สิ้นสุด และสามารถพัฒนาสู่ business model ที่เป็นจริงและทำเงินได้ ซึ่งเป็น jigsaw สำคัญ ที่จะทำให้สยามพิวรรธน์ประสบความสำเร็จทั้งชื่อเสียง รายได้ และการเติบโตอย่างยั่งยืน”  

โจเซฟ เทียว Business Development & Strategist

นักยุทธศาสตร์ที่มีประสบการณ์ในการทำงานด้านลักซ์ซูรีแบรนด์ และแฟชั่นแบรนด์ระดับโลก ที่คอยมองหาโอกาสทางธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากำลังซื้อสูง ซึ่งเป็นฐานลูกค้าสำคัญของกลุ่ม พร้อมทั้งพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับองค์กร ผ่านความเข้าใจอินไซด์ของลูกค้าและต่อยอดได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งโจเซฟระบุว่า เป้าหมายสำคัญของสยามพิวรรธน์คือการสร้างโมเดลธุรกิจที่สามารถปรับเปลี่ยนได้และคิดค้นโซลูชันแบบสร้างสรรค์ตอบโจทย์ความต้องการ

“โลกของธุรกิจรีเทลยังคงพัฒนาเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้งทั้งในด้านดิจิทัลและการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เป้าหมายของเราคือ การสร้างความมั่นใจว่า เราได้สร้างโมเดิลธุรกิจที่สามารถปรับเปลี่ยนได้และคิดค้นโซลูชันแบบสร้างสรรค์ ที่ตอบความต้องการของร้านค้าชั้นนำระดับโลกและกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงให้ดียิ่งขึ้น” 

ศิวาภรณ์ เอี่ยมแก้ว Partnership Strategist

หนึ่งในทีมยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรมธุรกิจที่ดูแลกลยุทธ์ความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีบทบาทสำคัญอย่างมาก เนื่องจากการพัฒนานวัตกรรมไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากปราศจากความร่วมมือของพาร์ทเนอร์และคู่ค้า เพื่อแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี ความคิด และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ซึ่งศิวาภรณ์ระบุว่าการเชื่อมโยงไอเดียความคิดสร้างสรรค์กับพันธมิตร เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ ทั้งในด้านของสุขภาพ ชีวิตความเป็นอยู่  ความงามและเทคโนโลยี เพื่อการสร้างสรรค์ชีวิตที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม 

“การดำเนินธุรกิจสู่อนาคต ที่จะช่วยให้เรารับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน คือการเชื่อมไอเดียความคิดแปลกใหม่ทำให้เกิดขึ้นจริง การผนึกพันธมิตรที่ใช่จึงกลายเป็นกลยุทธ์หลักที่จะช่วยเข้ามาเติมเต็มช่องว่าง และร่วมกันคิดทำในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

อมัจจ์ สมบูรณ์เจริญ Creative Brand Strategist

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การนำเทรนด์มาต่อยอดสร้างแบรนด์และกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับโลกปัจจุบันเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่ง อมัจจ์ นักยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรมธุรกิจระบุว่า การนำเทรนด์มาสร้างแบรนด์ คิดคอนเซ็ปต์ไอเดีย ต้องสอดคล้องกับเทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นำไอเดียมาต่อยอดกับกลยุทธ์ขององค์กรเพื่อให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ ที่ส่งเสริมภาพลักษณ์และพัฒนาธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่อง

“การทำธุรกิจในรูปแบบของสยามพิวรรธน์ต้องจับเทรนด์เร็ว และนำมาสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ  สยามพิวรรธน์เชื่อในการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่เชื่อมโยงความต้องการของผู้คน กับการทำธุรกิจที่เติบโตสร้างรายได้ สู่ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นที่หนึ่งในใจผู้คน”

อมร มงคลแก้วสกุล Creative Content & Design Strategist

นักยุทธศาสตร์และพัฒนารูปแบบการสร้างแบรนด์ สตอรี่

ที่นำประสบการณ์ด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรมมาต่อยอดด้านกลยุทธ์ธุรกิจ ทั้งการออกแบบและวางแนวคิดหลักของร้านค้า วางแผนแคมเปญการตลาดอย่างสร้างสรรค์ รวมไปถึงการผนวกแนวคิดความยั่งยืนในธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น สนับสนุนความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมผ่านแบรนด์ Ecotopia และด้านสังคมผ่านแบรนด์ ICONCRAFT ที่ช่วยสนับสนุน  SME รายย่อย และช่างศิลป์ชุมชนในต่างจังหวัด ตลอดจนยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยผ่านการร่วมขยายธุรกิจไทยในต่างประเทศ

“ประสบการณ์ในฐานะสถาปนิกและนักออกแบบทำให้เราจับพฤติกรรมผู้บริโภคได้ล่วงหน้า พร้อมคิดฟังก์ชันมารองรับความต้องการของผู้บริโภคในอนาคตได้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดธุรกิจทั้งในโลกจริงและออนไลน์สู่ความยั่งยืน เพราะมากกว่าการจับจ่ายใช้สอย คือไลฟ์สไตล์ที่ให้ความสำคัญกับโลกใบนี้”

ทีมกลยุทธ์ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ความคิดนอกกรอบ ความสามารถ และประสบการณ์ของสยามพิวรรธน์ทำให้เราได้เห็นถึงความคิดที่แตกต่างและความกล้าที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ และปรับตัวให้สอดคล้องกับยุคสมัยอยู่เสมอ ทำให้ต่อยอดและพัฒนาธุรกิจของสยามพิวรรธน์ให้เป็นมากกว่าธุรกิจรีเทล และสยามพิวรรธน์เติบโตและเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับลูกค้าอย่างไร้ข้อจำกัด