รู้ไหม ‘ชุมชนศิลปะ’ ออนไลน์ไปถึง Shutterstock เริ่มแบน ‘ภาพโดย AI’ แล้วด้วยเหตุผลต่างๆ กัน
ปี 2022 น่าจะเป็นปีที่สำคัญของ AI วาดภาพ เพราะแม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะมีมานานแล้ว แต่ปีนี้เองที่ AI หลายต่อหลายตัวออกมาดาหน้าให้คนทดลองใช้ไปจนถึงใช้จริง ไม่ว่าจะเป็น Dall-E, Mid Journey หรือ Stable Diffusion ซึ่งจุดเด่นของปีนี้ก็คือ เทคโนโลยีนี้มันไปถึงมือ ‘คนทั่วไป’ ไม่ใช่เฉพาะคนที่เป็น ‘เซียนคอมพิวเตอร์’ นั่นทำให้คนทั่วไปผลิตงานศิลปะโดย AI ได้รัวๆ ผ่านการสั่งให้วาดรูป หรือที่เรียกว่าการ ‘prompt’
แน่นอนความแพร่หลายของมันทำให้เกิดข้อถกเถียงหลากหลายตั้งแต่ว่าเราควรจะนับสิ่งเหล่านี้เป็น ‘ศิลปะ’ หรือไม่? ไปจนถึงว่าพวก ‘ศิลปิน’ จะตกงานมั้ย? แต่ในความเป็นจริง ตราบใดที่ยังตกลงกันไม่ได้ คนที่ใช้ AI สร้างภาพก็จะยังท้าทายนิยามความเป็น “ศิลปะ” ต่อไปเรื่อยๆ โดยหนึ่งในข่าวใหญ่เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน 2022 คือมีคนใช้ภาพที่ Mid Journey วาดส่งไปประกวfศิลปะที่โคโลราโดแล้วได้ที่ 1 ซึ่งกรรมการก็ไม่ว่าอะไรด้วย!
เพราะกรรมการเขาเชื่อว่า ‘งานศิลปะ’ ก็คืองานศิลปะ คุณทำมันออกมาได้ก็คือได้ เขาไม่สนว่าคุณจะทำมันมายังไง และเขาก็ตัดสินในระดับเดียวกันหมด ไม่ว่าคุณจะวาดด้วยมือหรือสั่งให้ AI วาด
ซึ่งสิ่งเหล่านี้สร้างความสั่นสะเทือนให้วงการศิลปะอย่างมาก เพราะมันคือการยอมรับว่าภาพที่ AI วาดมัน ‘เท่ากับ’ ภาพที่คนวาด เหมือนเป็นการประกาศยืนยันมาตรฐานใหม่
และก็แน่นอน นี่ทำให้คนที่ใช้ AI วาดภาพก็ยิ่งคึกคัก พวกเขาวาดภาพด้วยความสนุกออกมารัวๆ แล้วเอามันไปโพสต์ตามชุมชนศิลปะออนไลน์
นี่ทำให้ในช่วงต้นเดือนกันยายน 2022 ชุมชนศิลปะออนไลน์เล็กๆ จำนวนหนึ่งเช่น Newgrounds, Inkblot Art และ Fur Affinity เริ่มมีมาตรการฟาดกลับนั่นคือ มีการเปลี่ยนระเบียบชุมชน และห้ามโพสต์ภาพที่สร้างจาก AI เด็ดขาด
แม้จะเป็นการโต้กลับของชุมชนเล็กๆ แต่มันก็แสดงให้เห็นถึง ‘ความไม่พอใจ’ว่าพวกเขาไม่ยอมรับงานศิลปะที่ไม่ได้ถูกสร้างโดยมนุษย์ และพวกเขาก็ต้องการสร้างหลักประกันว่างานศิลปะในชุมชนของพวกเขานั้นเกิดจากน้ำมือมนุษย์ทั้งหมด
แต่ก็นั่นแหละ นี่เป็นสิทธิ์ของชุมชนทางศิลปะที่จะกันอะไรบางอย่างออกไป ซึ่งในแง่หนึ่งมันก็อาจคล้ายกับชุมชนดนตรีเฉพาะแนว ที่มีมาตรการชัดเจนที่จะกันแนวดนตรีที่ ‘ไม่เข้านิยามแนว’ ออกไปที่อื่น เพราะสุดท้ายสิ่งที่พวกเขาต้องการสร้างคือชุมชนของคนที่ชอบอะไรคล้ายๆ กัน ต้องการมาเสพงานที่ ‘มนุษย์แท้’ สร้างขึ้นมา พวกเขาไม่ต้องการให้งานที่ AI สร้างเข้ามาปะปน
แต่นั่นก็ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างงานที่มนุษย์สร้างและ AI สร้างก็อาจจะค่อยๆ เปลี่ยนไปด้วย เช่น ‘นักวาด’ รุ่นใหม่ๆ ก็อาจให้ AI ขึ้นภาพมาก่อน แล้วค่อยเอาไปต่อยอดด้วยตัวเอง ซึ่งถ้าคนทำอะไรแบบนี้เยอะๆ ก็จะเกิดคำถามต่อว่าแล้วแค่ไหนจะนับว่า AI สร้าง แค่ไหนจะนับว่ามนุษย์สร้าง แน่นอน, มันก็ยิ่งจะท้าทายยิ่งขึ้นไปอีก
แต่ไปๆ มาๆ ปัญหาที่อีรุงตุงนังที่สุดก็คือ คนเริ่มตั้งคำถามว่าภาพที่ AI สร้างมามัน ‘ละเมิดลิขสิทธิ์’ ได้หรือไม่ เพราะในทางเทคนิคภาพที่ AI สร้างมันก็คือการเอาภาพจำนวนมากมา ‘ดัดแปลง’ ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องของ ‘ความเหมาะสม’ หรือ ‘คำถามเชิงปรัชญา’ อีกแล้ว แต่เป็นเรื่องของกฎหมาย
ในทางปฏิบัติ ยังไม่มี AI ตัวไหนในโลกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดทางกฎหมายใดๆ ซึ่งถ้าจะพูดถึงเรื่อง ‘ละเมิดลิขสิทธิ์’ ก็ว่ากันตรงๆ ว่าไม่มีกฎหมายลิขสิทธิ์ที่ใดในโลกพูดชัดๆ ว่าสิ่งที่ AI ทำ ผ่านการ “ดู” ภาพจำนวนมากเพื่อ “เรียนรู้และสร้างแพตเทิร์น” นี่ถือว่าเป็นการ ‘ละเมิดลิขสิทธิ์’ หรือไม่?
เรื่องนี้นับเป็นประเด็นใหม่ แม้แต่ทางแพลตฟอร์มขายภาพชื่อดังอย่าง Shutterstock นั้นก็กลัว ‘งานเข้า’ และทำการแบนภาพโดย AI บนแพลตฟอร์มเรียบร้อยแล้ว หลังมีคนแห่กันเอาภาพที่สร้างโดย AI ไปขายบนแพลตฟอร์ม เพราะถ้าปล่อยไปเรื่อยวันดีคืนดีอาจมีพวก ‘ศิลปิน’ ที่คิดว่า AI นั้น ‘ลอกงาน’ ตัวเองมาฟ้องก็ได้ ก็เลยต้องตัดไฟแต่ต้นลม
ซึ่งตรงนี้ก็น่าจะสนุกมากขึ้นไปอีก และน่าจะเป็นจุดเริ่มของสงครามใหญ่ของเหล่าศิลปินกับนักทำ AI เพราะถ้าจะมองว่าทุกสิ่งในโลกต้องมี ‘เจ้าของ’ ที่ต้อง ‘ขออนุญาต’ คนทำ AI จะมีปัญหาแน่ เพราะมันไม่ใช่แค่ AI วาดภาพ แต่มัน ทุก AI เลย เช่น AI ของ Google ที่เก่งขึ้นไปกับการเข้าถึงคำสืบค้นของเรามันจะถือว่าละเมิดสิทธิ์ของเราที่เอาสิ่งที่เราทำไปพัฒนา AI มั้ย? หรือเทคโนโลยี AI ตรวจจับใบหน้าของ Facebook ที่เรียนรู้จากภาพที่เราอัปโหลดขึ้นไปนั้นมันจะถือว่าละเมิดอะไรบางอย่างหรือไม่?
คำถามมันเต็มไปหมด เพราะทุกวันนี้พัฒนาการด้าน AI ส่วนใหญ่ในโลกมันก็ได้จาก ‘ข้อมูลที่อยู่ในที่สาธารณะ’ ทั้งนั้น และการที่คนที่จะทำ AI ต้องไปนั่งขออนุญาต ‘เจ้าของข้อมูล’ ทั้งหมดก่อนเอามาป้อนระบบให้ AI เรียนรู้นั้นมันก็หมายความว่าพัฒนาการด้าน AI ของมนุษยชาติอาจช้าลงไปเป็นสิบเท่า ร้อยเท่าเลย
และตรงนี้เราก็คงจะเห็นว่าข้อถกเถียงเกี่ยวกับ AI วาดรูปนั้นมันไม่ใช่แค่เรื่องของจริยธรรม หรือเรื่องของกฎหมายด้วยซ้ำ แต่มันผูกโยงกับพัฒนาการทางเทคโนโลยีของมนุษย์ ซึ่งบางทีมันก็ไม่มีอะไรที่ ‘ถูกต้อง’ หรอก แค่เราเลือกทางหนึ่งพัฒนาการมันก็จะเป็นไปแบบหนึ่ง และเลือกอีกทาง พัฒนาการมันก็จะเป็นไปอีกทางเท่านั้นเอง โดยแต่ละทางมันก็มีข้อดีข้อเสียของมัน
ซึ่งสิ่งเลวร้ายที่สุดก็คือการที่เราถูกบีบให้เลือกสักทางก่อนที่เราจะเห็นแผนที่ของข้อดีข้อเสียทุกทางเลือกเสียก่อน
อ้างอิง
- Ars Technica. Flooded with AI-generated images, some art communities ban them completely. https://bit.ly/3f6Lp66
- Vice. Shutterstock Is Removing AI-Generated Images. https://bit.ly/3R27fos