วิจัยหลายชิ้นชี้ตรงกันว่า ผู้หญิงจะถึงจุดสุดยอดจาก ‘ท่าหมา’ ได้ยากที่สุด
โลกนี้มี ‘ท่าร่วมเพศ’ ที่หลากหลาย แน่นอนว่าคนแต่ละคนในแต่ละอารมณ์หรือช่วงเวลาของชีวิตก็อาจนิยมท่าร่วมเพศที่ต่างกัน ดังนั้นการบอกว่าท่ารวมเพศท่าไหน ‘ดีที่สุด’ ก็คงเถียงกันตาย เพราะนี่ดูจะเป็นเรื่องของ ‘รสนิยม’ ล้วนๆ
อย่างไรก็ดี นั่นไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้วิทยาศาสตร์ไม่สามารถศึกษาท่าร่วมเพศได้ แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ มันมีงานวิจัยหลายชิ้นที่พยายามค้นหาท่าร่วมเพศที่ดีที่สุดของมนุษย์ ไม่ว่าจะคิดจากความพึงพอใจของผู้ร่วมเพศตรงๆ หรือคิดคำนวณจากปริมาณเลือดที่ไปไหลเวียนแถวอวัยวะเพศ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ ‘เป็นกลาง’ กว่า
และก็น่าสนใจว่า งานวิจัยแต่ละชิ้นก็ดูจะให้ผลไม่ตรงกันนัก เช่นงานจากฝั่งอเมริกาก็จะบอกว่า ท่าที่ดีที่สุดคือท่ามิชชันนารีแบบที่มีหมอนรองตรงสะโพกผู้หญิง แต่งานจากทางเชกจะบอกว่าท่าที่ดีที่สุดคือท่า Woman on Top
แต่ที่น่าสนใจกว่าก็คือ งานทั้งหมดกลับบอกว่า Doggy Position หรือ ‘ท่าหมา’ คือท่าที่แย่ที่สุด
คำถามคือทำไม? มนุษย์สมัยก่อนไม่ได้ร่วมเพศกันด้วย ‘ท่าหมา’ หรือ?
อย่างแรกที่ต้องเข้าใจตรงกันก่อนก็คือ จริงๆ ‘คนสมัยก่อน’ เขาไม่ได้ร่วมเพศกัน ‘ท่าหมา’ นะ ซึ่งท่าคลาสสิกจริงๆ ของมนุษย์คือท่ามิชชันนารี และท่านี้จริงๆ แล้วมันเกิดก่อนมนุษย์อีก ลิงจำนวนมากก็ร่วมเพศกันท่ามิชชันนารี และอารยธรรมโบราณอย่างจีนก็ร่วมเพศกันท่านี้เป็นปกติ
จริงๆ พวกมนุษย์ที่เริ่มใช้ ‘ท่าหมา’ หลักๆ คือพวกกรีกโบราณ ซึ่งสาเหตุที่นิยมท่านี้ส่วนหนึ่งก็เพราะการร่วมเพศในอุดมคติมันคือการร่วมเพศระหว่างผู้ชายด้วยกัน (ซึ่งเขาจะมีการกำหนดด้วยว่าฝ่ายที่ถูกสอดใส่คือฝ่ายอายุน้อยกว่า แต่นั่นเป็นอีกเรื่อง) ดังนั้นก็ไม่แปลกที่จะใช้ ‘ท่าหมา’ กันในฐานะท่าร่วมเพศหลักของสังคม เพราะด้วยสรีระและการสอดใส่ทางทวารหนัก มันสอดใส่ด้วย ‘ท่าหมา’ ง่ายกว่า
ต่อมาฝ่ายที่ยกเลิก ‘ท่าหมา’ คือศาสนจักรในยุคกลาง ซึ่งเหตุผลก็เข้าใจได้ว่าเขาเน้นว่าการร่วมเพศต้องเป็นไปเพื่อขยายเผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้น จะเป็นไปเพื่อความเพลิดเพลินไม่ได้ ดังนั้นท่าแปลกๆ ในการร่วมเพศจึงถูกยกเลิกไปหมด เหลือแต่ท่าเบสิคแบบมิชชันนารี และไอเดียเรื่อง ‘ท่ามิชชันนารี’ ก็เลยแพร่หลายในวัฒนธรรมคริสต์ โดยเฉพาะในยุคอาณานิคม ที่พวกหมอสอนศาสนาไปสอนให้พวก ‘คนป่าเถื่อน’ ร่วมเพศกันอย่างถูกต้อง
แต่ถ้าเราไปค้นบันทึกดีๆ ก็จะพบว่า พวกชนพื้นเมืองก็ร่วมเพศกันด้วยท่ามิชชันนารีนี่แหละ ไม่มีใครเขาใช้ท่าหมากัน ดังนั้นการสอนให้คนพื้นเมืองใช้ท่ามิชชันนารี ก็คือการสอนสิ่งที่คนพื้นเมืองเขาทำกันอยู่แล้ว
…อ่านถึงตรงนี้อาจงง ว่าถ้าอย่างนั้น ‘ท่าหมา’ มาจากไหน คำตอบเร็วๆ คือน่าจะมาจาก ‘หนังโป๊’ มากกว่า และท่าหมาก็อาจเป็นหนึ่งในท่าจากหนังโป๊ที่จริงๆ แล้วมันไม่ได้แพร่หลายเลยในสังคมก่อนที่คนจะเรียนรู้เรื่องเพศจากหนังโป๊
แล้วทำไม ‘ท่ามิชชันนารี’ ถึงเป็น ‘ท่าพื้นฐาน’ ทั่วโลก? คำตอบในทางวิทยาศาสตร์ ก็คือ ด้วยสรีระท่านี้มันมีการเสียดสีคลิตอริสที่สุด และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้หญิงถึงมีโอกาส ‘เสร็จ’ ในท่านี้มากกว่า ‘ท่าหมา’
ถ้าจะอธิบายด้วยตรรกะนี้ เราก็จะเข้าใจเช่นกันว่าทำไมผลการวิจัยจากเชก ท่าที่คนชอบที่สุดถึงเป็น Woman on Top เพราะสุดท้ายความคล้ายคลึงกันของท่านี้กับท่ามิชชันนารีก็คือการเสียดสีคลิตอริส อันเป็นสิ่งที่ขาดไปโดยสิ้นเชิงใน ‘ท่าหมา’
ดังนั้นในแง่นี้ ‘ท่าหมา’ จึงเป็นท่าที่แย่ที่สุดในเชิงการกระตุ้น ‘จุดสุดยอด’ ของผู้หญิง ส่วนท่าที่ดีที่สุดจะเป็นท่ามิชชันนารี หรือท่า Woman on Top นั้น ไปๆ มาๆ อาจขึ้นอยู่กับรสนิยมคนตอบว่าชอบเป็นฝ่ายที่ ‘ออกแรง’ และ ‘คุมสเต็ป’ หรือเปล่า เพราะมิติการเสียดสี จริงๆ สองท่านี้จะคล้ายๆ กัน แต่ความต่างคือท่าหนึ่ง ฝ่ายชายเป็นคนออกแรงและคุมสเต็ป ส่วนอีกท่าหนึ่ง ฝ่ายหญิงเป็นคนออกแรงและคุมสเต็ป
อ้างอิง
- IFLS. The Position Most Likely To Make Women Orgasm, According To A New Study. https://bit.ly/3POIcFr