ซีรีส์วาย = Why? ความบันเทิงที่ ‘กล้า’ จะตั้งคำถาม นำเสนอความจริง-เสียดสีปัญหาสังคม

3 Min
1002 Views
28 Mar 2022

ปัจจุบันกระแส ‘ซีรีส์วาย’ (Y หรือ Yaoi) ถูกนำมาฉายผ่านหน้าจอละครโทรทัศน์มากขึ้นกว่าในอดีต อีกทั้งยังเป็นกระแสพุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความเป็น ‘คู่จิ้นชาย-ชาย’ ได้รับความนิยมในหลายๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นไทย เกาหลี ญี่ปุ่น จีน ต่างแข่งขันกันผลิตซีรีส์วายออกมาสู่ตลาดโลกไม่หยุดเช่นกัน

แน่นอนว่าประเด็น ‘วัฒนธรรมวาย’ กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่มีการถกเถียง และวิพากษ์วิจารณ์อยู่เรื่อยๆ อย่างก่อนหน้านี้ก็มีการพูดถึงการเซนเซอร์ฉากจูบ หรือการตัดบางฉากบางตอนออก ทำให้มีผู้คนต่างเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นต่อมุมมอง และทัศนคติของความหลากหลายทางเพศ ตลอดจนสิทธิความเท่าเทียมทางเพศในสังคมไทย ที่อาจจะเป็นเพียงแค่เรื่องผิวเผินที่ไม่ได้การยอมรับอย่างแท้จริง

หรือไม่นานมานี้จากการที่ช่องทีวีต่างๆ หันมาผลิตซีรีส์วายในตลาดบันเทิงมากยิ่งขึ้น ทำให้กลุ่มคนบางกลุ่ม เช่น วัยผู้ใหญ่ที่ได้รับชมซีรีส์วาย แสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีการนำเสนอมากจนเกินไป จึงกังวลกรณีรักร่วมเพศในประเทศจะมีเพิ่มมากขึ้น รวมถึงอาจเกิดการเลียนแบบพฤติกรรมได้ บ้างก็ว่าเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม และไม่เหมาะสม

ถ้าหากติดตามซีรีส์วายบ้านเราในขณะนี้ จะรู้ว่าไม่ได้มีการนำเสนอแค่เรื่องราวชีวิต หรือเรื่องราวเส้นทางความรักเท่านั้น เพราะล่าสุดค่าย GMMTV ได้เปิดกว้างให้ผลิตซีรีส์วาย ‘NOT ME…เขาไม่ใช่ผม’ โดยฝีมือการกำกับของ ‘นุชชี่’-อนุชา บุญยวรรธนะ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องมะลิลา และอนธการ ที่ตั้งคำถามกับปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นในประเทศ จนทำให้แฮชแท็ก #NotMeSeries ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ไทยเป็นอันดับต้นๆ ทุกครั้งที่มีการออกอากาศ

ไฮไลต์ที่น่าสนใจของ NOT ME…เขาไม่ใช่ผม คือ นับเป็นซีรีส์เรื่องแรกๆ เลยก็ว่าได้ที่ไม่ได้ขายบทบาทหรือความสามารถของนักแสดงชาย-ชายเท่านั้น แต่มีการหยิบยกสถานการณ์ต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้น หรือกำลังเกิดขึ้นอยู่ในสังคมมาถ่ายทอดได้อย่างน่าสนใจ แถมยังตรงไปตรงมา

สิ่งที่ถูกนำเสนอในซีรีส์เรื่องนี้มีตั้งแต่ประเด็นการเรียกร้องสมรสเท่าเทียมให้กับกลุ่มหลากหลายทางเพศในสังคม ไปจนถึงการตีแผ่ความจริงเรื่องกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม การชุมนุมประท้วงเพื่อปรับแก้กฎหมายและเรียกร้องให้เกิดความเสมอภาคในสังคม การวิพากษ์วงจรการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้มีอิทธิพล และการถูก ‘อุ้มหาย’ ของนักเคลื่อนไหว ทำให้บนโลกโซเชียลมีคนแสดงความคิดเห็น และชื่นชมซีรีส์ โดยเฉพาะตอนจบที่สร้างความฮือฮาอย่างมาก

หนึ่งในนั้นก็คือ ‘ประจักษ์ ก้องกีรติ’ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า เราก้าวมาถึงจุดที่ประเด็น ‘การบังคับบุคคลให้สูญหาย’ (forced disappearance) โดยรัฐถูกนำเสนอในละครทีวี ขอบคุณผู้กำกับ และคนเขียนบท พร้อมกับทิ้งท้ายว่า “วัฒนธรรมของสังคมเปลี่ยนไปในทางที่ก้าวหน้าได้เสมอ ถ้าเราช่วยกันขับเคลื่อนให้มันเปลี่ยน”

ขณะที่ผู้รับชมคนอื่นๆ ก็ได้แสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกันผ่านทวิตเตอร์ เช่น “NOT ME…เขาไม่ใช่ผม แทบจะเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวการต่อสู้ของประชาชนกับผู้มีอำนาจ รวมไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และไม่เคยแก้ไข”

หรืออีกตัวอย่าง “ในตอนจบของซีรีส์ที่ตำรวจไม่ได้มาช่วยอย่างทุกเรื่อง ตัวเอกของเรื่องโดนอุ้มไปฆ่า และคนที่มาช่วยกลับกลายเป็นพลังมวลชนที่มาร้องตะโกน ‘ปล่อยเพื่อนเรา’ มันโคตรอิมแพคจริงๆ ดูกี่ครั้งน้ำตาก็ไหล ซาวน์ประกอบก็โคตรดี นักแสดงทุกคนเล่นดีหมดเลย”

ด้านผู้กำกับ ได้โพสต์ถึงตอนสุดท้ายของซีรีส์ว่า “ลองนำเสนอความเป็นจริงของสังคมไทย คือฉากอุ้มฆ่านักต่อสู้ขับเคลื่อนสังคมในซีรีส์ดูค่ะ ต้องขอบคุณ gmmtv ที่ให้นำเสนอฉากนี้ได้นะคะ”

ทั้งนี้ จากสถิติการสำรวจของทาง AIS Play กับ GMMTV ซึ่งรวมไว้ตอนที่ฉาย EP.14 นั้นปรากฏว่า มีจำนวนคนดูมากและถูกกล่าวถึงในสื่อสังคมออนไลน์ กระทั่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ถึง 18 ประเทศ โดยไม่ใช่แค่ในไทย แต่ยังขึ้นเทรนด์ที่เวียดนาม เปรู สิงคโปร์ โปแลนด์ และบราซิลด้วย

อย่างไรก็ตาม นี่อาจจะแสดงให้เห็นว่า ซีรีส์วายก็สอดแทรกสถานการณ์ต่างๆ ในสังคม หรือปัญหาที่ถูกซุกไว้ใต้พรมมาอย่างยาวนานจนไม่มีใครกล้าแตะมัน รวมถึงความบันเทิงนี้ก็สามารถสร้างอิมแพคอะไรบางอย่างได้เช่นกัน

และยังเป็นจุดประกายเล็กๆ ในตลาดบันเทิงไทยที่สะท้อนให้เห็นว่า หากสังคมบ้านเราเปิดกว้างมากขึ้นก็จะเกิดการรับรู้ และเข้าใจถึงปัญหา เพราะไม่แน่ว่าเสียงขับเคลื่อนเล็กๆ หลายเสียงมารวมกัน อาจทำให้ปัญหานั้นๆ ได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง

อ้างอิง

  • Twitter. @BKKSnow. https://bit.ly/3JBDdVI
  • Twitter. @Nuchyfilm. https://bit.ly/37TZIaG
  • Facebook/AISPLAYOfficial. ขอบคุณทุกคนที่ติดตามรับชมและทำให้ #NotMeSeriesFinalEP ดีเกินต้าน!?. https://bit.ly/3Nd4Jv8
  • Prachachart. “วาย” จากวัฒนธรรมเฉพาะกลุ่มก้าวสู่กระแสหลัก ขุมทรัพย์ใหม่ธุรกิจบันเทิง-หนังสือ. https://bit.ly/3uj39PH