2 Min

การ ‘ดูแลตัวเอง’ เป็นสิ่งที่ดี แต่การทำอย่างนี้เพื่อ ‘หนีโลก’ ก็ปกติมากเช่นกัน

2 Min
4 Views
21 Aug 2025

ทุกวันนี้ผู้คนดูแลเอาใจใส่ตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเสริมความงามตัวเอง เข้ายิม นั่งสมาธิ กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หากิจกรรมที่ทำเพื่อบำรุงสุขภาพจิต หรือกระทั่งการนั่งเฉยๆ เผื่อพักผ่อน และการนอนหลับให้เพียงพอ

แน่นอน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องดี แต่นักบำบัดก็เตือนว่า ในขณะที่การ ‘ดูแลตัวเอง’ (Self-Care) เป็นสิ่งที่ดีโดยตัวมันเอง แต่คนจำนวนไม่น้อยก็ใช้มันเพื่อการ ‘หนีโลก’ (escapism) ด้วยเช่นกัน

อะไรคือการหนีโลก? จริงๆ นิยามมันง่ายมาก มันคือเวลาที่คุณ ‘ต้อง’ ทำสิ่งหนึ่ง แต่คุณกลับหนีไปทำอีกสิ่งหนึ่ง นั่นแหละคือการ ‘หนีโลก’ ดังนั้นหน้าตาของกิจกรรมที่หนีโลกไม่ได้ตายตัว กิจกรรมที่ดูไร้พิษภัย ดีต่อกายและใจ มันก็อาจเป็นการหนีโลกก็ได้ ถ้าคุณมาง่วนทำกิจกรรมนี้ แทนที่คุณจะทำสิ่งอื่นที่คุณต้องทำแต่คุณหลีกเลี่ยงไม่ยอมทำ

แล้วในทางปฏิบัติมันต่างกันยังไง? คำตอบคือมันไม่ต่างสำหรับคนที่มองจากข้างนอก มันสังเกตไม่ได้ มีแต่คนทำเท่านั้นที่รู้เอง

โดยนักบำบัดก็จะบอกว่าไม่ว่าจะเป็นการ ‘ดูแลตัวเอง’ หรือ ‘หนีโลก’ มันอยู่ที่เหตุผล การดูแลตัวเองคือคุณทำเพราะคุณอยากจะทำ แต่การหนีโลกคุณทำ ‘แทนที่’ การทำอย่างอื่นที่คุณไม่อยากจะทำ

นี่เป็นเส้นแบ่งบางๆ ที่มีไว้สำรวจตัวเอง โดยที่คนอื่นก็บอกเราไม่ได้

คนในครอบครัวเราอาจเห็นเราเล่นเกมอย่างสนุกสนานก่อนนอน ซึ่งความเป็นจริงมีแต่เราที่รู้ว่าเราทำเพราะอยากผ่อนคลาย อยากให้เวลาตัวเองกับสิ่งที่อยากทำ หรือจริงๆ เราทำเพราะเราจะได้ลืมๆ ว่าเราต้องนั่งเคลียร์งานที่กำหนดส่งมันตั้งแต่สองวันก่อน

การหนีโลกไม่ใช่สิ่งที่ดี และบางทีมันทำให้ปัญหาสะสมเพราะหากเรายิ่งหนีโลกมากเท่าไหร่ ลึกๆ เรากลับยิ่งเครียด และถ้าไม่จัดการมันเลยก็จะยิ่งเครียดสะสม แต่ก็อย่างที่ว่ามา จริงๆ แล้วมีแต่เจ้าตัวเท่านั้นเองที่รู้ว่ากำลัง ‘ดูแลตัวเอง’ หรือกำลัง ‘หนีโลก’ มันไม่ง่ายที่จะระบุ คนจำนวนมากดูภายนอกดูแลตัวเองดีสุดๆ แต่ความจริงที่เขาเป็นแบบนี้เพราะเขาหนีโลกสุดๆ จึงไม่ยอมทำสิ่งที่ต้องทำ และไม่ยอมจัดการอะไรให้มันจบ 

นี่จึงทำให้ปัญหานี้ ถ้าจะแก้มันต้องเริ่มจากการยอมรับก่อนว่าเราเป็นพวกชอบ ‘หนีโลก’ และในที่นี้ก็ต้องเข้าใจอีกว่า มนุษย์ทั่วไปการหนีโลกบ้างเป็นครั้งคราวเป็นเรื่องปกติประเด็นคือเมื่อหนีแล้วกลับไปจัดการกับสิ่งที่ต้องจัดการ การ ‘หนีโลก’ ก็จะเป็นเสมือนการมาพักร้อนเท่านั้นเอง

กลับกัน สำหรับคน ‘หนีโลก’ เรื้อรังระดับเสพติด มันไม่ง่ายเลยที่จะกลับไปเผชิญปัญหาต่างๆ ที่หนีมา เพราะหนีจนชินแล้ว แบบนี้ก็อาจต้องแก้กันนานหน่อย และแน่นอนว่าหลายๆ เรื่องมันไม่ใช่แค่ไปแก้ปัญหาก็จบๆ บางอย่างที่คนเราต้องหนี เพราะเรา ‘ทำไม่ได้’ แบบ ‘ทำไม่ได้’ จริงๆ เพราะไม่ใช่ทุกสิ่งในโลกนี้ที่แค่พยายามแล้วเราจะทำได้

ถ้าเป็นแบบนี้การพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อความเข้าใจตรงกันก็เป็นสิ่งจำเป็น โดยเราต้องไปพูดไปเคลียร์กับทุกฝ่ายให้ชัดว่า เราไม่ทำแล้ว เพราะเราไม่สามารถจริงๆ นี่ก็เป็นทางแก้การ ‘หนีโลก’ อย่างหนึ่งที่เป็นไปได้ และถ้าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจมากพอ เขาก็น่าจะยอมรับ และหาวิธีจัดการแบบอื่นแทน

ใดๆ ก็ตาม ถ้าเรามีคนใกล้ตัวที่ดูแลตัวเองอย่างดี เราก็อย่าเพิ่งไปตัดสินว่าชีวิตเขาจะราบรื่นเสมอไป เพราะในทางจิตวิทยา การหมกมุ่นดูแลตัวเองเพื่อ ‘หนีโลก’ หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับปัญหานับเป็นเรื่องปกติ และการที่คนรอบข้างเข้าใจและให้ความช่วยเหลือมันก็อาจเป็นการทำให้การ ‘หนีโลก’ จบไป และทำให้เขาสามารถทำกิจกรรมต่างๆ โดยเป็นการ ‘ดูแลตัวเอง’ ได้อย่างแท้จริง

อ้างอิง:

  • CNBC. Health and Wellness There’ s a fine line between self-care and escapism. Here’ s how to spot the difference, according to a therapist. https://shorter.me/nkjmG