2 Min

ถ้าเด็กเล็กๆ อยู่ ‘หน้าจอ’ มากเกินไป จะเกิดอะไรขึ้น? แล้วพ่อแม่ควรแก้ไขอย่างไรดี

2 Min
8 Views
23 Jul 2025

สำหรับผู้ปกครองในยุคปัจจุบันจำนวนไม่น้อย การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องไม่ยาก เพราะต่างจากในอดีตที่เด็กร้องก็ต้องหยุดกิจกรรมทุกอย่างไปทำให้เด็กหยุดร้อง เพราะยุคนี้แค่โยนมือถือหรือแท็บเล็ตให้เด็กเล่น เด็กก็จะหยุดร้อง และเราก็สามารถจะลงแอปพลิเคชัน ‘เพื่อการศึกษา’ ที่ต่างโฆษณาว่าพัฒนาสติปัญญาเด็ก ให้เด็กเล่นก็ได้ 

ปัญหาจบ พ่อแม่มีเวลาว่างมากขึ้น ลูกฉลาดขึ้น

…เว้นแต่ว่ามันไม่เป็นแบบนั้น

ทุกวันนี้นักจิตวิทยาเด็กจำนวนมากในโลก พบว่าเด็กมีปัญหาพัฒนาการแบบที่ไม่เคยเกิดมาก่อน เช่น อายุ 3 ขวบแล้วไม่สามารถพูดสื่อสารได้ หรือไม่มีความตระหนักรู้ในเชิงพื้นที่ว่ามีอะไรอยู่รอบๆ ตัวบ้าง ซึ่งสำหรับนักจิตวิทยาเด็ก มันคือความผิดปกติ เพราะใน 3 ปีแรกของเด็ก ปกติเด็กจะมีพัฒนาการเร็วมาก และเริ่มสื่อสารได้แล้ว

แน่นอนว่าได้มีความพยายามจะหาสาเหตุ ถ้าอธิบายง่ายๆ สาเหตุมันย้อนไปที่เรื่องเดียวกันหมด คือเด็กที่มี ‘ปัญหาพัฒนาการ’ แบบนี้ พ่อแม่มักจะให้อยู่กับแท็บเล็ตเป็นเวลานาน โดยที่เขาสังเกตเห็นคือ ถ้าเด็กอยู่หน้าจอ 6-12 ชั่วโมง ในวัยแบเบาะจะมีปัญหาแบบเดียวกันหมด

สำหรับพ่อแม่ที่งานยุ่ง จะมองว่าไม่มีเวลาสอนเด็กเรื่องต่างๆ จึงพึ่งพาพวกแอปเพื่อการศึกษาให้สอนแทน ปัญหาคือแอปเหล่านี้ไม่ได้สอน ‘ภาษา’ ให้กับเด็ก มันไม่ทำให้เด็กพูดจาหรือสื่อสารได้ เด็กที่เล่นแอปเหล่านี้โดยที่ยังไม่มีทักษะด้านภาษาเลย ก็จะจับได้แต่ภาพกับเสียง แต่ไม่ได้เรียนรู้เรื่องภาษา และนี่เป็นเหตุผลว่าต่อให้เด็กเล็กเล่น ‘แอปฝึกภาษา’ ให้ตาย เด็กก็พูดไม่ได้ และพอเด็กพูดไม่ได้ ก็จะสื่อสารกับเด็กคนอื่นไม่ได้ และทำให้ขาดทักษะการเข้าสังคมตามมา เป็นปัญหาต่อเนื่อง

แล้วต้องแก้อย่างไร นักจิตวิทยาเด็กก็จะบอกว่าให้หักดิบ คือให้เด็กงดมีปฏิสัมพันธ์กับหน้าจอไปเลย ไม่เกิน 2 เดือน เห็นผลแน่นอน ทั้งทักษะภาษาไปจนถึงการเข้าสังคมของเด็กจะพัฒนาขึ้นทันตา เพราะถูกบังคับให้ต้องเผชิญหน้ากับสังคมและโลกวัตถุ

ดังนั้นถ้าใครมีลูกแล้วเจอปัญหาแบบนี้ ไม่ต้องซีเรียส มันแก้ได้ แต่ต้องใจแข็ง มีความเด็ดขาด ไม่ให้เด็กหมกมุ่นอยู่แต่กับหน้าจออีก แต่นั่นก็หมายความว่าพ่อแม่ก็ต้องหากิจกรรมอื่นๆ ให้ลูกทำเช่นกัน มันอาจไม่ง่าย แต่การเลี้ยงเด็กมาตลอดประวัติศาสตร์ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว และเราก็ไม่ควรจะคาดหวังว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ จะทำให้การเลี้ยงมนุษย์คนหนึ่งมันง่ายถึงขนาดโยนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใส่เด็กแล้วสิ่งนั้นจะเลี้ยงเด็กแทนเราได้

สุดท้าย แม้ว่าโดยทั่วไปทุกวันนี้จะมองกันว่าเด็กเล็กๆ ถ้าไม่ให้ดูหน้าจอเลยจะดีที่สุด แต่การให้ดูรายการสำหรับเด็กวันละนิดหน่อย สักประมาณวันละไม่เกิน 1 ชั่วโมง เขาก็มองว่าไม่น่าจะถึงขนาดทำให้เกิดปัญหาด้านพัฒนาการต่างๆ ซึ่งก็ต้องเข้าใจว่าการดูรายการเด็กวันละ 1 ตอน มันเป็นคนละเรื่องกับการให้เด็กเล็กเล่นแท็บเล็ตเกินครึ่งหนึ่งของเวลาที่ตื่นอยู่แน่นอน

แต่ถามว่าในระหว่างอยู่หน้าจอ 1 ชั่วโมงคือความปลอดภัย และอยู่หน้าจอเกิน 6 ชั่วโมงจะทำให้เกิดปัญหาด้านพัฒนาการ ตัวเส้นแบ่งมันอยู่ตรงไหน หมายความว่าต้องอยู่หน้าจอไม่เกินหนึ่งชั่วโมงถึงจะปลอดภัย?

คำตอบเร็วๆ ก็คือยังไม่มีงานวิจัยมาตอบ และมีความเป็นไปได้สูงว่ามันอาจต่างกันไปในเด็กแต่ละคน และนั่นทำให้การหา ‘ค่าเฉลี่ย’ ไม่ได้ช่วยเราในการเลี้ยงเด็กเลย เพราะเราจำเป็นต้องสังเกตเองอยู่ดี

ดังนั้นในกรณีของพ่อแม่ที่จำเป็นต้องให้ลูกอยู่หน้าจอ ประเด็นสำคัญอาจไม่ใช่ปริมาณชั่วโมง แต่เป็นเรื่องของ ‘พัฒนาการ’ ของเด็กที่ควรจะมีตามวัยมากกว่า และก็แน่นอนอีกว่าถ้าเด็กเล็ก 2-3 ขวบ เริ่มมีปัญหาพัฒนาการ การลดเวลาในการอยู่หน้าจอของเด็ก ไปจนถึงการหักดิบไปเลยก็น่าจะเป็นวิธีบำบัดขนานแรกสุดที่ควรลอง

อ้างอิง: