“ชีวิตจะหาทางของมัน”
ประโยคคลาสสิกจากแฟรนไชส์หนังเรื่อง Jurassic Park ซึ่งถูกพูดมาตั้งแต่ภาคแรกในปี 1993 จนถึงบทสรุปไตรภาคในปี 2022 และถ้าใครเป็นแฟนหนังเรื่องนี้ ก็คงจะรู้ว่าไดโนเสาร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาทั้งหมดเป็น ‘ตัวเมีย’ แต่สุดท้ายก็กลับขยายพันธุ์ได้
ภาคล่าสุดใน Jurassic World Dominion ก็ได้มีการ ‘เฉลย’ แล้วว่าจริงๆ ไดโนเสาร์ที่เป็นตัวเมียสามารถขยายพันธุ์เองได้ราวกับการ ‘โคลน’ ตัวเองนั้น มันทำได้เพราะมีการตัดต่อยีนของ Monitor lizard เข้าไป ซึ่งจริงๆ Monitor lizard นี้เรียกกันแบบบ้านๆ เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ‘ตัวเหี้ย’ นี่แหละ
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบตั้งแต่ปี 2006 แล้วว่า ‘สัตว์ตระกูลเหี้ย’ อย่างมังกรโคโมโดตัวเมียในสวนสัตว์มีความสามารถในการออกไข่และสร้างลูกรุ่นต่อไปได้เองตามธรรมชาติโดยไม่ต้องผสมพันธุ์กับตัวผู้ ต่อมาก็พบว่า สัตว์ตระกูลนี้มีความสามารถแบบนี้กันเป็นเรื่องปกติ
นี่เป็นปรากฏการณ์น่าทึ่งที่เรียกว่า ‘Parthenogenesis’ หรือถ้าแปลตรงๆ ก็จะออกมาลิเกๆ หน่อยว่า ‘การเกิดขึ้นอย่างบริสุทธิ์’
ปรากฏการณ์นี้เกิดจากการที่ไข่ของมันมีการแบ่งเซลล์ให้เกิดคู่โครโมโซมขึ้นมาให้เซลล์แบ่งตัวเป็นสิ่งมีชีวิต หรือพูดง่ายๆ มันคือร่างกาย ‘จำลองการปฏิสนธิ’ ด้วยเซลล์ตัวเอง และทำให้สิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นมามีพันธุกรรมเหมือนตัวเองเกือบหมด คล้ายการ ‘โคลน’ (clone) แต่มีความแตกต่างก็คือสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากกระบวนการนี้จะมีแค่ ‘เพศผู้’ เท่านั้น
ทำไมต้องเพศผู้? ไม่ใช่เพราะธรรมชาติมีความ ‘ชายเป็นใหญ่’ อะไรแบบนั้น แต่อยากให้ลองคิดภาพของสิ่งมีชีวิตที่มีระบบโครโมโซมเพศ X และ Y แบบมนุษย์ ผู้หญิงนั้นจะมีโครโมโซม XX ไม่มีโครโมโซม Y ดังนั้นผู้หญิงไม่สามารถให้กำเนิดผู้ชายเองได้โดยปราศจากอสุจิ เพราะโครโมโซมจะไม่ครบ แต่ในทางทฤษฎี ถ้าเซลล์ของผู้หญิงมันมีการ ‘สร้างก๊อปปี้ของตัวเอง’ ก็เป็นไปได้ที่จะสร้างสิ่งมีชีวิตที่มีโครโมโซมเหมือนตัวเองได้ เพราะผู้หญิงมีโครโมโซม X อยู่แล้ว ดังนั้นมันสร้างผู้หญิงอีกคนที่มีโครโมโซม XX เหมือนกันได้
พูดง่ายๆ ใน ‘ไข่’ ของผู้หญิงมันมีวัตถุดิบทางพันธุกรรมเพียงพอจะสร้าง ‘โคลน’ ของตัวเองได้อยู่แล้ว
ทีนี้ในกรณีตัวเหี้ย มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใช้ระบบโครโมโซมเพศแบบ W และ Z ซึ่งสิ่งมีชีวิตพวกนี้จะสลับกับมนุษย์ เพราะตัวผู้มันจะมีโครโมโซม ZZ ส่วนตัวเมียจะมีโครโมโซม WZ และไข่ของตัวเหี้ยแต่ละฟองก็จะมีโครโมโซมถ้าไม่ W ก็ Z เท่านั้น และโดยทั่วไปก็คือจะรอโครโมโซม Z จากตัวผู้เพื่อทำการปฏิสนธิ
แล้วกระบวนการ ‘โคลนตัวเอง’ มันจะเกิดอะไรขึ้น? คำตอบง่ายๆ คือ ไข่ตัวเหี้ยมันแบ่งเซลล์และผลิตโครโมโซมแบบเดียวกันมาอีกชุด แล้วจับคู่โครโมโซมเองเพื่อจำลองการปฏิสนธิ โดยในแง่นี้ไข่ที่โครโมโซม W ก็จะสร้างการปฏิสนธิด้วยคู่โครโมโซมเพศ WW ส่วนไข่ที่โครโมโซม Z มันก็จะสร้างการปฏิสนธิด้วยคู่โครโมโซม ZZ
ซึ่งถ้าย้อนกลับไปอ่าน ตัวเหี้ยมันมีโครโมโซม ZZ หรือ WZ ได้เท่านั้น แต่มี WW ไม่ได้ ดังนั้นผลของการผสมไข่ที่โครโมโซม WW มันจะไม่เกิดหรือไข่จะฝ่อไปเอง ส่วนที่ผสมมาเป็น ZZ ผลก็คือจะเกิดมาเป็นตัวผู้
ดังนั้นในแง่นี้ เวลาตัวเหี้ยเพศเมีย ‘โคลน’ ตัวเองขึ้นมา สิ่งที่จะเกิดได้ตามความเข้าใจของวิทยาศาสตร์ปัจจุบันก็คือ ‘ตัวเหี้ยตัวผู้’ เท่านั้น ซึ่งเขาสันนิษฐานกันว่าตัวเหี้ยพวกนี้เดิมทีมันเป็นสัตว์ว่ายน้ำข้ามเกาะเป็นปกติ หากไปเจอพายุก็อาจทำให้มีแต่พวกตัวเมียที่ไปติดอยู่ในบางเกาะ โดยไม่มีตัวผู้ มันเลยพัฒนากระบวนการนี้เพื่อสืบพันธุ์และขยายพันธุ์ได้โดยไม่ต้องมีตัวผู้ในตอนแรกเริ่มนิคมใหม่
ย้อนกลับไปข้างต้น จริงๆ นักวิทยาศาสตร์ ‘ทึ่ง’ กับกระบวนการนี้ก็เพราะแม้กระบวนการนี้จะเป็นเรื่องปกติมากๆ ในพวก ‘สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ’ และพวกสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการมาในระดับสูงแบบสัตว์มีกระดูกสันหลังก็มีไม่กี่สายพันธุ์ที่ทำได้ ซึ่งสัตว์ตระกูลเหี้ยก็ถือว่าเป็นสัตว์ที่มีวิวัฒนาการสูงสุดแล้วที่มี ‘ความสามารถ’ แบบนี้
ถามว่าความรู้แบบนี้จะเอาไปทำอะไรได้? คำตอบคือเยอะมาก ไม่ใช่แค่สร้างไดโนเสาร์ที่มีตัวเดียวก็สืบพันธุ์ได้แบบใน Jurassic Park แต่มันเอาไปใช้เป็น ‘ทริค’ ในการหลบเลี่ยงการทำ ‘โคลนนิ่ง’ ได้ด้วย เพราะเทคนิคการกระตุ้นให้ไข่ ‘แบ่งเซลล์’ แบบที่ตัวเหี้ยทำนั้นไม่ใช่การ ‘โคลนนิ่ง’ ตามนิยาม แต่มันคือการสืบพันธุ์ตามธรรมชาติ
หรือพูดง่ายๆ ในประเทศที่แบนการโคลนนิ่ง เราสามารถใช้กระบวนการนี้ทดแทนได้ ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะเขาไม่ได้ห้าม ซึ่งในทางเทคนิคเป็นคนละกระบวนการ
นี่แหละครับ สิ่งที่มนุษย์สามารถเรียนรู้ได้จาก ‘ตัวเหี้ย’ ที่ไม่ได้แค่ลากไก่ลงไปกินในน้ำเท่านั้น แต่ยังสามารถ ‘โคลน’ ตัวเองออกมาเป็นเพศตรงข้ามได้ด้วย
อ้างอิง
- Scientific American. Strange but True: Komodo Dragons Show that ‘Virgin Births’ Are Possible. https://bit.ly/3ODnWWI
- Wikipedia. Parthenogenesis. https://en.wikipedia.org/wiki/Parthenogenesis