3 Min

รู้ไหมว่า ‘ตัวเหี้ย’ มีความสามารถในการ ‘โคลน’ ตัวเองได้

3 Min
1324 Views
27 Jun 2022

ชีวิตจะหาทางของมัน 

ประโยคคลาสสิกจากแฟรนไชส์หนังเรื่อง Jurassic Park ซึ่งถูกพูดมาตั้งแต่ภาคแรกในปี 1993 จนถึงบทสรุปไตรภาคในปี 2022 และถ้าใครเป็นแฟนหนังเรื่องนี้ ก็คงจะรู้ว่าไดโนเสาร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาทั้งหมดเป็นตัวเมียแต่สุดท้ายก็กลับขยายพันธุ์ได้

ภาคล่าสุดใน Jurassic World Dominion ก็ได้มีการเฉลยแล้วว่าจริงๆ ไดโนเสาร์ที่เป็นตัวเมียสามารถขยายพันธุ์เองได้ราวกับการโคลนตัวเองนั้น มันทำได้เพราะมีการตัดต่อยีนของ Monitor lizard เข้าไป ซึ่งจริงๆ Monitor lizard นี้เรียกกันแบบบ้านๆ เข้าใจง่ายๆ ก็คือตัวเหี้ยนี่แหละ

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบตั้งแต่ปี 2006 แล้วว่าสัตว์ตระกูลเหี้ยอย่างมังกรโคโมโดตัวเมียในสวนสัตว์มีความสามารถในการออกไข่และสร้างลูกรุ่นต่อไปได้เองตามธรรมชาติโดยไม่ต้องผสมพันธุ์กับตัวผู้ ต่อมาก็พบว่า สัตว์ตระกูลนี้มีความสามารถแบบนี้กันเป็นเรื่องปกติ

นี่เป็นปรากฏการณ์น่าทึ่งที่เรียกว่า ‘Parthenogenesis’ หรือถ้าแปลตรงๆ ก็จะออกมาลิเกๆ หน่อยว่าการเกิดขึ้นอย่างบริสุทธิ์

ปรากฏการณ์นี้เกิดจากการที่ไข่ของมันมีการแบ่งเซลล์ให้เกิดคู่โครโมโซมขึ้นมาให้เซลล์แบ่งตัวเป็นสิ่งมีชีวิต หรือพูดง่ายๆ มันคือร่างกายจำลองการปฏิสนธิด้วยเซลล์ตัวเอง และทำให้สิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นมามีพันธุกรรมเหมือนตัวเองเกือบหมด คล้ายการโคลน’ (clone) แต่มีความแตกต่างก็คือสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากกระบวนการนี้จะมีแค่เพศผู้เท่านั้น

ทำไมต้องเพศผู้? ไม่ใช่เพราะธรรมชาติมีความชายเป็นใหญ่อะไรแบบนั้น แต่อยากให้ลองคิดภาพของสิ่งมีชีวิตที่มีระบบโครโมโซมเพศ X และ Y แบบมนุษย์ ผู้หญิงนั้นจะมีโครโมโซม XX ไม่มีโครโมโซม Y ดังนั้นผู้หญิงไม่สามารถให้กำเนิดผู้ชายเองได้โดยปราศจากอสุจิ เพราะโครโมโซมจะไม่ครบ แต่ในทางทฤษฎี ถ้าเซลล์ของผู้หญิงมันมีการสร้างก๊อปปี้ของตัวเองก็เป็นไปได้ที่จะสร้างสิ่งมีชีวิตที่มีโครโมโซมเหมือนตัวเองได้ เพราะผู้หญิงมีโครโมโซม X อยู่แล้ว ดังนั้นมันสร้างผู้หญิงอีกคนที่มีโครโมโซม XX เหมือนกันได้ 

พูดง่ายๆ ในไข่ของผู้หญิงมันมีวัตถุดิบทางพันธุกรรมเพียงพอจะสร้างโคลนของตัวเองได้อยู่แล้ว 

ทีนี้ในกรณีตัวเหี้ย มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใช้ระบบโครโมโซมเพศแบบ W และ Z ซึ่งสิ่งมีชีวิตพวกนี้จะสลับกับมนุษย์ เพราะตัวผู้มันจะมีโครโมโซม ZZ ส่วนตัวเมียจะมีโครโมโซม WZ และไข่ของตัวเหี้ยแต่ละฟองก็จะมีโครโมโซมถ้าไม่ W ก็ Z เท่านั้น และโดยทั่วไปก็คือจะรอโครโมโซม Z จากตัวผู้เพื่อทำการปฏิสนธิ

แล้วกระบวนการโคลนตัวเองมันจะเกิดอะไรขึ้น? คำตอบง่ายๆ คือ ไข่ตัวเหี้ยมันแบ่งเซลล์และผลิตโครโมโซมแบบเดียวกันมาอีกชุด แล้วจับคู่โครโมโซมเองเพื่อจำลองการปฏิสนธิ โดยในแง่นี้ไข่ที่โครโมโซม W ก็จะสร้างการปฏิสนธิด้วยคู่โครโมโซมเพศ WW ส่วนไข่ที่โครโมโซม Z มันก็จะสร้างการปฏิสนธิด้วยคู่โครโมโซม ZZ

ซึ่งถ้าย้อนกลับไปอ่าน ตัวเหี้ยมันมีโครโมโซม ZZ หรือ WZ ได้เท่านั้น แต่มี WW ไม่ได้ ดังนั้นผลของการผสมไข่ที่โครโมโซม WW มันจะไม่เกิดหรือไข่จะฝ่อไปเอง ส่วนที่ผสมมาเป็น ZZ ผลก็คือจะเกิดมาเป็นตัวผู้

ดังนั้นในแง่นี้ เวลาตัวเหี้ยเพศเมียโคลนตัวเองขึ้นมา สิ่งที่จะเกิดได้ตามความเข้าใจของวิทยาศาสตร์ปัจจุบันก็คือตัวเหี้ยตัวผู้เท่านั้น ซึ่งเขาสันนิษฐานกันว่าตัวเหี้ยพวกนี้เดิมทีมันเป็นสัตว์ว่ายน้ำข้ามเกาะเป็นปกติ หากไปเจอพายุก็อาจทำให้มีแต่พวกตัวเมียที่ไปติดอยู่ในบางเกาะ โดยไม่มีตัวผู้ มันเลยพัฒนากระบวนการนี้เพื่อสืบพันธุ์และขยายพันธุ์ได้โดยไม่ต้องมีตัวผู้ในตอนแรกเริ่มนิคมใหม่

ย้อนกลับไปข้างต้น จริงๆ นักวิทยาศาสตร์ทึ่งกับกระบวนการนี้ก็เพราะแม้กระบวนการนี้จะเป็นเรื่องปกติมากๆ ในพวกสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำและพวกสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการมาในระดับสูงแบบสัตว์มีกระดูกสันหลังก็มีไม่กี่สายพันธุ์ที่ทำได้ ซึ่งสัตว์ตระกูลเหี้ยก็ถือว่าเป็นสัตว์ที่มีวิวัฒนาการสูงสุดแล้วที่มีความสามารถแบบนี้

ถามว่าความรู้แบบนี้จะเอาไปทำอะไรได้? คำตอบคือเยอะมาก ไม่ใช่แค่สร้างไดโนเสาร์ที่มีตัวเดียวก็สืบพันธุ์ได้แบบใน Jurassic Park แต่มันเอาไปใช้เป็นทริคในการหลบเลี่ยงการทำโคลนนิ่งได้ด้วย เพราะเทคนิคการกระตุ้นให้ไข่แบ่งเซลล์แบบที่ตัวเหี้ยทำนั้นไม่ใช่การโคลนนิ่งตามนิยาม แต่มันคือการสืบพันธุ์ตามธรรมชาติ 

หรือพูดง่ายๆ ในประเทศที่แบนการโคลนนิ่ง เราสามารถใช้กระบวนการนี้ทดแทนได้ ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะเขาไม่ได้ห้าม ซึ่งในทางเทคนิคเป็นคนละกระบวนการ

นี่แหละครับ สิ่งที่มนุษย์สามารถเรียนรู้ได้จากตัวเหี้ยที่ไม่ได้แค่ลากไก่ลงไปกินในน้ำเท่านั้น แต่ยังสามารถโคลนตัวเองออกมาเป็นเพศตรงข้ามได้ด้วย

อ้างอิง