ชำแหละ ‘ชีวิตไร้สคริปต์’ ผ่านสายตา ‘ผู้กำกับนักทดลอง’ เบื้องหลังสารคดี School Town King

2 Min
187 Views
23 Dec 2021
ความจริงอันหยาบกร้านในบางแง่มุมของสังคมไทยถูกสะท้อนผ่านสารคดี School Town King (แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน) และกลายเป็นผลงานที่ถูกกล่าวถึงไม่น้อยช่วงปีกว่าๆ ที่ผ่านมา
 
เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะหนังเรื่องนี้กวาดมาแล้วหลายรางวัลในประเทศไทย และถูกนำไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์ที่เกาหลีใต้ Busan International Film Festival (BIFF) เมื่อปีก่อน แถมยังถูกกล่าวขานว่าเป็นสารคดีสะท้อนความเหลื่อมล้ำหลายๆ ด้านที่ฝังรากลึกรอบตัวใครหลายคน
 
ถึงอย่างนั้นก็ตาม ‘วรรจธนภูมิ ลายสุวรรณชัย’ หรือ ‘เบสท์’ ผู้กำกับสารคดีเรื่องนี้ มีความเป็นนักทดลองอยู่ด้วย โดยมาจากปูมหลังการเป็นนักออกแบบมัลติมีเดียในนาม Eyedropper Fill ที่มีผลงานสื่อหลากหลายประเภท
 
สารคดีเรื่องนี้จึงถูกหลายคนแปะฉลากว่าเป็น ‘หนังอินดี้’ ของผู้กำกับ ‘นักทดลอง’
 
แต่ School Town King (แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน) กำลังจะแมสแล้ว เพราะผู้ให้บริการสตรีมมิ่งรายใหญ่ยักษ์ของโลกอย่าง Netflix จะปล่อยสารคดีเรื่องนี้ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 เพื่อให้นักดูหนังทั่วประเทศเข้าถึงได้พร้อมๆ กัน และคาดว่าจะมีอีกหลายประเด็นให้แลกเปลี่ยนกันต่อได้เมื่อดูหนังจบ
 
BrandThink Cinema ได้พูดคุยกับ ‘เบสท์ วรรจธนภูมิ’ ในมุมมอง Director’s Talk ทั้งชำแหละบทบาทคนทำหนังสารคดีและการเป็นนักทดลองที่ใช้หลักการออกแบบผสมผสานกับวิธีการบอกเล่าหรือถ่ายทำหนังแต่ละเรื่องเพื่อที่จะเข้าใจชีวิตของผู้คนในสังคมที่มักไม่ถูกมองเห็น โดยจะเป็นบทสัมภาษณ์แบบขุดคุ้ยถึงแนวคิดและมุมมองการคัดเลือกประเด็นที่สะเทือนความรู้สึกคนดู
 
นอกจากนี้ BrandThink Cinema ยังจะพาย้อนไปดูผลงานชิ้นก่อนหน้าของเขาอีก 3 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ‘Dreamscape’ ‘My Echo, My Shadow and Me’ และ ‘ยามเมื่อแสงดับลา’ ซึ่งบางเรื่องก็ถูกประกอบสร้างเป็นเรื่องราวใน School Town King ในเวลาต่อมา
 
หลายคนยกให้ School Town King เป็นหนึ่งในหนังสารคดีตีแผ่สังคม และเป็นผลงานสะท้อนชีวิตอันไร้สคริปต์ เพราะทำให้เห็นการตั้งคำถามอันเกรี้ยวกราดของวัยรุ่นผู้ใฝ่ฝันจะเป็นแร็ปเปอร์ แต่ต้องเผชิญกับระบบอันกดทับ ที่ส่งผลต่อคืนวันแห่งการเปลี่ยนผ่านของชีวิต (coming of age) ผลงานเรื่องอื่นๆ ของวรรจธนภูมิจึงเป็นสิ่งที่ ‘ไม่ควรพลาด’ เพราะยังมีอีกหลายประเด็นน่าสนใจซึ่งถูกจับจ้องและบอกเล่าผ่านสายตาผู้กำกับนักทดลองคนนี้
 
BrandThink Cinema จะทยอยปล่อยของต่อจากนี้อีกเรื่อยๆ ด้วยความเชื่อมั่นว่าการสร้างบทสนทนาผ่านหนังแต่ละเรื่อง จะนำไปสู่การทำความเข้าใจและเกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่างได้