‘ความปลอดภัยในโรงเรียน’ น่าเป็นห่วงยิ่งกว่าเรื่อง ‘เครื่องแบบ’ เพราะมีนักเรียน ‘เจ็บ-ตาย-ถูกละเมิด’ อยู่ตลอด
อยากรู้แต่ไม่มีเวลา อ่านแค่ตรงนี้พอ
‘เด็กๆ ต้องได้รับการคุ้มครอง’ คือเรื่องพื้นฐานเวลาพูดถึง ‘สิทธิและเสรีภาพของเยาวชน’ ทั้งในกฎหมายไทยและสากล แต่ในความเป็นจริงหลายคนคงได้เห็นข่าวผ่านหูผ่านตาช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ว่ามีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นโดยที่เด็กหลายคนไม่ได้รับการคุ้มครองความปลอดภัยแม้แต่ในรั้วโรงเรียนเพราะมีทั้งอุบัติเหตุ (ถังดับเพลิงระเบิด) การก่อความรุนแรง (รุ่นพี่ใช้ขวานจามรุ่นน้องเสียชีวิต) และกรณีผู้ใหญ่ ‘ปกปิด’ เหตุละเมิดทางเพศเพราะกังวลเรื่องชื่อเสียงโรงเรียนมากกว่าเด็ก
ในเวลาแค่ราวๆ 2 เดือนหลังจากโรงเรียนทั่วประเทศไทย ‘เปิดเทอม’ กันไปช่วงพฤษภาคม 2566 มีเรื่องราวที่กลายเป็นประเด็นถกเถียงมากมาย รวมถึงเหตุสลดครั้งล่าสุดในวันที่ 23 มิถุนายน คือกรณี ‘ถังดับเพลิงระเบิด’ ที่โรงเรียนราชวินิตมัธยม ย่านนางเลิ้ง กรุงเทพฯ ระหว่างการสาธิตดับเพลิงและหนีไฟ ทำให้นักเรียนถูกลูกหลงเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บอีก 11 คน
ซึ่งในวันที่ 27 มิถุนายน 2566 มีรายงานว่า บริษัทประกันซึ่งทางโรงเรียนทำประกันอุบัติเหตุไว้ จะจ่ายค่าสินไหมและค่าปลงศพให้แก่ครอบครัว ‘เบนซ์’ นักเรียนชายชั้น ม.6 ที่เสียชีวิต เป็นเงิน 210,000 บาท แต่ไม่ได้ระบุถึงนักเรียนที่บาดเจ็บ ส่วนสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการสั่งให้มอบเงินเยียวยากรณีนักเรียนเสียชีวิต 30,000 บาท และผู้ที่บาดเจ็บคนละ 5,000 บาท และทางตำรวจจะรวบรวมข้อมูลเพื่อพิจารณาดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ผู้สาธิตการฝึกซ้อมดังกล่าว โดยอาจจะเป็นข้อหา ‘ประมาท’ จนผู้อื่นถึงแก่ความตาย
กรณีนี้ทำให้คนในสื่อโซเชียลไทยจำนวนมากมองว่าโรงเรียนไทยควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากกว่าเข้มงวดเรื่องเครื่องแบบและทรงผม (ที่เป็นประเด็นถกเถียงในสังคมมาเนิ่นนาน) เพราะกระทรวงศึกษาธิการเองก็ยกเลิกกฎระเบียบเกี่ยวกับทรงผมไปบ้างแล้ว (ซึ่งในทางปฏิบัติก็ถูกวิจารณ์เหมือนกันว่าเป็นแค่การส่งไม้ต่อให้ทางโรงเรียนไปตั้งกฎเกณฑ์กันเองว่าจะกำกับดูแลนักเรียนเรื่องนี้อย่างไร)
เพราะถ้าดูสถิติเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนทุกชั้นปี พบว่ามีหลายประเด็นที่โรงเรียนก็น่าจะรู้ว่า ‘มีความเสี่ยง’ แต่ก็ไม่ได้เข้มงวดหรือละเลยจนเกิดเรื่องที่กระทบความปลอดภัยของนักเรียนมาให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ เช่น สาเหตุหลักที่ทำให้เด็กนักเรียนบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงติดอันดับต้นๆ ช่วงเปิดเทอม คือ อุบัติเหตุรถนักเรียน ซึ่งสถิติที่สำรวจเมื่อปี 2565 บ่งชี้ว่าแค่ 6 เดือนแรกที่เปิดเทอม มีนักเรียนเสียชีวิตด้วยเหตุนี้ถึง 165 รายทั่วประเทศ
นอกจากนี้ก็มีประเด็น ‘การก่อเหตุรุนแรงและการกลั่นแกล้งในโรงเรียน’ ซึ่งเห็นได้ชัดจากกรณีที่นักเรียนชายชั้น ม.3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ พก ‘ขวาน’ เข้าไปในโรงเรียน และก่อเหตุทำร้ายรุ่นน้องชั้น ม.2 กลางโรงอาหารจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 21 มิถุนายน 2566 หรือสองวันก่อนเหตุถังดับเพลิงระเบิดในกรุงเทพฯ
อีกประเด็นที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กันก็คือ ‘การล่วงละเมิดทางเพศนักเรียน’ เพราะในปี 2563 มีการแถลงจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาจริงเอาจังเรื่องการปราบปรามผู้กระทำผิดเรื่องการละเมิดทางเพศเด็ก โดยอ้างอิงสถิติคดีทางด้านนี้ที่สำรวจข้อมูลระหว่างปี 2556-2562 มีทั้งหมด 1,186 กรณี
ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า การละเมิดทางเพศเด็กในวัยเรียนเกิดจาก ‘บุคคลอื่น’ กระทำกับเด็ก เป็นสัดส่วนมากสุด คือ 482 กรณี ตามด้วย เด็กกระทำกับเด็กด้วยกันเอง 464 กรณี คนในครอบครัวทำกับเด็ก 135 กรณี และ ครู/บุคลากรการศึกษากระทำกับเด็ก 105 กรณี ซึ่ง สพฐ. ย้ำกับสื่อว่าได้ดำเนินการกับครูหรือบุคลากรการศึกษาเหล่านี้ ‘ขั้นเด็ดขาด’ ทุกราย โดยการลงโทษทางวินัย คือ ‘ไล่ออก’ และยึดใบประกอบวิชาชีพครู ส่วนทางอาญาคือแจ้งความเอาผิดตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ถ้าใครตามข่าวเรื่องนี้ตลอดปี 2565 ที่ผ่านมา จะพบว่ามีหลายกรณีที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบางโรงเรียนเลือกจะ ‘ปกปิด’ ข้อมูลการละเมิดทางเพศในโรงเรียน ซึ่งเหตุผลหลักๆ คือ ไม่อยากให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งยังมีความพยายามกดดันหรือโน้มน้าวให้เด็กที่ถูกละเมิดไม่เอาความหรือเปิดเผยข้อมูล ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลกระทบหลายด้าน ทั้งเรื่องสภาพจิตใจของเด็ก และการปล่อยให้ผู้ก่อเหตุลอยนวลไปได้ ส่วนผู้ที่ปกปิดข้อมูล ถ้ามีคนรู้ทีหลังโดยมากก็แค่ถูกสั่ง ‘ย้าย’ ไปโรงเรียนอื่น
การดูแลความปลอดภัยของนักเรียนนับเป็นหนึ่งในหน้าที่รับผิดชอบของโรงเรียน ถ้ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นจริงๆ ทางโรงเรียนก็ควรมีมาตรการที่จะรับมือหรือเยียวยาให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรม และเรื่องนี้ต่างหากที่โรงเรียนทั้งหลายน่าจะให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ แทนที่จะเข้มงวดกวดขันเรื่องเครื่องแบบหรือทรงผม หรือใช้กฎระเบียบควบคุมเด็กที่ลุกขึ้นมาตั้งคำถามกับความไม่ชอบมาพากล เพราะความเข้มงวดในประเด็นหลัง หลายครั้งก็เป็นชนวนเหตุให้เด็กถูกละเมิดสิทธิในเนื้อตัวร่างกายที่ ‘รุนแรงต่อใจ’ ไม่แพ้กัน
อ้างอิง
- KomChadLuek. ปลัด ศธ.มอบเงินเยียวยาครอบครัว นร.ที่เจ็บ-ตายจากเหตุถังดับเพลิงระเบิด. https://tinyurl.com/79dx9juc
- Thairath. สถิติ 7 ปี ล่วงละเมิดทางเพศนักเรียน ครูไม่มีสิทธิก้าวพลาด. https://tinyurl.com/27s37dm3
- ThaiPBS. สั่งย้าย ผอ.โรงเรียนปกปิดเรื่องเด็กล่วงละเมิดทางเพศใน รร. https://tinyurl.com/ycknmcyb
- MGR Online. ปลัด ศธ.มอบเงินเยียวยาครอบครัว นร.ที่เจ็บ-ตายจากเหตุถังดับเพลิงระเบิด. https://tinyurl.com/ymfkusy7